คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อาวุธอันตราย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 73 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6287/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกาวินิจฉัยความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้ท่อนไม้กว้าง 7 เซนติเมตร ยาว 1 เมตรเศษ ตีโจทก์ร่วมที่ศีรษะจากทางด้านหลังจนโจทก์ร่วมล้มสลบไป แสดงว่าตีโดยแรงและเลือกตีส่วนสำคัญของร่างกาย หากไม่ได้รับการผ่าตัดสมองอาจถึงแก่ความตาย จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าความตายอาจเกิดจากการกระทำของตน เป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3967/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย ศาลพิจารณาเจตนาและพฤติการณ์เพื่อตัดสินความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้ท่อเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.5 เซนติเมตร ยาว50 เซนติเมตรตีผู้เสียหายที่ศีรษะหลายที มีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะด้านซ้ายยาว 5 เซนติเมตร ลึก 0.5 เซนติเมตร ซึ่งได้ความจากแพทย์ ผู้ตรวจชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหายว่าไม่ทำให้ถึงตายและกะโหลกศีรษะไม่แตก แสดงว่าจำเลยไม่ได้ตีโดยแรง เมื่อผู้เสียหายล้มลงมุด ศีรษะเข้าไปใต้รถเข็น จำเลยลากขาผู้เสียหายเพื่อให้ออกมา แต่มีคนร้องห้าม จำเลยก็หยุด แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3353/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิป้องกันตัว: การกระทำเพื่อหยุดยั้งการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ถือเป็นการป้องกันตัวโดยชอบธรรม
ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นโดยใช้เหล็กแป๊ปขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ยาวประมาณ 1 ฟุตครึ่งตีทำร้ายจำเลยก่อนและจะตีซ้ำอีก จำเลยย่อมมีสิทธิป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงไม่มีเหตุผลใดที่จำเลยจะต้องหลบหนีผู้ตาย การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายไป 1 ทีเพื่อหยุดยั้งการกระทำของผู้ตายและบังเอิญมีดไปถูกอวัยวะสำคัญทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย เช่นนี้ ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2134/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พฤติการณ์แทงด้วยอาวุธอันตรายและการไล่ทำร้ายต่อเนื่องบ่งชี้เจตนาพยายามฆ่า
จำเลยใช้เหล็กขูดชาฟท์แทงผู้เสียหายบริเวณชายโครงซ้ายผู้เสียหายเอี้ยวตัวหลบจำเลยจึงแทงถูกแขนผู้เสียหาย เหล็กขูดชาฟท์ติดอยู่ที่แขนผู้เสียหาย ตัวเหล็กขูดชาฟท์ยาวประมาณ 6 นิ้ว ด้ามยาวประมาณ 5 นิ้ว บาดแผลที่ผู้เสียหายถูกจำเลยแทงยาว 2.5 เซนติเมตรกว้าง 1 เซนติเมตรลึกถึงอีกด้านหนึ่ง แสดงว่าจำเลยแทงผู้เสียหายอย่างแรง เมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีจำเลยยังถือไม้ท่อนกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว วิ่งตามไปจะตีผู้เสียหายอีก แสดงเจตนาของจำเลยว่าหากเหล็กขูดชาฟท์ไม่ติดอยู่ที่แขนผู้เสียหายจำเลยคงจะแทงผู้เสียหายอีกอย่างแน่นอน เมื่อพิจารณาอาวุธที่จำเลยใช้ ลักษณะการแทง และบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับ ซึ่งหากผู้เสียหายไม่เอี้ยวตัวหลบและวิ่งหนีไปเสียก่อนจำเลยคงทำร้ายผู้เสียหายจนถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5640/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย การป้องกันสิทธิผู้อื่น และเจตนาฆ่า
ภริยาจำเลยกับผู้เสียหายสมัครใจทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน มิใช่เป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย จำเลยจึงไม่อาจอ้างได้ว่า การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของภริยาจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน มีดปลายแหลมที่จำเลยใช้ทั้งด้ามยาวถึง 1 ฟุต อาจใช้แทงประทุษร้ายถึงตายได้ จำเลยเลือกแทงตรงอวัยวะสำคัญและแทงโดยแรง ผู้เสียหายได้รับบาดแผลยาว 2 เซนติเมตรกว้าง 1 เซนติเมตร ลึกทะลุเยื่อบุ ช่องท้องอาจทำให้ถึงตายได้จำเลยจะแทงซ้ำอีก แต่มีผู้วิ่งมาถึงที่เกิดเหตุเสียก่อนจำเลยจึงวิ่งหนีไป เช่นนี้ ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกาพิพากษาความผิดฐานพยายามฆ่าและริบของกลาง
แม้ในตอนแรกจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายผู้เสียหายโดยการเตะแต่เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมเตะซ้ำและจับขาจำเลยล้มลง จำเลยใช้ขวดสุราตีที่ใบหูผู้เสียหายโดยแรงจนขวดสุราแตก แล้วเอาขวดสุราที่แตกแทงบริเวณลำคอของผู้เสียหาย 1 ครั้ง เกิดบาดแผลที่ใบหูกว้างยางประมาณ 1/4 x 2 เซนติเมตร และลำคอเป็นแผลปากฉลามกว้างยาวประมาณ 4 x 4 เซนติเมตร แล้วจำเลยใช้ขวานหน้ากว้างประมาณ 3 นิ้วครึ่ง ตัวขวานยาวประมาณ 5 นิ้วครึ่ง ด้ามยาวประมาณ 28 นิ้วครึ่ง ฟันที่บริเวณไหล่ซ้ายใกล้ลำคอผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายยกมือขึ้นกันเอาไว้เมื่อมีผู้มาห้ามปราม จำเลยก็พูดว่าจะซ้ำให้ตาย พฤติการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ชัดว่าจำเลยเจตนาจะกระทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกาพิพากษาความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้ขวดแตกซึ่งมีลักษณะเป็นปากฉลามแทงผู้เสียหายโดย แรงที่ลำคออันเป็นอวัยวะสำคัญ เป็นผลให้ที่ลำคอซีกซ้ายของผู้เสียหายเป็นบาดแผลปากฉลาม กว้าง ยาวประมาณ 4x4 เซนติเมตร โลหิตพุ่ง ออกไม่ขาดสาย หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีแล้วผู้เสียหายอาจเสียโลหิตมากและเสียชีวิตได้ และจำเลยยังใช้ขวานผ่า ฟืน หน้าขวานกว้างประมาณ 3 นิ้วครึ่ง ตัวขวานยาวประมาณ 5 นิ้วครึ่งและด้ามขวานยาวประมาณ 28 นิ้วครึ่ง อันเป็นอาวุธประเภทของมี คมขนาด ใหญ่ฟันผู้เสียหายที่บริเวณไหล่ใกล้ลำคอ ซึ่งถ้าผู้เสียหายไม่ยกมือขึ้นกันเอาไว้ คมขวานก็อาจจะไปถูกลำคอผู้เสียหายได้ นอกจากนี้จำเลยยังบอกผู้ที่เข้ามาห้ามปรามว่า จำเลยจะซ้ำผู้เสียหายให้ตายพฤติการณ์ของจำเลยบ่งชี้ชัดว่ามีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พฤติการณ์ทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แสดงเจตนาฆ่า ประมวลโทษฐานพยายามฆ่าและริบของกลาง
แม้ในตอนแรกจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายผู้เสียหายโดยการเตะแต่เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมเตะซ้ำและจับขาจำเลยล้มลง จำเลยใช้ขวดสุราตีที่ใบหูผู้เสียหายโดยแรงจนขวดสุราแตก แล้วเอาขวดสุราที่แตกแทงบริเวณลำคอของผู้เสียหาย 1 ครั้ง เกิดบาดแผลที่ใบหูกว้างยางประมาณ 1/4x2 เซนติเมตร และลำคอเป็นแผลปากฉลามกว้างยาวประมาณ 4x4 เซนติเมตร แล้วจำเลยใช้ขวานหน้ากว้างประมาณ 3 นิ้วครึ่ง ตัวขวานยาวประมาณ 5 นิ้วครึ่ง ด้ามยาวประมาณ28 นิ้วครึ่ง ฟันที่บริเวณไหล่ซ้ายใกล้ลำคอผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายยกมือขึ้นกันเอาไว้เมื่อมีผู้มาห้ามปราม จำเลยก็พูดว่าจะซ้ำให้ตาย พฤติการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ชัดว่าจำเลยเจตนาจะกระทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2240/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกาตัดสินว่าการกระทำนั้นเล็งเห็นผลถึงความตายได้
จำเลยใช้ไม้หน้ากว้าง 4 นิ้ว หนา 2 นิ้ว ยาว 2 ฟุต 8 นิ้วซึ่งเป็นไม้ขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นไม้เนื้อแข็งใช้สำหรับทำวงกบประตูหรือหน้าต่าง ตีที่ศีรษะผู้ตายในขณะที่ผู้ตายนั่งอยู่ไม่ได้ระวังตัว เป็นการเลือกตีตามใจชอบและเลือกตีที่สำคัญแม้จะตีเพียงทีเดียว และกะโหลกศีรษะผู้ตายไม่แตกร้าว แต่เมื่อถูกตีแล้วผู้ตายก็ฟุบลงกับโต๊ะทันทีและมีเลือดคั่งในสมองส่วนลึก แสดงว่าจำเลยตีผู้ตายอย่างแรง และปรากฏว่าผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาพฤติการณ์เช่นนี้จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
ไม้ของกลางโจทก์ไม่ได้โต้แย้งว่าเจ้าของแท้จริงรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ในส่วนที่พิพากษาว่าไม่ริบไม้ของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2240/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลพิจารณาจากลักษณะการทำร้ายและผลที่เกิดขึ้น
การที่จำเลยใช้ไม้หน้ากว้าง 4 นิ้ว หนา 2 นิ้ว ยาว 2 ฟุต 8 นิ้วซึ่งเป็นไม้ขนาดใหญ่และเป็นไม้เนื้อแข็งใช้สำหรับทำวงกบประตูหรือหน้าต่างตีที่ศีรษะผู้ตาย ในขณะที่ผู้ตายนั่งอยู่ไม่ได้ระวังตัวเป็นการเลือกตีตามใจชอบและเลือกตีที่สำคัญ แม้จะตีเพียงทีเดียวและกะโหลก ศีรษะผู้ตายไม่แตกร้าวก็ตาม แต่ปรากฏว่ามีเลือดคั่งในสมองส่วนลึกของผู้ตาย แสดงว่าจำเลยตีผู้ตายอย่างแรง และปรากฏว่าผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา พฤติการณ์เช่นนั้น จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่า อาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ ฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย.
of 8