คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หลงเชื่อ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมแปลงป้ายทะเบียนรถ และใช้เอกสารราชการปลอม แม้ลักษณะไม่เหมือนของแท้ แต่ทำให้หลงเชื่อได้ ถือเป็นความผิด
จำเลยเขียนหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ของผู้อื่นลงไว้ที่แผ่นเหล็กท้ายรถจักรยานยนต์คันของกลางแม้จำเลยจะเขียนหมายเลขดังกล่าวด้วยตนเองโดยมีลักษณะขนาดตัวหนังสือและตัวเลขไม่เหมือนกับป้ายหมายเลขทะเบียนที่แท้จริง ซึ่งทางราชการกรมตำรวจจัดทำขึ้นก็ตามแต่เมื่อจำเลยกระทำด้วยเจตนาทำเทียมเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง และโดยลักษณะที่อาจจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนแล้วการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารราชการและเมื่อจำเลยได้ใช้รถจักรยานยนต์ของกลางที่ติดป้ายหมายเลขทะเบียนปลอมที่จำเลยทำขึ้นดังกล่าวขับขี่ไปจนถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมได้ จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร แม้เอกสารนั้นมิได้ถูกนำไปใช้ แต่เจตนาในการทำขึ้นเพื่อให้หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารจริงก็ถือเป็นความผิด
จำเลยได้รับทำสำเนาทะเบียนบ้านปลอมขึ้นตามที่เจ้าพนักงานตำรวจได้วางแผนเพื่อจับกุม และเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมสำเนาทะเบียนบ้านปลอมดังกล่าว เป็นของกลางซึ่งจำเลยฉีดขาดขณะจับกุม ดังนี้ แม้สำเนาทะเบียนบ้านปลอมนั้นจะมิได้นำไปใช้ในกิจการที่จำเลยทำและไม่มีผู้ใดเจตนานำไปใช้ก็ดี แต่ในการทำสำเนาทะเบียนบ้านปลอมขึ้นที่พึงเห็นได้ว่า จำเลยได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงอยู่ในตัว การกระทำของจำเลยจึงเข้าองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารโดยมีเจตนาให้หลงเชื่อ แม้ไม่ได้ใช้จริงก็เป็นความผิด
จำเลยได้รับทำสำเนาทะเบียนบ้านปลอมขึ้นตามที่เจ้าพนักงานตำรวจได้วางแผนเพื่อจับกุม และเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมสำเนาทะเบียนบ้านปลอมดังกล่าวเป็นของกลางซึ่งจำเลยฉีกขาดขณะจับกุมดังนี้ แม้สำเนาทะเบียนบ้านปลอมนั้นจะมิได้นำไปใช้ในกิจการที่จำเลยทำและไม่มีผู้ใดเจตนานำไปใช้ก็ดี แต่ในการทำสำเนาทะเบียนบ้านปลอมขึ้นที่พึงเห็นได้ว่า จำเลยได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงอยู่ในตัว การกระทำของจำเลยจึงเข้าองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2842/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ชื่อสินค้าที่คล้ายคลึงกัน ต้องพิจารณาความแตกต่างของรายละเอียดอื่นประกอบ เพื่อวินิจฉัยเจตนาทำให้ประชาชนหลงเชื่อ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 (1) นั้น การเอาชื่อในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือทำให้ปรากฏที่สินค้าจะเป็นผิดก็ต่อเมื่อการใช้ชื่อนั้นเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่น และในการที่จะวินิจฉัยว่าเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นหรือไม่นั้นจะอาศัยคำซึ่งเปล่งเสียงออกมาอย่างเดียวมิได้ จะต้องพิเคราะห์ตัวอักษรถ้อยคำ และลักษณะอื่นๆ ของชื่อนั้นประกอบด้วย
ชื่อสินค้าของโจทก์มีคำว่า " TASTE modern from U.S.A." ชื่อสินค้าของจำเลยนอกจากมีคำว่า " TASTE" แล้ว ยังมีภาษาไทยว่า" เทสท์ 23 บางลำภู" แสดงว่า เป็นชื่อร้านเทสท์อยู่ที่เลขที่ 23 บางลำพูหาใช่ TASTE ซึ่งเป็น modern from U.S.A. ของโจทก์ไม่ จึงไม่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2842/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ชื่อทางการค้าของผู้อื่นต้องมีเจตนาทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าเดียวกัน จึงจะผิดตามกฎหมาย
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) นั้น การเอาชื่อในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือทำให้ปรากฏที่สินค้าจะเป็นผิดก็ต่อเมื่อการใช้ชื่อนั้นเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่น และในการที่จะวินิจฉัยว่าเจตนาเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นหรือไม่นั้น จะอาศัยคำซึ่งเปล่งเสียงออกมาอย่างเดียวมิได้ จะต้องพิเคราะห์ตัวอักษรถ้อยคำ และลักษณะอื่นๆ ของชื่อนั้นประกอบด้วย
ชื่อสินค้าของโจทก์มีคำว่า "TASTEMODERNFROM U.S.A." ชื่อสินค้าของจำเลยนอกจากมีคำว่า "TASTE"แล้ว ยังมีภาษาไทยว่า " เทสท์ 23 บางลำภู" แสดงว่า เป็นชื่อร้านเทสท์อยู่ที่เลขที่23บางลำพูหาใช่TASTE ซึ่งเป็น MODERNFROMU.S.A.ของโจทก์ไม่ จึงไม่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1858/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำสัญญาจะขายที่ดิน แม้จะหลงเชื่อคำกล่าวอ้าง สัญญาจึงสมบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำกลฉ้อฉลว่า สัญญาที่จะให้โจทก์เซ็นชื่อเป็นสัญญากู้ยืมเงิน 3,000 บาท แต่ความจริงเป็นสัญญาที่โจทก์จะขายที่ดินให้จำเลย โจทก์หลงเชื่อจึงลงลายพิมพ์นิ้วมือให้ ขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาฉบับนี้เป็นโมฆะ ศาลรับฟ้องไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1858/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำสัญญาจะขายที่ดิน แม้จะหลงเชื่อคำกล่าวอ้าง สัญญาจึงสมบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำกลฉ้อฉลว่า สัญญาที่จะให้โจทก์เซ็นชื่อเป็นสัญญากู้ยืมเงิน 3,000 บาท แต่ความจริงเป็นสัญญาที่โจทก์จะขายที่ดินให้จำเลย โจทก์หลงเชื่อจึงลงลายพิมพ์นิ้วมือให้ ขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาฉบับนี้เป็นโมฆะ ศาลรับฟ้องไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 298-299/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลียนเครื่องหมายการค้าที่แคปซูลยาเจตนาให้หลงเชื่อเป็นของผู้อื่นเป็นความผิด แม้จะมีการจดทะเบียนหรือไม่
ผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยหาว่าเลียนเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจทก์ ซึ่งปรากฏที่กล่องบรรจุยา และใช้กับสินค้ายาปฏิชีวนะ
บริษัทโจทก์เข้าร่วมเป็นโจทก์กับผู้ว่าคดี แล้วบริษัทโจทก์ยื่นฟ้องเป็นคดีขึ้นมาอีกในข้อหาว่าเลียนเครื่องหมายการค้าอันเดียวกันนี้ที่กล่องบรรจุยาและที่สินค้ายา ดังนี้ บริษัทโจทก์ต้องห้ามไม่ให้ยื่นฟ้องเรื่องเดียวกันนั้นอีก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 173 วรรคสอง(1) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้ไม่ชอบ ให้ยกฟ้องที่บริษัทโจทก์ยื่นแต่บริษัทโจทก์ดำเนินคดีกับจำเลยในฐานะโจทก์ร่วมได้
ไม่ว่าจำเลยจะควบคุมผู้ขายปลีกหรือผู้ซื้อได้หรือไม่ จะลงทุน มากหรือไม่ เจ้าพนักงานจะยอมรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้ จำเลยหรือไม่จะมีประชาชนซื้อโดยหลงผิดหรือยังเมื่อจำเลยเลียน เครื่องหมายการค้าโดยเจตนาเพื่อจะให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นของ บริษัทโจทก์ ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 274(ปัญหาแรกประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เครื่องหมายการค้าที่คล้ายคลึงกันทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของผู้อื่นเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272(1)
ฟ้องบรรยายเล่าเรื่องว่า จำเลยได้ผลิตแป้งน้ำปิดรูปเครื่องหมายอักษรไทยว่า แพนเค้กน้ำ มีลักษณะรูปเครื่องหมายตัวอักษรสำเนียงเรียกเหมือนคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์นำออกจำหน่าย ทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของโจทก์ เช่นนี้ เห็นได้ว่า คำฟ้องได้รวมการกระทำอันเป็นความผิดตามมาตรา 272(1) ไว้ด้วย และในคำขอท้ายฟ้องก็ระบุมาตรา 272 ไว้ แสดงให้เห็นเจตนาว่าประสงค์ให้ลงโทษตามมาตรา 272(1) ด้วย
จำเลยที่ 2 - 3 รู้อยู่ดีแล้วว่า สินค้าเครื่องสำอางค์แป้งน้ำ PAN-CAKE ของโจทก์เป็นชื่อแพร่หลายคนรู้จักทั่วไป จำเลยจึงเอาคำว่า แพนเค้ก มาใช้กับสินค้าแป้งน้ำของจำเลยบ้างเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่า เป็นสินค้า PAN-CAKE ของโจทก์ จึงเป็นความผิดตามมาตรา 272 (1) ส่วนจำเลยที่ 4 - 5 เป็นเพียงผู้จำหน่าย ไม่ปรากฎว่าได้รู้ว่าสินค้านั้นเอาคำว่า PAN-CAKE ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาใช้ จึงไม่มีความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เครื่องหมายการค้าที่คล้ายคลึงกันจนทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของผู้อื่น เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.เครื่องหมายการค้า
ฟ้องบรรยายเล่าเรื่องว่า จำเลยได้ผลิตแป้งน้ำปิดรูปเครื่องหมายอักษรไทยว่า แพนเค้กน้ำ มีลักษณะรูปเครื่องหมายตัวอักษรสำเนียงเรียกเหมือนคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์นำออกจำหน่าย ทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของโจทก์ เช่นนี้เห็นได้ว่าคำฟ้องได้รวมการกระทำอันเป็นความผิดตามมาตรา 272(1) ไว้ด้วย และในคำขอท้ายฟ้องก็ระบุมาตรา 272 ไว้ แสดงให้เห็นเจตนาว่าประสงค์ให้ลงโทษตามมาตรา 272(1) ด้วย
จำเลยที่ 2,3 รู้อยู่ดีแล้วว่าสินค้าเครื่องสำอางค์แป้งน้ำ PAN-CAKE ของโจทก์เป็นชื่อแพร่หลายคนรู้จักทั่วไป จำเลยจึงเอาคำว่า แพนเค้ก มาใช้กับสินค้าแป้งน้ำของจำเลยบ้าง เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้า PAN-CAKE ของโจทก์จึงเป็นความผิดตามมาตรา 272(1) ส่วนจำเลยที่ 4,5 เป็นเพียงผู้จำหน่าย ไม่ปรากฏว่าได้รู้ว่าสินค้านั้นเอาคำว่า PAN-CAKE ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาใช้จึงไม่มีความผิด
of 4