พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถ ชนกันที่สี่แยก แม้ผู้ขับอีกฝ่ายประมาท จำเลยก็ต้องรับผิดชอบหากขับเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ประจำทางโดยประมาทฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจราจร เป็นเหตุให้ชนกับรถยนต์อีกคันหนึ่งมีคนบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัสหลายคน ศาลแขวงลงโทษจำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจราจร ให้ยกฟ้องในข้อหาฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส โจทก์อุทธรณ์ในข้อกฎหมายว่าจำเลยมีความผิดฐานขับรถโดยประมาทด้วย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดฐานทำให้คนบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทด้วย เช่นนี้จำเลยฎีกาได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 เพราะในข้อหาฐานทำให้คนบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทนั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยขับรถผ่านสี่แยกด้วยความเร็วเกินกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถอีกคันหนึ่งขับล้ำเข้าไปในสี่แยกโดยฝ่าฝืนเครื่องหมายหยุด การที่จำเลยขับรถผ่านสี่แยกด้วยความเร็วเกินกำหนดและไม่ชลอให้ช้าลงบ้าง เป็นเหตุให้รถชนกัน ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยได้กระทำการโดยประมาท
จำเลยขับรถผ่านสี่แยกด้วยความเร็วเกินกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถอีกคันหนึ่งขับล้ำเข้าไปในสี่แยกโดยฝ่าฝืนเครื่องหมายหยุด การที่จำเลยขับรถผ่านสี่แยกด้วยความเร็วเกินกำหนดและไม่ชลอให้ช้าลงบ้าง เป็นเหตุให้รถชนกัน ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยได้กระทำการโดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการผ่านทางสี่แยก: รถที่มาถึงก่อนมีสิทธิไปก่อน แม้จะเป็นทางเอกด้วยกัน
ในทางเอกด้วยกัน ณ ที่ร่วมกันตัดกัน หรือแยกกัน ให้รถที่มาจากทางซ้ายผ่านไปก่อนนั้น หมายถึงกรณีที่รถทั้งสองคันมาถึงปากทางที่ร่วมกัน ตัดกัน หรือแยกกัน พร้อมกัน แต่ถ้าหากรถคันทางขวามาถึงทางดังกล่าวแล้วก่อน ก็หาจำต้องหยุดรอให้รถคันทาางซ้ายผ่านไปก่อนไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10388/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สี่แยกทางโทต้องหยุดรอทางเอก การคาดคะเนความเร็วรถผู้อื่นโดยไม่ปฏิบัติตามป้ายจราจร ถือเป็นความประมาท
ทางเดินรถของ ว. ลูกจ้างโจทก์เป็นทางโท รถในทางโทต้องยอมให้รถในทางเอกผ่านไปก่อนทั้งบริเวณสี่แยกเกิดเหตุมีป้ายจราจร "หยุด" ซึ่งบังคับให้รถในทางโทต้องหยุดรถเพื่อรอให้รถที่มาจากทางเอกผ่านพ้นสี่แยกไปก่อนจึงจะขับผ่านสี่แยกเกิดเหตุได้ แม้รถในทางโทจะมาถึงสี่แยกก่อนแต่ถ้าไม่สามารถขับผ่านสี่แยกไปด้วยความเร็วตามปกติและตามพฤติการณ์ในขณะนั้นได้โดยปลอดภัยแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามป้ายจราจรดังกล่าวโดยหยุดรถเพื่อรอให้รถในทางเอกผ่านไปก่อน ว. ซึ่งขับรถยนต์โดยสารประจำทางในทางโทที่มีป้ายจราจรหยุดจะคาดคะเนเอาเองว่า เมื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งขับรถยนต์บรรทุกในทางเอกเห็นรถในทางโทมาถึงและใช้ทางแยกก่อนแล้ว จะต้องหยุดรถโดย ว. ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎและป้ายจราจรหาได้ไม่ การที่ ว. ขับรถผ่านเข้าไปในสี่แยกเกิดเหตุโดยคาดคะเนเอาเองว่าจำเลยที่ 1 จะต้องชะลอและหยุดรถรอให้ ว. ขับรถผ่านไปก่อนย่อมเป็นการเสี่ยงภัยก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้โดยง่าย ทั้งเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎและป้ายจราจร ถือว่า ว. ประมาทเลินเล่อ เมื่อเกิดเหตุรถยนต์ชนกัน ว. จึงมีส่วนประมาทไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าจำเลยที่ 1