พบผลลัพธ์ทั้งหมด 127 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4332/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกรรมเดียวจากการกระทำเกี่ยวกับสุรา: ทำ, มี, ขาย ในคราวเดียวกัน
จำเลยทำสุรากลั่น ทำสุราแช่ มีสุรากลั่น มีสุราแช่ และขายสุรากลั่น ขายสุราแช่ในคราวเดียวกัน การที่จำเลยทำสุรากลั่นทำสุราแช่จึงเป็นความผิดกรรมเดียว มีสุรากลั่นและสุราแช่ก็เป็นความผิดกรรมเดียว และขายสุรากลั่นและขายสุราแช่ก็เป็นความผิดกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3789/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำสุราและมีสุราไว้ในครอบครองถือเป็นกรรมเดียวกัน ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยกระทำผิดฐานทำสุรากลั่น ทำสุราแช่ กับมีสุรากลั่นและมีสุราแช่โดยไม่ได้รับอนุญาตในวันเวลาเดียวกัน แสดงว่าจำเลยทำสุราและมีสุราทั้งสุรากลั่นและสุราแช่ของกลางในคราวเดียวกัน ตาม พ.ร.บ.สุราฯ ที่แก้ไขแล้ว มาตรา 5 บัญญัติห้ามการทำสุราซึ่งหมายถึงสุรากลั่นและสุราแช่ไว้ในมาตราเดียวกัน ในคราวเดียวกัน การทำสุรากลั่นและทำสุราแช่ จึงเป็นความผิดกรรมเดียวกัน และมาตรา 32 ก็บัญญัติเกี่ยวกับการมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ทำขึ้นฝ่าฝืนมาตรา 5 ซึ่งหมายความถึงสุรากลั่นและสุราแช่ การมีสุรากลั่นและสุราแช่ไว้ในครอบครอง จึงเป็นความผิดกรรมเดียวกันอีกกรรมหนึ่ง.
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษแต่ละกระทงจำคุกไม่เกิน 1 ปีและปรับไม่เกิน 10,000 บาท คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 219 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษแต่ละกระทงจำคุกไม่เกิน 1 ปีและปรับไม่เกิน 10,000 บาท คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 219 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2187/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาขายสุราตามราคาตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจตามกฎหมาย
โจทก์เป็นเอเยนต์จำหน่ายสุราขาวและสุราผสมในเขตจังหวัดสมุทรปราการ และเป็นผู้ขายส่งสุราแม่โขงและสุรากวางทองในเขตจังหวัดนั้นด้วย การที่โจทก์อ้างว่าได้ขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองให้แก่บริษัท ป. ซึ่งเป็นตัวแทนช่วงอีกทอดหนึ่งของโจทก์ไปในราคาเท่าทุน เพราะโจทก์ไม่ได้ไปตั้งร้านค้าในเขตจังหวัดสมุทรปราการ และเพื่อจูงใจให้บริษัท ป. ซื้อสุราขาวและสุราผสมของโจทก์ในราคาขายปลีกนั้น ก็เพื่อผลประโยชน์ของโจทก์ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตั้งร้านค้าเท่ากับเป็นกำไรส่วนหนึ่งของโจทก์ เมื่อโจทก์เป็นเอเยนต์สุราขาวและสุราผสมในเขตจังหวัดสมุทรปราการแล้วอื่นก็ไม่สามารถนำสุราขาวและสุราผสมมาจำหน่ายในเขตจังหวัดนั้นได้ จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่โจทก์จะจำหน่ายสุราแม่โขงและสุรากวางทองแก่บริษัท ป. ไปในราคาเท่าทุนราคาดังกล่าวจึงมิใช่เป็นราคาตลาดและเป็นการขายไปในราคาต่ำ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงค่าภาษีหรือชำระค่าภาษีให้น้อยลง เจ้าพนักงานประเมินย่อมมีอำนาจประเมินราคาขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองตามราคาตลาดตามประมวลรัษฎากรมาตรา 65 ทวิ (4) ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2187/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินราคาขายสุราตามราคาตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
โจทก์เป็นเอเยนต์ จำหน่ายสุราขาวและสุราผสมในเขตจังหวัด สมุทรปราการ และเป็นผู้ขายส่งสุราแม่โขงและสุรากวางทองในเขตจังหวัดนั้นด้วย การที่โจทก์อ้างว่าได้ ขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองให้แก่บริษัท ป. ซึ่ง เป็นตัวแทนช่วงอีกทอดหนึ่งของโจทก์ไปในราคาเท่าทุน เพราะโจทก์ไม่ได้ไปตั้ง ร้านค้าในเขตจังหวัด สมุทรปราการ และเพื่อจูงใจให้บริษัท ป. ซื้อ สุราขาวและสุราผสมของโจทก์ในราคาขายปลีกนั้น ก็เพื่อผลประโยชน์ของโจทก์ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตั้ง ร้านค้าเท่ากับเป็นกำไรส่วนหนึ่งของโจทก์ เมื่อโจทก์เป็นเอเยนต์ สุราขาวและสุราผสมในเขตจังหวัด สมุทรปราการ แล้ว ผู้อื่นก็ไม่สามารถนำสุราขาวและสุราผสมมาจำหน่ายในเขตจังหวัดนั้นได้ จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่โจทก์จะจำหน่ายสุราแม่โขงและสุรากวางทองแก่บริษัท ป. ไปในราคาเท่าทุนราคาดังกล่าวจึงมิใช่เป็นราคาตลาดและเป็นการขายไปในราคาต่ำ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงค่าภาษีหรือชำระค่าภาษีให้น้อยลง เจ้าพนักงานประเมินย่อมมีอำนาจประเมินราคาขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองตาม ราคาตลาดตาม ประมวลรัษฎากรมาตรา 65 ทวิ (4) ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต: การออกหนังสือสำคัญ ส.๑/๔๒ ที่ไม่ถูกต้อง
ตาม พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๑๖ อธิบดีกรมสรรพสามิตมีอำนาจอนุญาตให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราประเภทที่ ๑ หรือประเภทที่ ๒ หรือตัวแทนออกหนังสือสำคัญแบบ ส.๑/๔๒ สำหรับขนสุราออกจากสถานที่ขายสุราของตน ได้ ตาม เงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนดไว้โดย ถือ เสมือนหนึ่งเป็นใบอนุญาตขนสุราตาม มาตรา ๑๔ การที่จำเลยซื้อ เบียร์จำนวน ๒,๔๐๐ ขวดจากผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราและผู้ได้รับใบอนุญาตได้ ออกหนังสือสำคัญแบบ ส.๑/๔๒ ให้จำเลย โดยเขียนชื่อ ผู้ซื้อซึ่ง จำเลยเป็นผู้บอกไม่ตรงกับความเป็นจริงและไม่ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวจะมีตัวตน จริงหรือไม่ จึงถือว่าไม่ปฏิบัติตาม เงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนด ไม่มีผลให้หนังสือสำคัญดังกล่าวเป็นเสมือนหนึ่งใบอนุญาตขนสุรา จำเลยจึงมีความผิดฐาน ขนสุราโดย ไม่ได้รับใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัติสุราพ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๑๔ ๓๘ ทวิ และพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.๒๔๙๗(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๘.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีหนังสือสำคัญ ส.1/42 ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข
ตาม พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 16 อธิบดีกรมสรรพสามิตมีอำนาจอนุญาตให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราประเภทที่ 1 หรือประเภทที่ 2 หรือตัวแทนออกหนังสือสำคัญแบบ ส.1/42 สำหรับขนสุราออกจากสถานที่ขายสุราของตน ได้ ตาม เงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนดไว้โดย ถือ เสมือนหนึ่งเป็นใบอนุญาตขนสุราตาม มาตรา 14 การที่จำเลยซื้อ เบียร์จำนวน 2,400 ขวดจากผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายสุราและผู้ได้รับใบอนุญาตได้ ออกหนังสือสำคัญแบบ ส.1/42 ให้จำเลย โดยเขียนชื่อ ผู้ซื้อซึ่ง จำเลยเป็นผู้บอกไม่ตรงกับความเป็นจริงและไม่ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวจะมีตัวตน จริงหรือไม่ จึงถือว่าไม่ปฏิบัติตาม เงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนด ไม่มีผลให้หนังสือสำคัญดังกล่าวเป็นเสมือนหนึ่งใบอนุญาตขนสุรา จำเลยจึงมีความผิดฐาน ขนสุราโดย ไม่ได้รับใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัติสุราพ.ศ. 2493 มาตรา 1438 ทวิ และพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2497(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 8.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1616/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกความผิดฐานมีเครื่องมือทำสุรา, ทำ-ขายสุรา, มีสุรา, และมีแสตมป์ปลอมเป็นคนละกรรม เพื่อลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
โจทก์ได้บรรยายฟ้องในข้อหามีภาชนะและเครื่องมือใช้สำหรับทำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาทำและขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา5,30 มาเป็นแต่ละกรรม และของกลางก็เป็นคนละส่วนกันทั้งสภาพความผิดก็สามารถแยกออกเป็นต่างกรรมกันได้ จึงเป็นความผิดคนละกรรมต่างกัน ส่วนความผิดฐานมีสุราไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับความผิดฐานมีแสตมป์สุราปลอมนั้น พระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติความผิดในโทษทั้งสองฐานนี้ไว้คนละมาตราและสภาพความผิดก็เห็นได้ชัดว่าแยกต่างหากจากกัน ดังนี้Sการกระทำของจำเลยสองกรรมหลังนี้จึงเป็นคนละกรรม และเป็นคนละกรรมกับความผิดในสองกรรมแรก.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1167/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องคดีสุราเนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์มีพิรุธและขัดแย้งกัน
เมื่อความผิดฐานมีสุรากลั่นไว้ในครอบครอง ฐานมีสุราแช่ไว้ในครอบครอง และฐานทำสุราแช่โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ประกอบกับพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัดพ.ศ. 2520 มาตรา 3 แม้ผู้พิพากษาที่ลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ก็ตาม จำเลยก็ไม่มีสิทธิฎีกาในข้อหาดังกล่าว แต่เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยข้อหาความผิดฐานมีภาชนะเครื่องต้มกลั่นสำหรับทำสุราไว้ในครอบครองและฐานทำสุรากลั่นโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งจำเลยมีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้แล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดฐานมีสุรากลั่นไว้ในครอบครองฐานมีสุราแช่ไว้ในครอบครอง และฐานทำสุราแช่โดยไม่ได้รับอนุญาตได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185เพราะเป็นข้อเท็จจริงอันเกี่ยวพันกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3227/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมและการตรวจค้นสุราที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย: เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
จำเลยทั้งสี่ตรวจพบสุรากลั่นจำนวน 14 ขวด มีแรงแอลกอฮอล์สูงกว่าสุราที่ชอบด้วยกฎหมายและโจทก์ว่าเป็นสุราที่ซื้อมาจาก ล. ตัวแทนจำหน่ายสุราในอำเภอจักราช ดังนี้ ไม่ใช่ความผิดซึ่งเจ้าพนักงานเห็นโจทก์กำลังกระทำหรือพบในอาการซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าโจทก์กระทำผิดมาแล้วสด ๆ จึงไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าซึ่งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจะจับโจทก์ได้โดยไม่มีหมายจับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2487/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายและฆ่าโดยไม่เจตนาจากฤทธิ์สุรา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
จำเลยที่1เมาสุราใช้มีดปลายแหลมยาวทั้งตัวทั้งด้ามประมาณ1คืบแทงเปะปะไปโดยมิได้เลือกว่าเป็นที่ใดและแทงผู้ตายไปทีเดียวจะฟังว่ามีเจตนาฆ่ายังไม่ถนัดการกระทำของจำเลยที่1เป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา.