พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1072/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: ความรับผิดเมื่อไม่ส่งตัว แม้สั่งไม่ฟ้อง และการลดจำนวนเงินตามกฎหมาย
สัญญาประกันมีความว่าจำเลยได้รับประกันผู้ต้องหาไปจากความควบคุมของเจ้าพนักงานตำรวจ และสัญญาว่าจะส่งตัวผู้ต้องหาได้ตามกำหนดนัดของเจ้าพนักงาน เมื่อจำเลยไม่ส่งตัวผู้ต้องหาตามกำหนดจำเลยก็ย่อมไม่พ้นความรับผิดตามสัญญา การที่อธิบดีกรมตำรวจสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาก่อนถึงกำหนดส่งตัวนั้น ไม่เป็นเหตุให้จำเลยพ้นความรับผิด หรือไม่ต้องส่งผู้ต้องหา
ความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 113 หมายความว่า ให้อำนาจพนักงานสอบสวนเรียกประกันผู้ต้องหาได้เฉพาะเมื่อคดีอยู่ระหว่างสอบสวนเท่านั้น แต่เมื่อได้สั่งปล่อยผู้ต้องหาหรือได้ฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแล้ว จะเรียกประกันมิได้ มิใช่หมายความว่าเมื่อพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องแล้วสัญญาประกันที่ทำไว้เป็นอันเลิกหรือระงับไป
ในคดีผิดสัญญาประกันผู้ต้องหาเมื่อพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาแล้ว ศาลย่อมลดจำนวนเงินในสัญญาให้ได้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119
ความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 113 หมายความว่า ให้อำนาจพนักงานสอบสวนเรียกประกันผู้ต้องหาได้เฉพาะเมื่อคดีอยู่ระหว่างสอบสวนเท่านั้น แต่เมื่อได้สั่งปล่อยผู้ต้องหาหรือได้ฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแล้ว จะเรียกประกันมิได้ มิใช่หมายความว่าเมื่อพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องแล้วสัญญาประกันที่ทำไว้เป็นอันเลิกหรือระงับไป
ในคดีผิดสัญญาประกันผู้ต้องหาเมื่อพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาแล้ว ศาลย่อมลดจำนวนเงินในสัญญาให้ได้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2563 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2563
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อัยการเรียกรับเงินเพื่อสั่งไม่ฟ้องคดี: การแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบต่อหน้าที่
จำเลยเป็นพนักงานอัยการ ผ่านการว่าความมาเป็นจำนวนมาก ย่อมคุ้นเคยกับการซักถามพยานในรูปแบบต่าง ๆ เป็นอย่างดี ข้อเท็จจริงปรากฏตามบันทึกการถอดเทปสนทนาระหว่างจำเลยกับ ภ. ว่า ภ. พยายามขอร้องให้จำเลยช่วยเหลือ อ. เพื่อมิให้ถูกดำเนินคดี ซึ่งจำเลยก็มิได้ปฏิเสธ เพียงแต่รอให้ ภ. เสนอจำนวนเงิน และเมื่อ ภ. ซักถาม จำเลยยังพูดอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินคดีแก่ อ. เพื่อโน้มน้าวให้ ภ. เห็นว่าข้อหานำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรมีอัตราโทษสูง ส่อแสดงว่าจำเลยตอบคำถามของ ภ. ด้วยความสมัครใจ แม้การแอบบันทึกภาพและเสียงการสนทนาระหว่างจำเลยกับ ภ. ตามแผ่นซีดีหมาย วจ.1 และ วจ.2 จะเป็นการแสวงหาหลักฐานโดยมิชอบตาม ป.วิ.อ. มาตรา 226 ก็ตาม แต่ ป.วิ.อ. มาตรา 226/1 บัญญัติให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบได้ ถ้าการรับฟังพยานหลักฐานนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรมมากกว่าผลเสียอันเกิดจากผลกระทบต่อมาตรฐานของระบบงานยุติธรรมทางอาญา ดังนั้น แม้แผ่นซีดีหมาย วจ.1 และ วจ.2 รวมทั้งบันทึกการถอดเทปสนทนาดังกล่าวจะได้มาโดยมิชอบ ศาลก็นำมารับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
แม้ขณะเกิดเหตุ ป.วิ.อ. มาตรา 226/1 จะยังไม่ประกาศใช้ แต่บทบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายวิธีสบัญญัติและมีผลใช้บังคับทันทีนับแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ คือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551 กรณีเช่นนี้หาใช่เป็นการใช้กฎหมายย้อนหลัง ศาลมีอำนาจนำบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.อ. มาตรา 226/1 มาใช้บังคับแก่คดีนี้ได้
แม้ขณะเกิดเหตุ ป.วิ.อ. มาตรา 226/1 จะยังไม่ประกาศใช้ แต่บทบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายวิธีสบัญญัติและมีผลใช้บังคับทันทีนับแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ คือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551 กรณีเช่นนี้หาใช่เป็นการใช้กฎหมายย้อนหลัง ศาลมีอำนาจนำบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.อ. มาตรา 226/1 มาใช้บังคับแก่คดีนี้ได้