พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1388/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้จัดการทรัพย์สินและบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน ต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อนฟ้องคดี
ธ. ไม่มีส่วนเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท ไม่ปรากฏว่าเป็นหุ้นส่วนลงทุนในการก่อสร้างห้องแถว จำเลยมิได้โต้แย้งสิทธิของ ธ. แต่อย่างใด ธ.จึงไม่มีอำนาจฟ้องในฐานะส่วนตัว เมื่อ ธ. มิได้ยื่นคำร้องขออนุญาตต่อศาล และไม่ปรากฏว่าศาลได้อนุญาตให้ฟ้องคดีในฐานะผู้จัดการทรัพย์สินของ ก.ผู้ไม่อยู่ได้ ธ. จึงไม่มีอำนาจฟ้องในฐานะดังกล่าว จะถือว่าการที่ศาลชั้นต้นรับคำฟ้องเท่ากับเป็นการอนุญาตให้โจทก์ฟ้องในฐานะดังกล่าวหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเงินบำเหน็จตกทอดของผู้เยาว์โดยไม่ได้รับอนุญาตศาล เป็นโมฆะ
เงินบำเหน็จที่จะตกได้แก่บรรดาทายาทผู้มีสิทธิของผู้ตาย ตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญ พ.ศ.2494 นั้น มิใช่มรดกของผู้ตาย
การที่จำเลยแจ้งให้กรมการเงินกระทรวงกลาโหมหักเงินบำเหน็จตกทอดของผู้ตายเพื่อใช้หนี้จำเลยนั้น เป็นการมอบหมายให้เป็นตัวแทนในการเจรจาตกลงกับทายาทผู้ตาย
การที่มารดาโจทก์ไปตกลงให้หักเงินบำเหน็จตกทอดของผู้ตายที่จะได้แก่โจทก์บางส่วนชำระหนี้แก่จำเลยนั้น เป็นการทำนิติกรรมอย่างหนึ่งที่ได้กระทำไปแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ และเป็นผลให้โจทก์ต้องชำระหนี้เมื่อมารดาโจทก์ไม่ได้รับอนุญาตจากศาลจึงเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574(13) ข้อตกลงดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะจำเลยไม่มีมูลที่จะอ้างเพื่อการชำระหนี้จากโจทก์ได้
การที่จำเลยแจ้งให้กรมการเงินกระทรวงกลาโหมหักเงินบำเหน็จตกทอดของผู้ตายเพื่อใช้หนี้จำเลยนั้น เป็นการมอบหมายให้เป็นตัวแทนในการเจรจาตกลงกับทายาทผู้ตาย
การที่มารดาโจทก์ไปตกลงให้หักเงินบำเหน็จตกทอดของผู้ตายที่จะได้แก่โจทก์บางส่วนชำระหนี้แก่จำเลยนั้น เป็นการทำนิติกรรมอย่างหนึ่งที่ได้กระทำไปแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ และเป็นผลให้โจทก์ต้องชำระหนี้เมื่อมารดาโจทก์ไม่ได้รับอนุญาตจากศาลจึงเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574(13) ข้อตกลงดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะจำเลยไม่มีมูลที่จะอ้างเพื่อการชำระหนี้จากโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1837/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับละเมิดของเด็กเยาว์ต้องได้รับอนุญาตศาลจึงจะมีผลผูกพัน
บิดาเด็กชาย บ. โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับบิดาเด็กชาย ว. ผู้ทำละเมิดต่อผู้เยาว์โดยมิได้รับอนุญาตจากศาลมูลละเมิดที่เด็กชาย ว. ก่อขึ้นหามีผลระงับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความอันเป็นโมฆะไม่และไม่มีผลผูกพันเด็กชาย บ. โจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้โจทก์จะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้โจทก์จะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมรดก: ไม่ต้องขออนุญาตศาลหากเป็นไปตามสัญญาก่อนมรณะ
ผู้ร้องในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครองของผู้เยาว์ผู้รับมรดกของ ผ. ผู้ตายยื่นคำร้องขอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ ผ. ผู้ตายทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ก่อนตายให้แก่ผู้มีชื่อ ตามคำร้องเป็นเรื่องขอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของผู้ตายตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำกันไว้ ระหว่างผู้ตายกับผู้มีชื่อ มิใช่เรื่องขอทำนิติกรรมขายที่ดินอันเกี่ยวแก่ทรัพย์สินของเด็กตามความในมาตรา 1574 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ร้องจึงไม่ต้องขออนุญาตจากศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากมรดก: ไม่ต้องขออนุญาตศาลหากเป็นไปตามสัญญาจะซื้อจะขายของผู้ตาย
ผู้ร้องในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครองของผู้เยาว์ผู้รับมรดกของ ผ.ผู้ตาย ยื่นคำร้องขอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ ผ. ผู้ตายทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ก่อนตายให้แก่ผู้มีชื่อ ตามคำร้องเป็นเรื่องขอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของผู้ตายตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำกันไว้ระหว่างผู้ตายกับผู้มีชื่อ มิใช่เรื่องขอทำนิติกรรมขายที่ดินอันเกี่ยวแก่ทรัพย์สินของเด็กตามความในมาตรา 1574(1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ร้องจึงไม่ต้องขออนุญาตจากศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2074/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินกรรมสิทธิ์รวมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล และการเพิกถอนนิติกรรมกรณีผู้รับซื้อรู้ข้อเท็จจริงทำให้เสียเปรียบ
จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของจำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาจะขายที่พิพาทซึ่งจำเลยทั้งสองมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันทั้งส่วนของตนและส่วนของจำเลยที่ 2 ให้แก่โจทก์ โดยไม่ได้ขออนุญาตศาลขายส่วนของจำเลยที่ 2 สัญญาจะซื้อขายดังกล่าวไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 คงผูกพันเฉพาะจำเลยที่ 1 ต่อมาเมื่อจำเลยที่ 2บรรลุนิติภาวะแล้ว จำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้โอนขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 3 ซึ่งรับซื้อไว้โดยรู้ข้อความจริงที่ทำให้โจทก์ผู้ทำสัญญาจะซื้อขายไว้ก่อนเสียเปรียบ โจทก์ย่อมขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 3 เสียได้
เมื่อจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทส่วนของจำเลยที่ 2 ให้แก่โจทก์โดยไม่มีอำนาจที่จะทำได้และโจทก์ไม่อาจบังคับตามสัญญาให้จำเลยขายที่พิพาทส่วนของจำเลยที่ 2 ได้ จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์
เรื่องค่าเสียหายนี้แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาคัดค้าน แต่เมื่อโจทก์จะได้รับ โอนที่พิพาทครึ่งแปลง ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจลดค่าเสียหายลงได้ตามส่วน
เมื่อจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทส่วนของจำเลยที่ 2 ให้แก่โจทก์โดยไม่มีอำนาจที่จะทำได้และโจทก์ไม่อาจบังคับตามสัญญาให้จำเลยขายที่พิพาทส่วนของจำเลยที่ 2 ได้ จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์
เรื่องค่าเสียหายนี้แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาคัดค้าน แต่เมื่อโจทก์จะได้รับ โอนที่พิพาทครึ่งแปลง ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจลดค่าเสียหายลงได้ตามส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189-1193/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ และการทำสัญญาแทนผู้เยาว์ต้องได้รับอนุญาตจากศาล
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด หรือลายมือชื่อตัวแทนของฝ่ายนั้นจึงจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ ดังนั้น การตั้งตัวแทนเพื่อทำสัญญาประนีประนอมยอมความก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 วรรคสองจึงจะมีผลผูกพันตัวการ
บิดาของผู้เยาว์ถูกทำละเมิดถึงแก่ความตาย ผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรต้องเสียค่าทำศพไป จึงมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากผู้ทำละเมิด ถือว่าผู้เยาว์ได้มาซึ่งทรัพย์สินอย่างหนึ่ง หากมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยผู้ใช้อำนาจปกครองจะต้องทำสัญญาแทนผู้เยาว์ผู้ใช้อำนาจปกครองก็จะต้องขออนุญาตศาลก่อน เพราะเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความอันเกี่ยวแก่ทรัพย์สินของเด็ก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(4)
บิดาของผู้เยาว์ถูกทำละเมิดถึงแก่ความตาย ผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรต้องเสียค่าทำศพไป จึงมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากผู้ทำละเมิด ถือว่าผู้เยาว์ได้มาซึ่งทรัพย์สินอย่างหนึ่ง หากมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยผู้ใช้อำนาจปกครองจะต้องทำสัญญาแทนผู้เยาว์ผู้ใช้อำนาจปกครองก็จะต้องขออนุญาตศาลก่อน เพราะเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความอันเกี่ยวแก่ทรัพย์สินของเด็ก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อน ผู้ให้ราคาสูงสุดจึงจะเป็นผู้ซื้อได้ หากไม่มีข้อผิดพลาดหรือทุจริต
ตามประกาศขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้กำหนดเงื่อนไขในการขายว่าจะต้องรายงานการขายทอดตลาดเสนอขออนุญาตศาลเสียก่อน เมื่อศาลอนุญาตแล้ว จึงถือว่าผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นผู้ซื้อได้ คงมีข้อความเพียงว่า เมื่อตกลงซื้อแล้ว ผู้ซื้อจะต้องชำระเงินทันที ตามรายงานของเจ้าพนักงานบังคับคดีมีข้อความว่าได้ขายเสร็จแล้ว ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ที่ให้ราคาสูงสุดพร้อมจะชำระเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีตามเงื่อนไขในวันนั้น และผู้ร้องก็ยืนยันตลอดมาว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการเคาะไม้แล้ว การขายทอดตลาดจึงบริบูรณ์ เมื่อไม่ปรากฏว่าการขายทอดตลาดผิดระเบียบ ไม่ชอบ หรือส่อว่ามีการทุจริต จึงไม่มีเหตุใดที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องรายงานศาลเพื่อขออนุญาตขายซ้ำอีก และถือว่าผู้ร้องเป็นผู้ซื้อทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 876/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ทำโดยผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์โดยไม่ได้รับอนุญาตศาล มีผลบังคับหรือไม่ และการให้สัตยาบัน
สัญญาให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของผู้เยาว์เกินกว่าสามปีที่บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้ทำแทนผู้เยาว์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล สัญญานั้นไม่มีผลบังคับผูกพันผู้เยาว์ตั้งแต่การเช่าครบ 3 ปีแล้วตลอดมา และไม่เป็นโมฆียะอันจะพึงบอกล้างได้จึงไม่เป็นกรณีที่ผู้เยาว์เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วจะให้สัตยาบันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1550
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2425/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายอสังหาริมทรัพย์ของผู้เยาว์ต้องได้รับอนุญาตจากศาล สัญญาจะซื้อขายที่ไม่มีการอนุญาตจึงไม่ผูกพัน
การขายอสังหาริมทรัพย์ของเด็ก ผู้ใช้อำนาจปกครองจะทำมิได้เว้นแต่ศาลจะอนุญาต และผู้ใช้อำนาจจะให้ความยินยอมแก่เด็กโดยมิได้รับอนุญาตจากศาล ก็ไม่อาจทำได้เช่นเดียวกัน ทั้งการขายนั้นหมายความรวมถึงสัญญาจะขายอสังหาริมทรัพย์ของเด็กด้วย เมื่อผู้ใช้อำนาจปกครองไม่มีอำนาจที่จะทำได้ สัญญาจะขายอสังหาริมทรัพย์ของเด็กย่อมไม่ผูกพันเด็ก เด็กจะอ้างว่าผู้จะซื้อผิดสัญญาและจะริบมัดจำหาได้ไม่(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 816-817/2494)