คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาใหม่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 69 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันยกเลิกโดยปริยายจากการทำสัญญาค้ำประกันใหม่
จำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันการทำงานของ ว.ในตำแหน่งพนักงานของโจทก์ สาขานครราชสีมา ต่อมาโจทก์แต่งตั้งให้ ว.เป็นผู้จัดการของโจทก์ สาขาสีคิ้ว โจทก์ยอมรับจำเลยที่ 1 ให้เข้ามาทำสัญญาค้ำประกันการทำงานของ ว.ในตำแหน่งผู้จัดการ สาขาสีคิ้ว แสดงว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยที่ 2ผูกพันตามสัญญาค้ำประกันต่อไป ถือว่าสัญญาค้ำประกันถูกยกเลิกโดยปริยาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าหมดอายุ-ทำสัญญาใหม่ไม่มีกำหนด-บอกเลิกสัญญา-ค่าเช่า-ค่าเสียหาย-การพิสูจน์ค่าเช่าที่สูงขึ้น
จำเลยได้เช่าตึกแถวพิพาทหลังจากที่โจทก์ซื้อมานานเกือบ 10 ปีโดยไม่ปรากฏว่าก่อนหรือหลังจากที่ให้จำเลยเช่าได้มีการต่อเติมตึกแถวพิพาทแต่อย่างใด เงินที่จำเลยอ้างว่าให้โจทก์เพื่อช่วยค่าก่อสร้าง จึงหาใช่เงินช่วยค่าก่อสร้างตึกแถวพิพาทอันจะทำให้สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาไม่ เมื่อได้มีการบอกเลิกการเช่าโดยชอบแล้ว โจทก์ย่อมฟ้องขับไล่จำเลยได้ สัญญาเช่าตึกแถวพิพาทกำหนดอัตราค่าเช่าไว้เดือนละ 1,000บาท เมื่อครบกำหนดอายุการเช่า 1 ปี จำเลยยังคงอยู่ในตึกแถวพิพาทต่อมาโดยโจทก์ไม่ทักท้วง มาตรา 570 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้ถือว่าโจทก์จำเลยเป็นอันทำสัญญาใหม่ต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา ซึ่งหมายความว่าข้อตกลงเกี่ยวกับกำหนดเวลาไม่มีผลบังคับกันต่อไป ส่วนข้อสัญญาอื่นคงเป็นไปตามสัญญาเช่าเดิมรวมทั้งอัตราค่าเช่าด้วย ดังนั้นเมื่อโจทก์จะขอบังคับให้จำเลยชำระค่าเช่าหลังจากครบอายุการเช่า 1 ปี ในอัตราค่าเช่าที่สูงกว่าที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าโจทก์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อจำเลยมาแสดงว่า ได้มีการตกลงขึ้นค่าเช่าดังที่โจทก์อ้าง การที่โจทก์นำพยานบุคคลมาสืบว่าได้มีการตกลงขึ้นค่าเช่าจึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 โจทก์ฟ้องให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการที่จำเลยครอบครองตึกแถวพิพาททำให้โจทก์ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ในอัตราเดือนละ18,000 บาท จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ในเรื่องดังกล่าว เท่ากับจำเลยยอมรับถึงผลประโยชน์ของตึกแถวพิพาทว่าเป็นจำนวนเงินตามที่โจทก์อ้างจำเลยจึงต้องใช้ค่าเสียหายนั้นแก่โจทก์โดยศาลชั้นต้นไม่จำต้องกำหนดประเด็นในเรื่องค่าเสียหายไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำสัญญาใหม่แทนสัญญาเก่าแสดงเจตนาระงับหนี้สัญญาเก่า สัญญาเก่าจึงสิ้นผลบังคับใช้
การที่คู่สัญญาทำสัญญากู้ยืมเงินขึ้นใหม่แทนหนังสือสัญญากู้ยืมเงินฉบับเก่าแสดงถึงเจตนาของคู่สัญญาว่าได้ตกลงระงับหนี้ตามสัญญาเก่าแล้วให้ใช้สัญญาใหม่แทน สัญญาเก่าเมื่อระงับไปแล้วก็ไม่มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงในการทำสัญญาใหม่นั่นเอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องตามสัญญาฉบับเก่าอีก กรณีนี้เป็นเรื่องตกลงระงับหนี้ ไม่ใช่การชำระหนี้ จึงไม่จำเป็นต้องมีใบเสร็จหรือเวนคืนเอกสารตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำสัญญาใหม่แสดงเจตนาระงับหนี้เก่า สัญญาเก่าจึงสิ้นผลบังคับใช้
การที่คู่สัญญาทำสัญญากู้ยืมเงินขึ้นใหม่แทนหนังสือสัญญากู้ยืมเงินฉบับเก่าแสดงถึงเจตนาของคู่สัญญาว่าได้ตกลงระงับหนี้ตามสัญญาเก่าแล้วให้ใช้สัญญาใหม่แทน สัญญาเก่าเมื่อระงับไปแล้วก็ไม่มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงในการทำสัญญาใหม่นั่นเอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องตามสัญญาฉบับเก่าอีก กรณีนี้เป็นเรื่องตกลงระงับหนี้ไม่ใช่การชำระหนี้ จึงไม่จำเป็นต้องมีใบเสร็จหรือเวนคืนเอกสารตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำสัญญาใหม่ย่อมระงับหนี้เก่า สัญญาเก่าจึงไม่มีผลบังคับใช้
การที่คู่สัญญาทำสัญญากู้ยืมเงินขึ้นใหม่แทนหนังสือสัญญากู้ยืมเงินฉบับเก่าแสดงถึงเจตนาของคู่สัญญาว่าได้ตกลงระงับหนี้ตามสัญญาเก่าแล้วให้ใช้สัญญาใหม่แทน สัญญาเก่าเมื่อระงับไปแล้วก็ไม่มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงในการทำสัญญาใหม่นั่นเอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องตามสัญญาฉบับเก่าอีก กรณีนี้เป็นเรื่องตกลงระงับหนี้ ไม่ใช่การชำระหนี้ จึงไม่จำเป็นต้องมีใบเสร็จหรือเวนคืนเอกสารตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 326.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2635/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสัญญาเช่า, การตัดพยาน, และข้อต่อสู้เรื่องสัญญาใหม่ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุป่วย ทนายจำเลยแถลงว่าติดใจสืบเฉพาะตัวจำเลยเท่านั้นหากนัดหน้าจำเลยไม่มาศาลหรือไม่มีพยานมาศาลให้ถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีเมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยหลังสืบตัวจำเลยแล้ว ทนายจำเลยแถลงขอเลื่อนคดีเพื่อขอสืบพยานอื่น ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าเป็นอันหมดพยานจำเลย คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นไปตามที่จำเลยแถลงไว้และเป็นไปโดยชอบแล้ว
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้เช่า ผู้เช่าจะยกเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
ปัญหาที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ ทั้งไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141-1142/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างใหม่หลังหมดอายุสัญญาเดิม การเลิกจ้างระหว่างสัญญาใหม่มีผลให้ต้องจ่ายค่าชดเชย
กรณีที่สัญญาจ้างมีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน การเลิกจ้างซึ่งจะถือว่าเป็นการเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลาตามความในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46 วรรคสามซึ่งจะทำให้นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยนั้น ได้แก่การที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างในวันที่ครบกำหนดตามสัญญาจ้าง หรือเลิกจ้างในวันที่ระยะเวลาที่ได้ตกลงว่าจ้างสิ้นสุดลง มิได้หมายความว่าเมื่อครบกำหนดตามสัญญาจ้างแล้ว นายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้างเมื่อใดก็ได้ เมื่อสัญญาจ้างฉบับสุดท้ายครบกำหนดในวันที่ 20 เมษายน 2528 จำเลยมิได้เลิกจ้างโจทก์โดยให้โจทก์ทำงานกับจำเลยทั้งยินยอมจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ ต้องถือว่าโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาจ้างกันใหม่โดยความอย่างเดียวกันกับสัญญาเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 581 การที่สัญญาจ้างครบกำหนดในระหว่างที่โจทก์ทำงานอยู่บนเรือนั้น ไม่ใช่เหตุซึ่งจะทำให้จำเลยไม่สามารถเลิกจ้างโจทก์ไม่ได้ ดังนั้น เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 24เมษายน 2528 ซึ่งอยู่ในระหว่างอายุของสัญญาจ้างใหม่จึงต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141-1142/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างใหม่หลังหมดอายุสัญญาเดิม การเลิกจ้างระหว่างอายุสัญญาใหม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
กรณีที่สัญญาจ้างมีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนการเลิกจ้างซึ่งจะถือว่าเป็นการเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลาตามความในประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อ46วรรคสามซึ่งจะทำให้นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยนั้นได้แก่การที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างในวันที่ครบกำหนดตามสัญญาจ้างหรือเลิกจ้างในวันที่ระยะเวลาที่ได้ตกลงว่าจ้างสิ้นสุดลงมิได้หมายความว่าเมื่อครบกำหนดตามสัญญาจ้างแล้วนายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้างเมื่อใดก็ได้เมื่อสัญญาจ้างฉบับสุดท้ายครบกำหนดในวันที่20เมษายน2528จำเลยมิได้เลิกจ้างโจทก์โดยให้โจทก์ทำงานกับจำเลยทั้งยินยอมจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ต้องถือว่าโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาจ้างกันใหม่โดยความอย่างเดียวกันกับสัญญาเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา581การที่สัญญาจ้างครบกำหนดในระหว่างที่โจทก์ทำงานอยู่บนเรือนั้นไม่ใช่เหตุซึ่งจะทำให้จำเลยไม่สามารถเลิกจ้างโจทก์ไม่ได้ดังนั้นเมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่24เมษายน2528ซึ่งอยู่ในระหว่างอายุของสัญญาจ้างใหม่จึงต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสัญญาใหม่มาใช้แทนสัญญาเดิมที่เลิกแล้ว การนำหลักฐานนอกฟ้องมาใช้
ปัญหาที่ว่าสัญญาเลิกกันแล้วหรือไม่กับการนำเอาสัญญาที่เลิกกันแล้วกลับมาใช้ใหม่ตามข้อตกลงในสัญญาใหม่นั้นหาเหมือนกันไม่ ดังนั้น เมื่อโจทก์ไม่ได้ตั้งเรื่องการมีข้อตกลงในสัญญาใหม่ให้นำสัญญาที่จำเลยต่อสู้ว่าเลิกกันแล้วกลับมาใช้ใหม่แต่กลับปรากฏว่ามีสัญญาใหม่ดังกล่าวในขั้นสืบพยานจึงย่อมถือได้ว่า โจทก์นำสืบถึงสัญญาใหม่ดังกล่าวนอกฟ้องนอกประเด็นจะรับฟังนำมาวินิจฉัยคดีหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2655/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่จดทะเบียน สิทธิการเช่าสิ้นสุดเมื่อครบกำหนด การไม่ทักท้วงถือเป็นการทำสัญญาใหม่ไม่มีกำหนดเวลา
โจทก์จำเลยทำสัญญาเช่าตึกพิพาทลงวันเดียวกัน 4 ฉบับมีกำหนด 10 ปี สามฉบับแรกมีกำหนดเวลาเช่าฉบับละ 3ปี ฉบับสุดท้ายมีกำหนดเวลาเช่า 1 ปี โดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงมีผลบังคับเพียง 3ปีตามสัญญาเช่าฉบับแรกเท่านั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 538 เมื่อสัญญาเช่าฉบับแรกสิ้นกำหนดแล้ว การที่จำเลยยังอยู่ในตึกพิพาทและโจทก์ไม่ทักท้วงถือว่าโจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันใหม่ต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา ตามมาตรา 570 เมื่อโจทก์ได้บอกเลิกการเช่าให้จำเลยทราบโดยชอบแล้ว สัญญาเช่าเป็นอันระงับตามมาตรา 566 จำเลยต้องออกจากตึกพิพาท
of 7