คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หน่วยงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 32 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตายจากการทำงาน: การมอบหมายงานกีฬาให้ลูกจ้างถือเป็นงานของหน่วยงาน ลูกจ้างถึงแก่ความตายขณะปฏิบัติงาน หน่วยงานต้องจ่ายค่าทดแทน
ผู้ตายเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 รัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคมกระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้แข่งกีฬาสำหรับหน่วยงานภายใน จำเลยที่ 2 ได้รับนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติและมอบให้ผู้ตายเป็นผู้ควบคุมการฝึกซ้อมและลงเป็นคู่ซ้อมทีมแบดมินตันของจำเลยที่ 2 การที่ผู้ตายได้ปฏิบัติตามที่จำเลยที่ 2 สั่งและมอบหมายจึงเป็นการทำงานให้แก่จำเลยที่ 2 เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายในขณะควบคุมและฝึกซ้อมกีฬาแบดมินตันให้แก่จำเลยที่ 2 จึงเป็นการตายเนื่องจากการทำงานให้แก่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าทดแทนให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3511/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหาย: จุดเริ่มต้นเมื่อโจทก์ทราบตัวผู้ต้องรับผิด ไม่ใช่เมื่อได้รับแจ้งจากหน่วยงาน
ข้อเท็จจริงที่จำเลยละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่อันเป็นความประมาทเลินเล่อในขณะเกิดเหตุได้ปรากฏในสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว แม้คณะกรรมการมีความเห็นว่าไม่ควรให้จำเลยต้องรับผิดในทางแพ่ง ซึ่งกรมทางหลวงโจทก์เห็นพ้องด้วย จึงแจ้งให้กระทรวงการคลังทราบ แสดงว่าโจทก์ได้รู้ตัวผู้จะพึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันบันทึกแสดงข้อความที่เห็นพ้องด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการ หาใช่ถือเอาวันที่ได้รับแจ้งจากกระทรวงการคลังว่าจำเลยต้องรับผิดเป็นวันที่โจทก์รู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนไม่ เพราะโจทก์เป็นผู้เสียหายและเป็นนิติบุคคลมีอำนาจที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาลได้เอง ไม่ต้องรอฟังคำสั่งจากกระทรวงการคลังแต่ประการใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2673/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การแจ้งผลการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งของหน่วยงานเป็นสำคัญในการเริ่มนับอายุความ
รายงานที่เสนอให้อธิบดีกรมทางหลวงโจทก์ทราบว่า จำเลยขับรถวิทยุออกตรวจแล้วเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำได้รับความเสียหาย ได้ตั้งกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งแล้วยังถือไม่ได้ว่าอธิบดีฯ ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้พึงใช้ค่าสินไหมทดแทน และเมื่อคณะกรรมการสอบสวนมีความเห็นว่าอุบัติเหตุเกิดจากเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิด แม้อธิบดีฯ จะเห็นพ้องด้วย แต่ความเห็นก็ยังไม่เป็นที่ยุติ จะต้องเสนอให้กระทรวงการคลังวินิจฉัยชี้ขาดต่อไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง เมื่อกรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยกระทำละเมิดต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน และแจ้งให้อธิบดีฯ ทราบในวันใด ถือได้ว่าอธิบดีฯ ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้พึงใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ได้ทราบนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยักยอกเงินของหน่วยงาน การชำระคืนไม่ทำให้พ้นผิดทางอาญา
จำเลยเป็นพนักงานเสมียนการไฟฟ้าและได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการร้านค้าการไฟฟ้าของโจทก์ร่วม ได้ยักยอกเงินของโจทก์ร่วมไป การที่จำเลยนำเงินที่ยักยอกไปมาชำระให้แก่โจทก์ร่วมในภายหลังนั้น เพียงแต่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิดทางแพ่งเท่านั้น ไม่ทำให้พ้นความรับผิดทางอาญา โจทก์ร่วมย้งคงเป็นผู้เสียหายในความผิดทางอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1931/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมของหน่วยงานต่อการกระทำละเมิดของข้าราชการ: การกระทำส่วนตัว
จำเลยที่ 1 รับราชการเป็นบุรุษไปรษณีย์ ได้ขับรถยนต์ของกรมไปรษณีย์ฯ จำเลยที่ 2 ไปเก็บไปรษณียภัณฑ์ตามตู้ไปรษณีย์ตามหน้าที่ และจอดรถไว้ที่ขอบถนน โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานควบคุมการจราจรบอกให้จำเลยที่ 1 ไปจอดรถบนไหล่ถนน เพราะการจราจรคับคั่ง จำเลยที่ 1 ด่าโจทก์แล้วกลับไปขึ้นรถ โจทก์ตามไปยืนเอามือเท้าขอบประตูรถตรงที่นั่งคนขับและชะโงกศีรษะเข้าไปในรถแจ้งข้อหาว่าดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จำเลยที่ 1 ขับรถออกไปโดยเร็วและผลักโจทก์ตกจากรถ ทำให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บ การที่จำเลยที่ 1ขัดขวางการจับกุมโดยขับรถเคลื่อนออกไปและผลักโจทก์ตกจากรถขนได้รับบาดเจ็บนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยที่ 1 และเป็นการทำร้ายร่างกายกันโดยเฉพาะมิได้เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 และไม่ได้เป็นการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1931/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้าราชการกระทำละเมิดส่วนตัว หน่วยงานไม่ต้องรับผิด
จำเลยที่ 1 รับราชการเป็นบุรุษไปรษณีย์ ได้ขับรถยนต์ของกรมไปรษณีย์ฯจำเลยที่ 2 ไปเก็บไปรษณีย์ภัณฑ์ตามตู้ไปรษณีย์ตามหน้าที่ และจอดรถไว้ที่ขอบถนน โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานควบคุมการจราจรบอกให้จำเลยที่ 1 ไปจอดรถบนไหล่ถนน เพราะการจราจรคับคั่งจำเลยที่ 1 ด่าโจทก์แล้วกลับไปขึ้นรถ โจทก์ตามไปยืนเอามือเท้าขอบประตูรถตรงที่นั่งคนขับและชะโงกศีรษะเข้าไปในรถแจ้งข้อหาว่าดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จำเลยที่ 1 ขับรถออกไปโดยเร็วและผลักโจทก์ตกจากรถ ทำให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บ การที่จำเลยที่ 1 ขัดขวางการจับกุมโดยขับรถเคลื่อนออกไปและผลักโจทก์ตกจากรถจนได้รับบาดเจ็บนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยที่ 1 และเป็นการทำร้ายร่างกายกันโดยเฉพาะ มิได้เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 และไม่ได้เป็นการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดร่วมใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2401/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เงินสังขารานุเคราะห์เมื่อผู้รับประโยชน์เสียชีวิตก่อนสมาชิก: สิทธิทายาทและหน้าที่ของหน่วยงาน
ผู้ตายเป็นสมาชิกขององค์การสงเคราะห์ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขระบุชื่อ ส. บิดาเป็นผู้รับประโยชน์เงินสังขารานุเคราะห์ไว้ ตามข้อบังคับ ย่อมมีผลว่า กรมไปรษณีย์โทรเลข โดยองค์การดังกล่าวได้ทำสัญญาว่า จะชำระหนี้แก่ ส. บุคคลภายนอกสิทธิของ ส. จะเกิดมีขึ้นตั้งแต่เวลาที่แสดงเจตนาแก่ลูกหนี้ว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้น เมื่อ ส. ตายเสียก่อนโดยมิได้แสดงเจตนาว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญาสิทธิของ ส.ในเงินสังขารานุเคราะห์จึงยังไม่เกิดขึ้นและไม่อาจตกทอดเป็นทรัพย์มรดกไปยังทายาทของ ส.
เงินสังขารานุเคราะห์เป็นเงินที่ผู้รับประโยชน์จะได้รับหลังจากที่สมาชิกขององค์การสงเคราะห์ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขถึงแก่ความตายแล้ว มิใช่ทรัพย์สินที่สมาชิกผู้ตายมีอยู่ในขณะที่ถึงแก่ความตาย จึงไม่เป็นมรดกของผู้ตาย
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 132/2507)
ตามข้อบังคับกรมไปรษณีย์โทรเลข เมื่อสมาชิกตาย ให้จ่ายเงินสังขารานุเคราะห์แก่ผู้รับประโยชน์ซึ่งสมาชิกผู้ตายได้ระบุชื่อไว้ แต่เมื่อผู้รับประโยชน์นั้นตายก่อนสมาชิก ย่อมไม่มีตัวผู้รับประโยชน์ที่จะรับเงินสังขารานุเคราะห์ได้ตามข้อบังคับ แม้เงินสังขารานุเคราะห์จะมิใช่ทรัพย์มรดกของสมาชิกผู้ถึงแก่ความตาย แต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 ลักษณะมรดกเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งในอันที่จะใช้บังคับ เงินสังขารานุเคราะห์ดังกล่าวจึงควรจ่ายให้แก่ทายาทโดยธรรมของสมาชิกผู้ตาย เสมือนหนึ่งทรัพย์มรดก
กรมไปรษณีย์โทรเลขจำเลยให้การว่า ได้จ่ายเงินสังขารานุเคราะห์ให้แก่ทายาทของผู้รับประโยชน์เป็นการถูกต้องตามข้อบังคับแล้ว เท่ากับรับว่าองค์การสงเคราะห์ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขอยู่ในความรับผิดชอบของกรมไปรษณีย์โทรเลข จะมายกข้อโต้แย้งขึ้นในชั้นฎีกาว่ากรมไปรษณีย์โทรเลข ไม่ ต้องรับผิดจ่ายเงินสังขารานุเคราะห์ หาได้ไม่
(วรรคหนึ่งถึงสามวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่23/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหน่วยงานต่อละเมิดของนายทหาร แม้ขัดระเบียบภายใน
นายทหารขับรถไปราชการ แม้จะขัดต่อระเบียบของกระทรวงเจ้าสังกัดที่ห้ามนายทหารสัญญาบัตรขับรถทหารเองก็ตาม ข้อบังคับนี้ก็เป็นเรื่องภายในระหว่างกัน เมื่อนายทหารนั้นทำละเมิดในขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้บุคคลอื่นเสียหายแล้ว กระทรวงทบวงกรมเจ้าสังกัดก็ต้องรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหน่วยงานต่อการละเมิดของนายทหาร แม้ขัดระเบียบภายใน
นายทหารขับรถไปราชการ แม้จะขัดต่อระเบียบของกระทรวงเจ้าสังกัดที่ห้ามนายทหารสัญญาบัตรขับรถทหารเองก็ตาม ข้อบังคับนี้ก็เป็นเรื่องภายในระหว่างกัน เมื่อนายทหารนั้นทำละเมิดในขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้บุคคลอื่นเสียหายแล้ว กระทรวงทบวงกรมเจ้าสังกัดก็ต้องรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในการเซ็นอนุมัติการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงาน
จำเลยเพียงแต่เซ็นในใบยืมตามหน้าที่และภายในขอบเขตแห่งหน้าที่ของตนตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเพื่อให้งานได้ดำเนินไปได้โดยเรียบร้อย จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องอย่างใดกับเงินนั้นเลย โดยประธานกรรมการมอบหมายหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการคลังควบคุมเงินจำนวนนี้เอาไปดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ขององค์การสรรพาหาร ถือว่าจำเลยมิได้อยู่ในฐานะของผู้ยืมตามกฎหมาย และจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นส่วนตัว แต่ถ้าจำเลยกระทำการนอกเหนือหน้าที่ของตน จำเลยก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว
of 4