พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดส่วนตัว-อาญาแผ่นดิน: ผู้เสียหายไม่ติดใจความ ไม่กระทบต่อคดีอาญา
คดีที่เป็นความผิดส่วนตัวและเป็นอาญาของแผ่นดิน เมื่อผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ โจทก์ไม่คัดค้านและศาลสั่งจำหน่ายคดีความผิดส่วนตัวแล้วไม่ทำให้คดีอาญาแผ่นดินต้องถอนไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาแผ่นดินตามมาตรา 319(3) อัยการมีอำนาจดำเนินคดีได้
ความผิดตามมาตรา 319(3) เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน. อัยการมีอำนาจนำคดีขึ้นฟ้องร้องได้. ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2485.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 560/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีอาญาเลือกตั้ง: ความผิดอาญาแผ่นดินต่างจากคดีแพ่ง
คดีโจทก์ของให้ลงโทษจำเลยฐานสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้+ว่าตนไม่มีสิทธินั้นเป็นคดีอาญา+อายุความตาม กฎหมายลักษณอาญาความผิดตาม พรบ การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล 2482 ม. 19 + เป็นความผิดอาญาแผ่นดินมิใช่ความผิดต่อส่วนตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการแก้ไขคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์: การแก้อาญาแผ่นดินที่ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยหรือไม่
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.246,++6 และ 298 จำคุก 2 ปีศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตาม ม.276 แต่บทเดียวจำคุก+เดือนและให้รอการลงอาญาไว้ดังนี้เป็นแก้มากฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีอาญาศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ม.246,+76 จำคุก 6 เดือนและรอการลงอาญาไว้ ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตาม ม.276 แต่บทเดียวกำหนดโทษคงเดิม ดังนี้เป็นแก้น้อยฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้
คดีอาญาศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ม.246,+76 จำคุก 6 เดือนและรอการลงอาญาไว้ ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตาม ม.276 แต่บทเดียวกำหนดโทษคงเดิม ดังนี้เป็นแก้น้อยฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6092/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำร้ายร่างกายเป็นอาญาแผ่นดิน แม้ผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ พนักงานสอบสวนและอัยการมีอำนาจดำเนินคดีได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ก้อนหินเป็นอาวุธ ทุบ ตี ทำร้ายร่างกายโจทก์ร่วม 2 ครั้ง ถูกที่บริเวณศีรษะด้านหลังขวาและหน้าผากของผู้เสียหายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ก้อนหิน เป็นอาวุธทำร้ายร่างกายโจทก์ร่วม เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย มีบาดแผลฟกช้ำบวมบริเวณหน้าผากจึงไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง
ความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตาม ป.อ. มาตรา 295 เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายพนักงานสอบสวนก็มีอำนาจสอบสวนได้โดยไม่ต้องมีคำร้องทุกข์และพนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้อง
ความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายตาม ป.อ. มาตรา 295 เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้ผู้เสียหายไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายพนักงานสอบสวนก็มีอำนาจสอบสวนได้โดยไม่ต้องมีคำร้องทุกข์และพนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 29/2564
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาแผ่นดิน: การสอบสวนโดยไม่มีคำร้องทุกข์ และการวินิจฉัยพยานหลักฐาน
ป.วิ.อ. มาตรา 121 วรรคสอง บัญญัติเพียงว่า เฉพาะคดีความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้นที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนได้จะต้องมีคำร้องทุกข์เสียก่อน เมื่อคดีความผิดที่โจทก์ฟ้องเป็นความผิดอาญาแผ่นดินทุกฐานความผิด พนักงานสอบสวนย่อมมีอำนาจสอบสวนโดยลำพังตนเองหากพบว่ามีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้น โดยเฉพาะคดีนี้ ผู้เสียหายโทรศัพท์แจ้งเหตุต่อพนักงานสอบสวน เท่ากับว่าได้มีการกล่าวโทษซึ่งทำให้พนักงานสอบสวนทราบว่ามีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้นแล้ว พนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจเริ่มต้นการสอบสวนได้ในทันทีด้วยการออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ตามที่ ป.วิ.อ. มาตรา 130 บัญญัติไว้ ถือได้ว่าคดีนี้มีการสอบสวนในความผิดตามฟ้องโดยชอบแล้ว พนักงานอัยการจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลตาม ป.วิ.อ. มาตรา 120