คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อาวุธปืน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,022 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5704/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความหมาย "อาวุธปืน" ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ครอบคลุมทั้งปืนมีทะเบียนและไม่มีทะเบียน การพาอาวุธปืนติดตัวต้องได้รับอนุญาต
พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 4 ให้คำนิยามคำว่า "อาวุธปืน" ว่าหมายความรวมตลอดถึงอาวุธทุกชนิดซึ่งใช้ส่งเครื่องกระสุนปืนโดยวิธีระเบิดหรือกำลังดันของแก๊สหรืออัดลมหรือเครื่องกลอย่างใด ซึ่งต้องอาศัยอำนาจของพลังงาน และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธนั้นๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวง มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์" จากบทบัญญัติดังกล่าว อาวุธปืนตามความหมายของมาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง จึงมีความหมายตามคำนิยายคำว่าอาวุธปืน ซึ่งรวมถึงอาวุธที่มีหมายเลขทะเบียนและได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีไว้ในครอบครอง และอาวุธปืนที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนและไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีไว้ในครอบครอง และอาวุธปืนที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีไว้ในครอบครองด้วย มิได้หมายความเฉพาะอาวุธปืนซึ่งมีหมายเลขทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีไว้ในครอบครองเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5664/2549 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีอาวุธปืนและรับของโจรเป็นความผิดต่างกรรมกัน ต้องลงโทษทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา 91
การมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครอง เป็นความผิดนับแต่วาระแรกที่จำเลยได้อาวุธปืนของกลางมาไว้ในครอบครอง และเป็นความผิดอยู่ตลอดเวลาเรื่อยไปจนกระทั่งจำเลยถูกจับได้พร้อมด้วยอาวุธปืนของกลาง ส่วนความผิดฐานรับของโจรที่จำเลยให้การรับสารภาพในคดีนี้นั้น เมื่อจำเลยรับของโจรอาวุธปืนของกลางในขณะใดขณะหนึ่งในระหว่างวันที่ 7 กันยายน 2547 เวลากลางวันถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548 เวลากลางวัน ความผิดฐานรับของโจรอาวุธปืนของกลางจึงเป็นความผิดในขณะใดขณะหนึ่งและเป็นการกระทำความผิดซึ่งอาศัยเจตนาแตกต่างแยกจากความผิดฐานมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองได้การกระทำความผิดของจำเลยที่โจทก์กล่าวหาทั้งสองคดีจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ป.อ. มาตรา 91

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5664/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีอาวุธปืนและรับของโจรเป็นคนละกรรมกัน แม้จะเกี่ยวกับอาวุธปืนเดียวกัน
การมีอาวุธปืนไว้ครอบครอง เป็นความผิดนับแต่วาระแรกที่จำเลยได้อาวุธปืนมาไว้ในครอบครอง และเป็นความผิดอยู่ตลอดเวลาเรื่อยไปจนกระทั่งจำเลยถูกจับได้พร้อมด้วยอาวุธปืน ส่วนความผิดฐานรับของโจรนั้น จำเลยรับของโจรอาวุธปืนในขณะใดขณะหนึ่งในระหว่างวันที่ 7 กันยายน 2547 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548 เวลากลางวัน ดังนั้น ความผิดฐานรับของโจรอาวุธปืนจึงเป็นความผิดในขณะใดขณะหนึ่งตามที่โจทก์กล่าวอ้างในฟ้อง และเป็นการกระทำความผิดซึ่งอาศัยเจตนาแตกต่างแยกจากความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองได้ จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2525/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน: การลงโทษตามบทกฎหมายที่ถูกต้องและเหมาะสม
การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม ฐานมีอาวุธปืนที่มีทะเบียนของผู้อื่นและมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นกฎหมายที่มีอัตราโทษหนักที่สุดตามมาตรา 72 วรรคหนึ่งนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องลงโทษตามมาตรา 72 วรรคสอง แต่คดีได้ความว่า เครื่องกระสุนตามฟ้องคือกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนตามฟ้อง การมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวจึงเป็นความผิดตามมาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง เมื่ออาวุธปืนที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 มีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่น ดังนั้น การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตามมาตรา 7, 72 วรรคสามเท่านั้น ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1372/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นความผิดฐานมีอาวุธปืนตาม พ.ร.บ. ยกเว้นความผิดอาญา และความผิดฐานพาอาวุธปืน
พ.ร.บ. ยกเว้นความผิดทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่กฎหมายห้ามออกใบอนุญาต มามอบให้แก่ทางราชการ พ.ศ. 2546 มาตรา 3 วรรคหนึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าได้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวมามอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ ให้ผู้นั้นได้รับยกเว้นจากความผิดทางอาญาตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน ฯ แม้ขณะถูกจับกุมไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยจะนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางไปมอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ก็ตาม แต่ขณะที่จำเลยถูกจับกุมและตกเป็นผู้ต้องหายังอยู่ในระยะเวลาที่จำเลยจะนำอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางมามอบให้แก่นายทะเบียนท้องที่ได้ จำเลยย่อมได้รับยกเว้นความผิดฐานมีอาวุธปืนตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
ซองพกอาวุธปืนของกลางเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานพาอาวุธปืน จึงเป็นทรัพย์ที่สมควรริบตาม ป.อ. มาตรา 33 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8815/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลฎีกายืนตามคำฟ้อง
เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมและพนักงานสอบสวนไม่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนที่ใช้ยิงผู้ตายมาเป็นของกลางได้ ประกอบกับการที่จำเลยไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนจึงต้องสันนิษฐานให้เป็นคุณแก่จำเลยว่า อาวุธปืนสั้นที่ใช้ยิงผู้ตายนั้นเป็นอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย จึงลงโทษจำเลยได้เพียงในความผิดฐานมีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้กับพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7750/2548 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน แม้ผู้ร่วมกระทำบางคนใช้อาวุธ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ มุ่งเอาผิดแก่ผู้ร่วมปล้นทรัพย์ทุกคนถ้าผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใดใช้ปืนยิงจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดเมื่อจำเลยที่ ๑ ใช้ปืนยิงในการปล้นทรัพย์
การปล้นทรัพย์จะขาดตอนแล้วหรือไม่ ย่อมต้องพิจารณาจากพฤติการณ์แห่งคดีตามข้อเท็จจริงที่ได้ความซึ่งมิได้จำกัดด้วยระยะทาง แม้จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ของจำเลยที่ 1 ออกมาเกือบถึงถนนสายป่าโมก - สุพรรณบุรีแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในบริเวณสถานีบริการน้ำมันที่เกิดเหตุซึ่งทางฝ่ายผู้เสียหายกับพวกยังอาจติดตามขัดขวางการปล้นทรัพย์นั้นได้ ยังอยู่ในขั้นตอนของการพาเอาทรัพย์ไป การปล้นทรัพย์ของจำเลยทั้งสองกับพวกจึงยังไม่ขาดตอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7750/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาของผู้ร่วมปล้นทรัพย์เมื่อมีการใช้อาวุธปืน แม้ผู้กระทำเป็นเพียงคนเดียว
ตาม ป.อ. มาตรา 340 วรรคสอง บัญญัติว่า "ถ้าในการปล้นทรัพย์ผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษ ฯลฯ" แสดงให้เห็นเจตนาของกฎหมายว่ามุ่งเอาผิดแก่ผู้ร่วมปล้นทรัพย์ทุกคน เพราะผู้กระทำอาจใช้อาวุธนั้นทำร้ายผู้เสียหายอันเป็นเหตุฉกรรจ์ได้ ความในวรรคสี่ของมาตราเดียวกันบัญญัติว่า "ถ้าการปล้นทรัพย์ได้กระทำโดย ฯลฯ ใช้ปืนยิง ฯลฯ ผู้กระทำต้องระวางโทษ ฯลฯ แสดงให้เห็นต่อเนื่องกันไปว่าถ้าผู้กระทำคนหนึ่งคนใดใช้ปืนยิงในการปล้นทรัพย์นั้น ผู้ร่วมปล้นทรัพย์ทุกคนก็ยังคงต้องร่วมรับผิดในการกระทำนั้นตามเจตนารมณ์ของกฎหมายในมาตราเดียวกัน เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงในการปล้นทรัพย์ จำเลยที่ 2 จึงต้องมีความผิดตามบทบัญญัติในวรรคสี่ของมาตรา 340 ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7554/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กฎหมายยาเสพติดและอาวุธปืนที่แก้ไขใหม่ การลดโทษ และการริบของกลาง
ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย บทความผิดกฎหมายเดิมและกฎหมายที่แก้ไขใหม่คงใช้ข้อความทำนองเดียวกัน จึงต้องใช้กฎหมายเดิมที่ใช้ในขณะกระทำความผิดบังคับ ส่วนบทกำหนดโทษกฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่ากฎหมายเดิม เพราะมีโทษหลายสถานที่จะลงได้ จึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่บังคับ ซึ่งเป็นการใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณบังคับแก่จำเลยไม่ว่าในทางใด ตาม ป.อ. มาตรา 3 ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงมีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับบทกฎหมายให้ถูกต้อง รวมทั้งแก้ไขโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับบทกฎหมายที่แก้ไขใหม่ได้ด้วย ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และคำรับในชั้นจับกุมของจำเลยเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา คดีมีเหตุบรรเทาโทษ แต่ศาลล่างทั้งสองลดโทษ ตาม ป.อ. มาตรา 78 ให้แก่จำเลยเพียงหนึ่งในสี่นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา เห็นสมควรแก้ไขเสียใหม่ให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดี โดยให้ลดโทษแก่จำเลยหนึ่งในสาม และให้มีผลถึงความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาในความผิดฐานนี้ แต่เมื่อมีเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลย ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและลดโทษให้แก่จำเลยในความผิดดังกล่าวได้ สำหรับสมุดบัญชีรายชื่อ รายรับและรายจ่าย ใบรับฝากเงินของธนาคารต่าง ๆ ของกลาง เมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่า ของกลางดังกล่าวเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ หรือวัตถุอื่นหรือทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีจึงไม่อาจริบของกลางดังกล่าวได้ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 102 และ ป.อ. มาตรา 33 ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียใหม่ให้ถูกต้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5489/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความความผิดฐานมีอาวุธปืน และการที่ศาลฎีกาสั่งยกฟ้องข้อหาขาดอายุความ แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์
ข้อหาความผิดตาม ป.อ. มาตรา 371 มีระวางโทษปรับไม่เกิน 100 บาท เพียงสถานเดียว อันเป็นระวางโทษอย่างอื่นนอกจากโทษจำคุก จึงมีอายุความ 1 ปี ตาม ป.อ. มาตรา 95 (5) จำเลยกระทำความผิดวันที่ 26 กรกฎาคม 2535 นับถึงวันฟ้องคือวันที่ 3 ตุลาคม 2540 คดีของโจทก์สำหรับความผิดตามมาตราดังกล่าวจึงเป็นอันขาดอายุความ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (6) ปัญหานี้แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 215, 225
of 103