พบผลลัพธ์ทั้งหมด 29 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5564/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการนำสืบข้อเท็จจริงนอกคำให้การ: ห้ามนำสืบข้อเท็จจริงขัดแย้งกับที่อ้างไว้เดิม แม้เป็นข้อกฎหมาย
จำเลยให้การว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยซึ่งผู้ตายยกให้แต่กลับนำสืบว่าที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณะ ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากพยานนอกข้อต่อสู้ในคำให้การและนอกประเด็นพิพาทที่ศาลกำหนดไว้ ไม่เกี่ยวกับที่คู่ความจะต้องนำสืบ ศาลจะรับฟังมาวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เครื่องหมายการค้าคล้ายกันทำให้สับสน ห้ามจดทะเบียนซ้ำ
เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปหัวและคอม้าลาย และคำว่าหัวม้าลายกับอักษรโรมันว่า HEAD ZEBRA ส่วนของจำเลยที่ 1 เป็นรูปม้าลายทั้งตัวยืนอยู่ในวงกลม และคำว่า ตราม้าลายและอักษรโรมันว่า ZEBRA BRAND สาระสำคัญของเครื่องหมายการค้าของโจทก์และจำเลยที่ 1 คือรูปม้าลายประชาชนผู้ซื้อสินค้าอาจเรียกว่า ตราม้าลาย เมื่อใช้กับสินค้าชนิดเดียวกันจะทำให้เกิดสับสนและหลงผิดในแหล่งผลิตได้ อันนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนจำเลยที่ 1 จึงไม่มีสิทธิขอจดทะเบียนการค้าสำหรับสินค้าจำพวกที่ 13 ที่โจทก์ได้จดทะเบียนไว้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4120/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์หลังการยิงของผู้ต้องหาถือเป็นความพยายามฆ่า แม้จะถูกห้าม
ข. พวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายแล้ววิ่งหนี ขณะที่กำลังวิ่งอยู่นั้นจำเลยก็ถือปืนเข้ามาจ้องจะยิงผู้เสียหายซ้ำ พ. ผลักผู้เสียหายให้ล้มลงแล้วเข้ายืนบังไว้ ส. ก็ร้องขอจำเลยว่าอย่าทำอีกเลยเพราะคนเจ็บแล้ว จำเลยจึงลดปืนลงแล้ววิ่งไปทางเดียวกับ ข.ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4120/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์หลังการยิงของผู้กระทำผิด แสดงเจตนาพยายามฆ่า แม้จะถูกห้าม
ข. พวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายแล้ววิ่งหนีขณะที่กำลังวิ่งอยู่นั้นจำเลยก็ถือปืนเข้ามาจ้องจะยิงผู้เสียหายซ้ำพ. ผลักผู้เสียหายให้ล้มลงแล้วเข้ายืนบังไว้ส. ก็ร้องขอจำเลยว่าอย่าทำอีกเลยเพราะคนเจ็บแล้วจำเลยจึงลดปืนลงแล้ววิ่งไปทางเดียวกับ ข.ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตฟ้องแย้ง: ประเด็นเกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิมต้องรับไว้พิจารณา แต่ประเด็นอื่นที่ไม่เกี่ยวเนื่องต้องห้าม
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้าง ฯ โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 3 และจำเลยที่ 4 เป็นหุ้นส่วน ในระหว่างที่จำเลยร่วมกันดำเนินกิจการของโจทก์ 1 แทนโจทก์ที่ 2 ได้จำหน่ายรถไถและอุปกรณ์รถไถของโจทก์ที่ 1 แล้วไม่นำเงินส่งให้โจทก์ที่ 1 กับเอาตราและเอกสารของโจทก์ที่ 1 ไปด้วย ขอให้จำเลยชำระเงินค่าสินค้าที่จำหน่ายไป กับให้ส่งมอบตราและเอกสารแก่โจทก์ จำเลยที่ 4 ให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการและลูกจ้างของโจทก์ที่ 1 ได้รับรถไถของจำเลยที่ 4 ไปจำหน่ายแล้วไม่นำเงินส่งมอบแก่โจทก์ 1 และจำเลยที่ 4 ตามข้อตกลง ทั้งยังได้นำเงินของโจทก์ที่ 1 ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัวอีกด้วย ขอให้โจทก์ที่ 2 ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4 กับให้โจทก์ที่ 3 ซึ่งเข้ามาช่วยโจทก์ที่ 2 ดำเนินการห้าง ฯ โจทก์ที่ร่วมรับผิดด้วย และให้โจทก์ที่ 2 ไปดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้าง ฯ โจทก์ที่ 1 และชำระบัญชี ดังนี้ ฟ้องแย้งในเรื่องที่เกี่ยวกับรถไถเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ส่วนฟ้องแย้งที่อ้างว่าโจทก์ที่ 2 และที่ 3 นำเงินของโจทก์ที่ 1 ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัว กับให้โจทก์ที่ 2 ไปดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างฯ โจทก์ที่ 1และชำระบัญชีนั้น เป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ต้องห้ามมิให้ฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับตาม พ.ร.บ.ศุลกากร: ห้ามปรับซ้ำสำหรับความผิดครั้งเดียว
มาตรา 27 ทวิ พระราชบัญญัติศุลกากร แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 13)พ.ศ.2499 มาตรา 4 บัญญัติให้ปรับ 4 เท่าราคาของรวมค่าอากร ฯลฯ แม้ไม่มีข้อความว่า 'สำหรับความผิดครั้งหนึ่งๆ' ดัง มาตรา 27 ก็ตามก็มีความหมายมิให้ปรับเรียงตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประกาศห้ามเคลื่อนย้ายสินค้าเพื่อควบคุมการค้ากำไรเกินควร ต้องระบุห้ามค้ากำไรเกินควรโดยชัดแจ้ง
คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร ได้ออกประกาศห้ามย้ายโคกระบือมีชีวิตเข้าไปในเขตจังหวัด โดยมิได้สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในเขตอำนาจท้องที่ใดหรือทั้งหมด เช่นนี้ ประกาศของคณะกรรมการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะลงโทษผู้ฝ่าฝืนมิได้
(เทียบคำพิพากษาในที่ประชุมใหญ่ที่ 490/2503)
(เทียบคำพิพากษาในที่ประชุมใหญ่ที่ 490/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามฎีกา หากยังไม่ทำให้คดีเสร็จสิ้น
ศาลนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยเรื่องมีเหตุสมควรจะสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่จำเลยและพยานจำเลยไม่มาศาลศาลถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบตามคำร้องจึงสั่งให้ยกคำร้องของจำเลย แต่ยังคงสั่งให้นัดพิจารณาพยานโจทก์ต่อไป คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเพราะยังไม่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1) และมาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528-1530/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาห้าม กรณีศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามมาตรา 219
สำนวนที่ 2-3 ศาลชั้นต้นต้องฟังข้อเท็จจริงเพื่อนำไปวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายหรือไม่ แล้วจึงพิพากษาว่าไม่ใช่ผู้เสียหาย ยกฟ้องย่อมเป็นการยกฟ้องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โจทก์อุทธรณ์ข้อเท็จจริงรวมมากับข้อกฎหมายว่าเป็นผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องอีกจึงถือได้ว่าศาลทั้งสองยกฟ้องในข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ส่วนสำนวนที่ 1 แม้ศาลล่างยกฟ้องเพราะเหตุที่ฟ้องไม่ปรากฏชื่อผู้เรียงอีกเหตุหนึ่งด้วย ก็ต้องห้ามฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงตามมาตรา 219 เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286-1287/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาขัดทรัพย์ในคดีมีทุนทรัพย์จำกัด การฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย
คดีร้องขัดทรัพย์ที่ผู้ร้อง 2 คน ต่างยื่นคำร้องว่าที่ดินที่โจทก์นำยึด 2 แปลง เป็นที่ของผู้ร้องคนละแปลง โดยตีราคาที่ดินแปลงละห้าพันบาทนั้น เป็นคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2503)