คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิสืบพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีและสิทธิในการสืบพยานจำเลยต้องอ้างเหตุแห่งการปฏิเสธ หากไม่ทำสิทธิสืบพยานเป็นอันตกไป
คำให้การจำเลยที่ปฏิเสธเพียงว่า บ.ไม่ได้กู้เงินโจทก์หนังสือสัญญากู้ยืมเงินท้ายฟ้องไม่ถูกต้องและไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย โดยไม่ได้อ้างเหตุตั้งประเด็นไว้ว่า เหตุใด บ.จึงไม่ได้กู้เงินโจทก์ และหนังสือสัญญากู้ยืมเงินท้ายฟ้องไม่ถูกต้องและไม่สมบูรณ์อย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยไม่มีสิทธิสืบพยานตามข้อต่อสู้
หนังสือสัญญากู้ยืมเงินไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ในขณะทำสัญญาแต่ต่อมาได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนแล้ว จะโดยผู้อ้างปิดอากรแสตมป์เองหรือผู้อ้างขอให้ศาลสั่งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรจัดการให้ ก็มีผลเช่นเดียวกัน ศาลรับฟังหนังสือสัญญากู้ยืมเงินนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4017/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน หากเงื่อนไขการสืบพยานไม่เป็นไปตามที่ตกลง
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาชื่อสัญญาประนีประนอมยอมความและรับสภาพหนี้เพื่อระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับเงินสดขาดบัญชีระหว่างที่จำเลย เป็นผู้จัดการร้านโจทก์ความว่าข้อ 1.จำเลย ยอมรับผิดชดใช้เงินสด ขาดบัญชีที่ผู้สอบบัญชีของโจทก์ตรวจพบระหว่างจำเลยเป็น ผู้จัดการร้านโจทก์เป็นเงิน 36,667.75บาท และยอดเงินสดคงเหลือ เมื่อวันจำเลยออกจากตำแหน่งผู้จัดการร้านโจทก์มีเงินขาดบัญชีอีก 15,738.21 บาทข้อ2.จำเลยขอเวลาทำการตรวจสอบหลักฐานทางบัญชี ตามที่ผู้สอบบัญชีอ้างว่ามีเงินสดขาดบัญชีเพื่อความแน่นอนเป็นเวลา 3 เดือน นับแต่วันทำสัญญา หากพบหลักฐานการเงินที่สามารถนำมา หักกลบลบเงินขาดบัญชีโดยผู้สอบบัญชีและคณะกรรมการดำเนินการ ของร้านโจทก์ยินยอมเห็นชอบด้วย จำเลยยินยอมชดใช้ส่วนที่ยังขาดอยู่ ให้แก่โจทก์ ต่อมาจำเลยได้ตรวจสอบบัญชีตามสัญญาข้อ 2. และแจ้งให้โจทก์ทราบแต่ผู้สอบบัญชีและคณะกรรมการดำเนินการของร้านโจทก์ ไม่เห็นชอบด้วย ดังนี้ สัญญาดังกล่าวทั้งสองฝ่ายตกลงระงับข้อพิพาททั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้นโดยตกลงผ่อนผันให้แก่กันในจำนวนเงินที่ผู้สอบบัญชีของโจทก์ตรวจพบระหว่างจำเลยเป็นผู้จัดการร้านโจทก์และ ส่งมอบเงินสดขาดบัญชีขณะจำเลยพ้นจากตำแหน่งโดยจำเลยยอมรับผิด ชดใช้เงินดังกล่าวทั้งสองสำนวนและโจทก์ไม่ดำเนินคดีแก่จำเลยทางแพ่ง และทางอาญาสัญญาฉบับนี้จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 อันมีผลทำให้การเรียกร้อง ของโจทก์จำเลยซึ่งมีอยู่ขณะนั้นระงับสิ้นไปคงได้สิทธิตามที่แสดงไว้ใน สัญญาประนีประนอมยอมความและรับสภาพหนี้เท่านั้นดังนั้นการที่จำเลย จะขอนำสืบพยานตามเงื่อนไขในสัญญาประนีประนอมยอมความและ รับสภาพหนี้ ข้อ2 ได้ก็ต้องให้ผู้ตรวจบัญชีและคณะกรรมการดำเนินงาน ของร้านโจทก์ยินยอมเห็นชอบด้วยซึ่งจำเลยก็ยอมรับแล้วว่าบุคคลดังกล่าว มิได้ยินยอมเห็นชอบด้วยกับหลักฐานที่จำเลยนำมาแสดงดังนั้นโดย สัญญาข้อ 2 จำเลยจึงไม่มีสิทธิสืบพยานต่อไปที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ให้งดสืบพยานของคู่ความจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2051/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยเหตุฉ้อฉล จำเลยมีสิทธิสืบพยานเพื่อพิสูจน์
โจทก์ในฐานะผู้ทรงเช็คฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยผู้สั่งจ่าย จำเลยให้การต่อสู้เป็นประเด็นสำคัญว่า บริษัท ม. ผู้โอนเช็คให้โจทก์ได้นำเช็คพิพาทไปขึ้นเงินแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน บริษัท ม.จึงได้ให้ ก. ลูกหนี้ผู้นำเช็คพิพาทมาชำระหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แล้วโอนเช็คให้โจทก์ โจทก์รับโอนเช็คพิพาทจากบริษัท ม. โดยคบคิดกันฉ้อฉล โดยโจทก์กับบริษัท ม. ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน โจทก์รับสมอ้างนำเช็คมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ดังนี้เป็นการให้การต่อสู้ว่าโจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบเพราะการโอนมีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล จึงเป็นคำให้การที่แสดงโดยชัดแจ้งถึงข้อต่อสู้ของจำเลยรวมทั้งเหตุแห่งการนั้น ต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จำเลยจึงมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้ดังกล่าวได้ ไม่ชอบที่ศาลจะสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีเช็คพิพาท: จำเลยต้องแสดงเหตุแห่งการต่อสู้ชัดเจนตามมาตรา 177 วรรคสอง เพื่อมีสิทธิสืบพยาน
เช็คพิพาทเป็นเช็คที่ออกให้แก่ผู้ถือ จำเลยให้การว่าจำเลยเพียงแต่ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาทโดยไม่ได้กรอกข้อความแล้วมอบให้ อ.ไปชำระหนี้แทนมารดาสามีจำเลยปรากฏว่ามีผู้ไปชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว จำเลยจึงขอเช็คพิพาทคืนจาก อ.แต่ อ.แจ้งว่าเช็คพิพาทหายไป ตามคำให้การของจำเลยไม่ได้ระบุว่ามอบเช็คพิพาทให้ อ.ไปชำระหนี้เป็นจำนวนเงินเท่าใด ซึ่งเป็นสารสำคัญเพราะถ้า อ.หรือผู้ใดก็ตามกรอกจำนวนเงินลงในเช็คพิพาทเท่ากับจำนวนเงินที่เป็นหนี้ ย่อมถือไม่ได้ว่าเป็นการปลอมเอกสารคำให้การของจำเลยในข้อนี้จึงไม่ชัดแจ้งและที่จำเลยให้การต่อไปว่าได้มีการกรอกข้อความในข้อสำคัญลงในเช็คพิพาทโดยปราศจากอำนาจโดยจำเลยมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยหรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยจำเลยก็ไม่ได้ระบุให้ชัดแจ้งว่าจำเลยมีคำสั่งอย่างไร ไม่อาจทราบได้ว่าการกรอกข้อความในเช็คพิพาทนั้นฝ่าฝืนคำสั่งของจำเลยหรือไม่คำให้การของจำเลยจึงไม่แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งเหตุแห่งการนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177วรรคสองจำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามที่ให้การต่อสู้ไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีโดยไม่แสดงเหตุแห่งการต่อสู้ ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิสืบพยาน
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าซื้อสินค้าจากจำเลย จำเลยให้การ ต่อสู้คดีว่าหนี้สินระหว่างโจทก์จำเลยในกรณีนี้มิได้ ติดค้างกันแต่อย่างใด โดยมิได้อ้างเหตุว่าที่ไม่มีหนี้สินติดค้างกันนั้นเพราะเหตุใด จึงเป็นคำให้การที่ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งเหตุแห่งการนั้นตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177บัญญัติไว้จำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามที่ให้การต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีหนี้สินที่ไม่ชัดเจนเหตุผล จำเลยไม่มีสิทธิสืบพยานตามที่ให้การ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าซื้อสินค้าจากจำเลย จำเลยให้การ ต่อสู้คดีว่าหนี้สินระหว่างโจทก์จำเลยในกรณีนี้มิได้ ติดค้างกันแต่อย่างใด โดยมิได้อ้างเหตุว่าที่ไม่มีหนี้สินติดค้างกันนั้นเพราะเหตุใด จึงเป็นคำให้การที่ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งเหตุแห่งการนั้นตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 บัญญัติไว้จำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามที่ให้การต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3203/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยที่ 12 มีสิทธิสืบพยานได้ แม้ไม่ยื่นคำให้การ หากศาลบันทึกคำแถลงขอใช้คำให้การของจำเลยอื่น
การที่จำเลยที่ 12 แถลงขอถือเอาคำให้การของจำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 11 ซึ่งได้ยื่นเป็นหนังสือและศาลแรงงานกลางได้รับคำให้การนั้นแล้วเป็นคำให้การของจำเลยที่ 12 ด้วย และศาลแรงงานกลางได้บันทึกคำแถลงนั้นไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้วกำหนดหน้าที่นำสืบไปตามประเด็นแห่งคดี จึงเท่ากับจำเลยที่ 12 ได้ให้การต่อสู้คดีเช่นเดียวกับคำให้การของจำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 11และศาลแรงงานกลางได้รับคำให้การนั้นแล้วจำเลยที่ 12จึงมีสิทธินำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769-2770/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของบุคคลภายนอกในคดีอาญา และการสืบพยานเรื่องประมาทในคดีค่าเสียหาย
จำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันที่จำเลยที่ 1 ขับไปชนกับรถยนต์ของโจทก์ และไม่ได้เป็นคู่ความในคดีอาญาที่พนักงานอัยการ ฟ้องขอให้ลงโทษโจทก์ จำเลยที่ 3 จึงเป็นบุคคลภายนอกไม่ถูกผูกพันโดยคำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การต่อสู้คดีแพ่งต้องชัดแจ้งเหตุ หากไม่ชัดเจนจำเลยไม่มีสิทธิสืบพยาน
จำเลยให้การยอมรับว่า ได้ซื้อสินค้าไปจากโจทก์และไม่ได้ชำระเงินค่าสินค้าให้โจทก์จริงตามฟ้อง แต่อ้างว่าสินค้าที่โจทก์ส่งให้จำเลยเสียหายหลายรายการ ไม่ตรงตามที่ตกลงและไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ โดยมิได้อ้างเหตุแห่งการนั้นไว้ในคำให้การว่าสินค้าที่โจทก์ส่งให้จำเลยนั้นเสียหายอย่างไรมีข้อตกลงกันอย่างไร ส่งไม่ตรงตามที่ตกลงกันอย่างไร และตกลงกันให้ส่งสินค้าเมื่อไร แล้วโจทก์ส่งสินค้าให้ก่อนหรือหลังเวลาที่ตกลงกันไว้ จึงเป็นคำให้การที่ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งเหตุแห่งการอ้างว่าสินค้าที่โจทก์ส่งให้เสียหายหลายรายการและไม่ตรงตามที่ตกลงกัน กับไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 2บัญญัติไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธินำพยานมาสืบตามที่จำเลยให้การดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2150/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมหลังศาลสั่งสืบพยานโจทก์บางส่วนยังไม่ถือว่าคดีเสร็จการสืบพยาน หากโจทก์ยังมีสิทธิสืบพยานต่อได้
ก่อนส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์หนึ่งปากที่ศาลอื่น ทนายโจทก์แถลงต่อศาลที่พิจารณาคดีว่าหมดพยานที่ศาลนี้แล้ว ครั้นศาลอื่นสืบพยานประเด็นเสร็จแล้ว ส่งประเด็นคืนศาลที่พิจารณาคดีนัดฟังประเด็นกลับ แต่ก่อนวันนัดฟังประเด็นกลับหนึ่งวัน จำเลยยื่นคำแถลงขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม ดังนี้ ถือได้ว่าคดียังไม่เสร็จการสืบพยานหลักฐานของโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน จำเลยจึงยื่นเป็นคำแถลงขอระบุพยานเพิ่มเติมได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88 วรรค 2 หาต้องทำเป็นคำร้องไม่
of 3