คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หนี้เงินกู้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 64 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คชำระหนี้เงินกู้ยืมไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่อาจฟ้องบังคับได้ และไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
เช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมเกินกว่า 50 บาท โดยมิได้มีการทำหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไว้เป็นหนังสือ เมื่อไม่มีการนำเช็คนั้นเข้าเรียกเก็บเงิน เช็คพิพาทซึ่งออกมาเพื่อเปลี่ยนเอาเช็คเดิมไป จึงเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมดังกล่าวซึ่งไม่อาจฟ้องร้องบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาท การออกเช็คพิพาทจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยกู้เงินโจทก์ร่วมโดยไม่ทำสัญญากู้ไว้ แต่โจทก์ร่วมได้ให้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้เพื่อชำระหนี้เงินกู้ เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมที่มิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือไว้ เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่ไม่อาจฟ้องร้องบังคับคดีได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 แม้การที่จำเลยออกเช็คพิพาทจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ก็ตาม แต่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534อันเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังที่จำเลยออกเช็คการออกเช็คพิพาทของจำเลยไม่เป็นความผิดต่อไป จำเลยย่อมพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2740/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ผ่านตัวแทนโดยชอบ แม้ไม่มีหลักฐานการแจ้งการชำระหนี้ให้ผู้รับเงินกู้ทราบโดยตรง ก็ถือเป็นการชำระหนี้ที่สมบูรณ์
โจทก์เขียนข้อความในนามบัตรถึงจำเลยที่ 1 ว่า เรื่องเงินที่คุณกู้ไปนั้นขอให้ฝาก ป. ไปให้ผม ตกลงอย่างไรเขียนหนังสือฝากป. ไปด้วย ถ้าจะชำระให้ทั้งหมดก็แจ้งให้ผมไปรับเอง ถ้าจะผ่อนชำระผมให้ ป. มารับจากคุณและเขียนหนังสือบอกผมด้วย นามบัตรดังกล่าวจึงเป็นหลักฐานเป็นหนังสือตั้งให้ ป. เป็นตัวแทนโจทก์ในการรับชำระหนี้เงินกู้จากจำเลยที่ 1 ส่วนข้อความที่ว่าตกลงอย่างไรเขียนหนังสือฝาก ป. ไปด้วยก็ดี และเขียนหนังสือบอกผมด้วยก็ดีเป็นเพียงคำขอร้อง ของ โจทก์มีถึงจำเลยที่ 1 มิใช่เป็นเงื่อนไขในการมอบอำนาจให้ ป. รับชำระหนี้แทน การที่จำเลยที่ 1 ผ่อนชำระหนี้โจทก์ให้ ป.รับไป โดยมิได้เขียนหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบจึงเป็นการปฏิบัติการชำระหนี้ให้โจทก์โดยชอบ ป. ตัวแทนโจทก์ทำหนังสือว่าได้รับชำระหนี้เงินกู้จากจำเลยที่ 1 ครบถ้วนแล้ว และลงชื่อ ป. ไว้เป็นหลักฐาน จึงเป็นหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อตัวแทนของโจทก์ผู้ให้กู้ที่แสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้ชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง แล้ว ไม่จำต้องรับเวนคืนสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้สองประเภท (เงินกู้และเช่าซื้อ) แม้ทวงรวมกันก็ไม่แปรสภาพเป็นหนี้เดียวกัน การยึดทรัพย์สินชำระหนี้ประเภทหนึ่ง ไม่กระทบหนี้อีกประเภท
จำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่ 2 ประเภท คือ หนี้เงินกู้ประเภทหนึ่งและหนี้ค่าเช่าซื้อรถแทรกเตอร์อีกประเภทหนึ่ง โจทก์ได้มีหนังสือทวงถามหนี้ทั้ง 2 ประเภทรวมกันไปยังจำเลย การที่โจทก์ทวงหนี้จำเลยทั้ง 2 ประเภท โดยทำหนังสือทวงถามฉบับเดียวกันจะแปลว่าหนี้ 2 ประเภทนั้นได้แปลงเป็นหนี้ใหม่แล้วหรือแปรสภาพเป็นหนี้เดียวกันแล้วหาได้ไม่เพราะการที่จะถือว่ามีการแปลงหนี้ใหม่จะต้องได้ความว่าคู่กรณีคือ โจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้กัน แต่เรื่องนี้โจทก์จำเลยไม่ได้ทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ ดังนี้แม้โจทก์ได้ยึดรถแทรกเตอร์จากจำเลยคืนไปอันอาจทำให้หนี้ค่าเช่าซื้อรถแทรกเตอร์ระงับไปก็ตาม ก็ไม่ทำให้หนี้เงินกู้ซึ่งเป็นหนี้อีกประเภทหนึ่งระงับไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2722/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร่วมรับผิดในหนี้เงินกู้, อำนาจฟ้อง, การชำระหนี้บางส่วน, และผลกระทบต่อลูกหนี้ร่วม
จำเลยให้การว่าเป็นหนี้เงินกู้โจทก์จริง แต่จำนวนหนี้ไม่มากเท่ากับที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้เป็นเรื่องที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้เพียงว่าจะต้องรับผิดเพียงใดเท่านั้น การที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากโจทก์ได้รับเงินต้นคืนบางส่วน จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวเป็นประเด็นมาแต่ศาลชั้นต้น ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดในหนี้เงินกู้ เป็นการฟ้องให้ชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยที่ 1 ชำระเงินต้นให้แก่โจทก์ไปแล้วบางส่วน คงเหลือหนี้ต้นเงินอีกบางส่วนศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 2 ซึ่ง มิได้ฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4773/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้จากค่าเสียหายเป็นหนี้เงินกู้: สัญญาค้ำประกันมีผลผูกพัน
สัญญากู้และสัญญาค้ำประกันมีมูลหนี้สืบเนื่องมาจากจำเลยที่ 1ยืมหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ที่ดินของโจทก์ไปเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวจำเลยอื่นในคดีอาญา แล้วถูกศาลชั้นต้นสั่งขายทอดตลาดไปโดยจำเลยที่ 1 ไม่สามารถนำมาคืนให้โจทก์ได้ จึงยอมใช้เป็นค่าที่ดินให้แก่โจทก์ แต่จำเลยที่ 1 ไม่มีเงินใช้ให้โจทก์จึงทำสัญญากู้ให้ไว้โดยมีจำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกัน กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการตกลงแปลงหนี้ใหม่จากหนี้ค่าที่ดินมาเป็นหนี้สัญญากู้เงินโดยมีจำเลยที่ 2 เป็น ผู้ทำสัญญาค้ำประกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3517/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยรถแทรกเตอร์แทนเงินกู้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่การตีใช้หนี้ไม่ใช่การหักกลบลบหนี้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ส่งมอบรถแทรกเตอร์ชำระหนี้ให้โจทก์แล้ว ซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้กำหนดประเด็นไว้เพียงว่า จำเลยได้เอารถแทรกเตอร์ตีใช้หนี้ตามฟ้อง หนี้ระงับแล้วหรือไม่ ประเด็นแห่งคดีจึงเป็นเรื่องมีการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องหักกลบลบหนี้ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3212/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้เงินกู้และดอกเบี้ย: การคำนวณอายุความตามสัญญาและข้อตกลง
การเรียกเอาดอกเบี้ยค้างส่งมีกำหนดอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์และรับเงินครบถ้วนเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2518 โดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม จำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ย ครั้นวันที่ 1 ธันวาคม 2526 จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ทำสัญญารับใช้หนี้เงินกู้โดยยอมชำระดอกเบี้ยค้างส่งทั้งหมดของจำเลยที่ 1 การที่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2527 คดีโจทก์สำหรับหนี้ดอกเบี้ยค้างส่งจึงไม่ขาดอายุความแต่จำเลยที่ 1 มิได้ทำสัญญารับใช้หนี้เงินกู้ดังกล่าวด้วย จึงย่อมไม่ต้องถูกผูกพันโดยสัญญาดังกล่าว โจทก์มีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยค้างส่งได้เพียงภายใน 5 ปี นับแต่วันฟ้องย้อนหลังลงไป
อายุความฟ้องร้องเรียกคืนเงินกู้ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีกำหนดสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3212/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องหนี้เงินกู้และดอกเบี้ย: ลูกหนี้ร่วม, สัญญาเพิ่มเติม, และผลของการทำสัญญารับใช้หนี้
การเรียกเอาดอกเบี้ยค้างส่งมีกำหนดอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5ทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์และรับเงินครบถ้วนเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม2518 โดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ครั้นวันที่ 1 ธันวาคม 2526จำเลยที่ 4 ที่ 5 ทำสัญญารับใช้หนี้เงินกู้โดยยอมชำระดอกเบี้ยค้างส่งทั้งหมด การที่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2527 คดีโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4 ที่ 5 เกี่ยวกับหนี้ดอกเบี้ยค้างส่งจึงไม่ขาดอายุความ ส่วนจำเลยที่ 1 มิได้ทำสัญญารับใช้หนี้เงินกู้ดังกล่าวด้วย จึงไม่ต้องผูกพันโดยสัญญาดังกล่าว โจทก์มีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยค้างส่งจากจำเลยที่ 1 ได้เพียงภายใน 5 ปีนับแต่วันฟ้องย้อนหลังลงไป อายุความฟ้องร้องเรียกคืนเงินกู้ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น จึงกำหนด 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2965/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้เงินกู้ และการนำสืบหลักฐานการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การกู้ยืมเงินมีหลักฐานเป็นหนังสือ จะนำสืบการใช้เงินต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดง หรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 653 วรรคสอง การที่จำเลยโอนเงินทางโทรเลขเข้าบัญชีของโจทก์ไม่เข้าบทบัญญัติดังกล่าว แต่เป็นการชำระหนี้อย่างอื่นซึ่งโจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ได้ยอมรับแล้ว
of 7