คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนี้ทั้งหมด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชำระหนี้เป็นงวด การผิดนัดชำระแม้เพียงงวดเดียวถือเป็นผิดนัดทั้งหมด
จำเลยทำสัญญายอมความชำระหนี้จำนองจำนวนหนึ่ง โดยมีข้อตกลงกำหนดและเวลาชำระหนี้ว่า จะต้องชำระภายในวันที่ 1 ของทุก ๆ เดือน เดือนละ 1,000 บาท แต่ไม่มีข้อความว่าถ้าผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมด เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผิดสัญญายอม การที่จำเลยตกลงกำหนดเวลาชำระหนี้เป็นงวด ๆ นี้ หาได้แยกหนี้ออกเป็นราย ๆ ต่างรายกันไม่ เหตุนี้เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ แม้แต่งวดหนึ่งงวดใดก็ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้จำนองรายนั้นทั้งหมด หาใช่ผิดนัดแต่เฉพาะงวดไม่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ค้ำประกันลูกหนี้ร่วมกัน: ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบหนี้ทั้งหมด ไม่สามารถแบ่งรับผิดเฉพาะส่วน
ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทน ในกรณีละเมิดให้โจทก์จำเลยทั้งสองจึงเป็นลูกหนี้ร่วมกัน มีหน้าที่ต้อง ชำระหนี้ให้โจทก์เสร็จสิ้นเชิง จำเลยจะแบ่งชำระให้โจทก์เป็นส่วน ๆ เฉพาะของจำเลยแต่ละคนหาได้ไม่เมื่อความรับผิดร่วมกันของ จำเลยทั้งสอง ต่อโจทก์มีอย่างนี้ ผู้ร้องกับ บ. ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์เสร็จสิ้นเชิงตามคำพิพากษา เช่นเดียวกัน จะให้ผู้ร้องกับ บ. รับผิดใช้ค่าสินไหมให้โจทก์เฉพาะส่วน ของจำเลยที่ 1 โดยแบ่งคนละครึ่งกับจำเลยที่ 2 ไม่ได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 432 วรรคสาม เป็นบทบัญญัติว่าด้วยส่วนแบ่งความรับผิดในเมื่อมีการเรียกร้องในระหว่างผู้ที่ต้องรับผิดร่วมกัน คือ จำเลยทั้งสองด้วยกันเองมิใช่บทบัญญัติให้จำเลยทั้งสองซึ่งต้องรับผิดร่วมกัน แบ่งแยกกันใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์รับไปตามส่วนของจำเลยแต่ละคน ดังนั้น ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 จะอาศัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 432 วรรคสามนี้มาอ้างว่าผู้ร้องมีความรับผิดเฉพาะส่วนของจำเลยที่ 1 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15310/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตบุริมสิทธิเงินสมทบประกันสังคม/เงินทดแทน: ครอบคลุมหนี้ทั้งหมด ไม่จำกัดปี
ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 มาตรา 51 และ พ.ร.บ.เงินทดแทน พ.ศ.2537 มาตรา 9 บัญญัติให้ เงินสมทบที่ค้างชำระและเงินเพิ่ม เงินทดแทนที่ค้างชำระและเงินเพิ่ม มีบุริมสิทธิในระดับเดียวกับบุริมสิทธิในค่าภาษีอากรตาม ป.พ.พ. โดยมิได้บัญญัติให้เรียกได้ในวงเงินที่ค้างในปีปัจจุบันและปีก่อนหน้านั้นหนึ่งปี แม้ ป.พ.พ. มาตรา 256 จะบัญญัติให้ บุริมสิทธิค่าภาษีอากรใช้สำหรับของบรรดาค่าภาษีอากรที่ยังค้างอยู่ในปีปัจจุบันและก่อนนั้นขึ้นไปอีกปีหนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่บัญญัติเอาไว้ในเฉพาะเรื่องบุริมสิทธิในมูลค่าภาษีอากรเท่านั้น
of 2