พบผลลัพธ์ทั้งหมด 70 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอยู่อาศัยในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ชัดเจนถึงสัญญาจ้าง และสิทธิการอยู่อาศัยสิ้นสุดเมื่อถูกบอกกล่าว
โจทก์จ้างจำเลยทำสวน จำเลยเข้ามาปลูกเรือนอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยโจทก์มิได้ว่ากล่าวประการใด ถือได้ว่าการเข้ามาอยู่ในที่ดินของโจทก์เป็นการอาศัย มิได้เข้ามาโดยมีข้อสัญญาจ้างตกลงเช่นนั้น ดังนั้น ถึงแม้โจทก์จะยังมิได้บอกเลิกสัญญาจ้าง และยังมิได้ชำระค่าจ้าง เมื่อโจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไปแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ในที่พิพาทนี้อีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าตึกเพื่อประกอบการค้า แม้จะให้ภริยาค้าแทน ก็ถือเป็นการใช้ตึกเพื่อการค้า ไม่ใช่เพื่ออยู่อาศัย
จำเลยขายก๋วยเตี๋ยว กาแฟ น้ำแข็ง ในตึกพิพาทจดทะเบียนการค้า มีลูกจ้าง 5- 6 คน มีตู้อาหาร โต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งกิน ดังนี้ หาใช่ว่าเป็นการค้าเล็กน้อยไม่
แม้จำเลยจะไม่ทำการค้าในตึกพิพาท แต่ให้ภริยาทำ ก็ถือว่าเป็นการค้าของจำเลย
จำเลยสืบพยานไปแล้ว 6 ปาก เป็นทำนองเดียวกัน ในเรื่องภริยาจำเลยทำการค้า จำเลยจะขอสืบเพิ่มเติมในข้อที่จำเลยเช่าอยู่อาศัยซึ่งไม่มีอะไรจะสืบนอกเหนือจากที่สืบไว้แล้ว แม้ปล่อยให้สืบก็จะไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป เช่นนี้ ย่อมเป็นการประวิงคดี
แม้จำเลยจะไม่ทำการค้าในตึกพิพาท แต่ให้ภริยาทำ ก็ถือว่าเป็นการค้าของจำเลย
จำเลยสืบพยานไปแล้ว 6 ปาก เป็นทำนองเดียวกัน ในเรื่องภริยาจำเลยทำการค้า จำเลยจะขอสืบเพิ่มเติมในข้อที่จำเลยเช่าอยู่อาศัยซึ่งไม่มีอะไรจะสืบนอกเหนือจากที่สืบไว้แล้ว แม้ปล่อยให้สืบก็จะไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป เช่นนี้ ย่อมเป็นการประวิงคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าตึกเพื่อประกอบการค้า แม้จะให้ภริยาดำเนินการแทน ก็ถือเป็นการค้า มิใช่การอยู่อาศัย
จำเลยขายก๋วยเตี๋ยว กาแฟ น้ำแข็ง ในตึกพิพาทจดทะเบียนการค้ามีลูกจ้าง 5-6 คน มีตู้อาหาร โต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งกินดังนี้ หาใช่ว่าเป็นการค้าเล็กน้อยไม่
แม้จำเลยจะไม่ทำการค้าในตึกพิพาท แต่ให้ภริยาทำ ก็ถือว่าเป็นการค้าของจำเลย
จำเลยสืบพยานไปแล้ว 6 ปาก เป็นทำนองเดียวกัน ในเรื่องภริยาจำเลยทำการค้า จำเลยจะขอสืบเพิ่มเติมในข้อที่จำเลยเช่าอยู่อาศัยซึ่งไม่มีอะไรจะสืบนอกเหนือจากที่สืบไว้แล้วแม้ปล่อยให้สืบก็จะไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป เช่นนี้ย่อมเป็นการประวิงคดี
แม้จำเลยจะไม่ทำการค้าในตึกพิพาท แต่ให้ภริยาทำ ก็ถือว่าเป็นการค้าของจำเลย
จำเลยสืบพยานไปแล้ว 6 ปาก เป็นทำนองเดียวกัน ในเรื่องภริยาจำเลยทำการค้า จำเลยจะขอสืบเพิ่มเติมในข้อที่จำเลยเช่าอยู่อาศัยซึ่งไม่มีอะไรจะสืบนอกเหนือจากที่สืบไว้แล้วแม้ปล่อยให้สืบก็จะไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป เช่นนี้ย่อมเป็นการประวิงคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเอง หากผู้เช่าไม่อยู่อาศัย ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างเรือนอยู่อาศัย แต่ผู้เช่าไม่อยู่อาศัยเอง อันเป็นการผิดสัญญาต่อผู้ให้เช่านั้น การเช่านี้ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเอง หากผู้เช่าไม่อยู่อาศัย สัญญาเช่าไม่อยู่ภายใต้ความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าที่ดินเพื่อปลูกเรือนอยู่อาศัย แต่ผู้เช่าไม่อยู่อาศัยเอง อันเป็นการผิดสัญญาต่อผู้ให้เช่านั้น การเช่านี้ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการเช่าที่แท้จริงสำคัญกว่าข้อตกลงในสัญญา หากมีหลักฐานว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัยย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
แม้จะระบุในสัญญาเช่าว่า จำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เพื่อประกอบการค้าก็ดี จำเลยก็นำสืบว่าจำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียว ตลอดมาได้ เพราะเป็นการนำสืบถึงเจตนาอันแท้จริง และความจริงที่จำเลยปฏิบัติซึ่งหากได้ความว่า จำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัยแล้ว จำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: จำเลยต้องนำสืบเพื่อหักล้างข้อกล่าวหา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ตามสำเนาหนังสือสัญญาเช่าท้ายฟ้อง จำเลยได้ทำที่ดินที่เช่าไปหาผลประโยชน์โดยปลูกเรือนให้ผู้อื่นเช่า จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้เอาที่ดินที่เช่าไปหาผลประโยชน์ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ เพราะจำเลยเช่าปลูกเรือนอาศัยตามสัญญา เช่าข้อ 1 ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ชั้นพิจารณาโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยานโดยขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเดียวว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ หรือไม่ ปรากฏตามสำเนาหนังสือสัญญาเช่าท้ายฟ้องข้อ 1 มีข้อความว่าผู้เช่าขอเช่าที่ดินของผู้ให้เช่าเพื่อปลูกบ้านอยู่เป็นการให้เช่าที่ดินเพื่อปลูกเรือนอยู่อาศัย ตามข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งได้รับความ คุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ อยู่แล้ว เมื่อโจทก์จำเลยไม่สืบพยานโจทก์ย่อมแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1758-1762/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นการเช่าเพื่อประกอบการค้าหรืออยู่อาศัยเกิดขึ้นเมื่อจำเลยอ้างเป็นข้อต่อสู้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวในฟ้อง
ในคดีที่ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากตึกแถวที่ให้เช่า จะมีประเด็นว่า จำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าหรือเช่าเพื่ออยู่อาศัยก็ต่อเมื่อจำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ เมื่อกรณีจะเกิดเป็นประเด็นต่อเมื่อจำเลยอ้างขึ้นเป็นข้อต่อสู้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวเป็นประเด็นมาในฟ้อง (ว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าหรือว่าจำเลยทำการค้าในตึกพิพาท)
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าการเช่าของจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องนำสืบให้รับฟังได้ตามที่ตนอ้าง
เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าการเช่าของจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องนำสืบให้รับฟังได้ตามที่ตนอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินปลูกเรือนเพื่อปล่อยเช่า มิได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แม้จะเข้าอยู่อาศัยเองภายหลัง
จำเลยเช่าที่ดินโจทก์ปลูกเรือนแล้วให้ผู้อื่นเช่าอยู่อาศัยในเรือนนั้นตลอดมา โดยจำเลยไม่ได้เข้าอยู่อาศัยเอง ก่อนครบกำหนดสัญญาเช่าราว 5 เดือนจำเลยจึงได้เข้าไปอยู่อาศัยในเรือนหลังนั้น แต่เป็นเวลาภายหลังที่โจทก์ได้แจ้งความประสงค์ให้จำเลยทราบแล้วว่าจะไม่ต่อสัญญาเช่าให้ เพราะโจทก์ตั้งใจจะเข้าอยู่ในที่ดินนั้นเอง ดังนี้ แม้ในสัญญาเช่าจะมีข้อความว่า "เช่าอยู่อาศัยหรือปลูกบ้านให้ผู้อื่นเช่า" ก็ตาม ย่อมเห็นได้ว่าความจริงจำเลยได้เช่าที่ดินปลูกเรือนให้ผู้อื่นเช่าเพื่อเก็บผลประโยชน์มาตั้งแต่ต้น จึงไม่เป็นการอยู่อาศัยอันควร ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ทั้งพฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวเห็นได้ว่าจำเลยมิได้ใช้สิทธิโดยสุจริตตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ นั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือค้าเป็นหลัก กำหนดสิทธิคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การที่จะถือว่าการเช่าได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน ฯ หรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาว่าเช่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือไม่เป็นหลัก ถ้าเช่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยแม้จะใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจการค้า ฯ ด้วย ก็ย่อมได้รับความคุ้มครอง แต่ถ้าไม่ใช่เช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย แต่เพื่อประกอบธุรกิจการค้า ฯ แม้จะอยู่อาศัยด้วยก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง
การที่จะวินิจฉัยว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการค้านั้น จะต้องคำนึงถึงความเป็นจริงแห่งการเช่าเป็นสำคัญ จะเพ่งเล็งเฉพาะข้อความในสัญญาเป็นประมาณไม่ได้ เช่าที่ดินเนื้อที่เพียง 104 ตารางวา ปลูกบ้านไว้ถึง 8 หลัง ใช้อยู่อาศัยส่วนตัวเพียงหลังเดียว นอกนั้นปลูกให้คนอื่นเช่าเพื่อหาผลประโยชน์จากค่าเช่า แม้สัญญาเช่าจะระบุว่าเช่าเพื่อปลูกบ้านอาศัยก็ตาม การใช้ที่เช่าก็ผิดจากจุดประสงค์ของการเช่าตามที่ระบุไว้ในสัญญาแล้ว แม้จะมีบ้านที่ใช้อยู่อาศัยเองหลังหนึ่ง ก็ยังต้องถือว่าเช่าที่รายนี้เพื่อการค้า
การที่ผู้ให้เช่าที่ดินให้ความยินยอมในการที่ผู้เช่าเอาบ้านให้เช่านั้น หามีผลให้การเช่าเพื่อการค้าเปลี่ยนไปเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยไม่
การที่จะวินิจฉัยว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการค้านั้น จะต้องคำนึงถึงความเป็นจริงแห่งการเช่าเป็นสำคัญ จะเพ่งเล็งเฉพาะข้อความในสัญญาเป็นประมาณไม่ได้ เช่าที่ดินเนื้อที่เพียง 104 ตารางวา ปลูกบ้านไว้ถึง 8 หลัง ใช้อยู่อาศัยส่วนตัวเพียงหลังเดียว นอกนั้นปลูกให้คนอื่นเช่าเพื่อหาผลประโยชน์จากค่าเช่า แม้สัญญาเช่าจะระบุว่าเช่าเพื่อปลูกบ้านอาศัยก็ตาม การใช้ที่เช่าก็ผิดจากจุดประสงค์ของการเช่าตามที่ระบุไว้ในสัญญาแล้ว แม้จะมีบ้านที่ใช้อยู่อาศัยเองหลังหนึ่ง ก็ยังต้องถือว่าเช่าที่รายนี้เพื่อการค้า
การที่ผู้ให้เช่าที่ดินให้ความยินยอมในการที่ผู้เช่าเอาบ้านให้เช่านั้น หามีผลให้การเช่าเพื่อการค้าเปลี่ยนไปเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยไม่