คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจพิเศษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 38 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2540 เวอร์ชัน 6 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสันนิษฐานความเป็นบริวารในคดีแพ่งและการไม่ผูกพันคู่ความที่ไม่เข้าร่วม
ตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ.มาตรา 296 จัตวา (3) นั้นหากผู้ที่อ้างว่ามิใช่บริวารไม่ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในกำหนดเวลาแปดวันนับแต่วันปิดประกาศให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้น หาได้มีผลเด็ดขาดเป็นการตัดสิทธิห้ามฟ้องร้องภายหลังไม่ และเมื่อโจทก์มิได้ร้องเข้ามาในคดี โจทก์ย่อมมิได้อยู่ในฐานะคู่ความในคดีดังกล่าว จึงไม่ผูกพันในผลแห่งคดีต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องไม่ว่าจะด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายในเรื่องฟ้องซ้ำหรือฟ้องซ้อนแต่ประการใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2540 เวอร์ชัน 5 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงอำนาจพิเศษในคดีบังคับคดีและการฟ้องร้องสิทธิในที่ดิน การสันนิษฐานความเป็นบริวารไม่ใช่การตัดสิทธิ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 296 จัตวา (3)ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของลูกหนี้หากไม่ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในแปดวันนับแต่วันปิดประกาศให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้นไม่ได้มีผลเด็ดขาดเป็นการตัดสิทธิห้ามผู้นั้นมิให้ฟ้องร้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในภายหลังว่าที่ดินนั้นเป็นตน และเมื่อมิได้ร้องเข้ามาในคดีก็ย่อมมิได้อยู่ในฐานะคู่ความในคดีดังกล่าว จึงไม่ผูกพันในผลแห่งคดีที่จะต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องไม่ว่าจะด้วยเรื่องฟ้องซ้ำหรือฟ้องซ้อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2540 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงอำนาจพิเศษในคดีบังคับคดีและการไม่ผูกพันในผลคดีเดิม
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 จัตวา (3) นั้น หากผู้ที่อ้างว่ามิใช่บริวารไม่ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในกำหนดเวลาแปดวันนับแต่วันปิดประกาศให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้น หาได้มีผลเด็ดขาดเป็นการตัดสิทธิห้ามฟ้องร้องภายหลังไม่ และเมื่อโจทก์มิได้ร้องเข้ามาในคดีโจทก์ย่อมมิได้อยู่ในฐานะคู่ความในคดีดังกล่าว จึงไม่ผูกพันในผลแห่งคดีต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องไม่ว่าจะด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายในเรื่องฟ้องซ้ำหรือฟ้องซ้อนแต่ประการใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงอำนาจพิเศษในคดีบังคับคดีและการไม่ผูกพันผลคดีเดิมสำหรับผู้ไม่ได้แสดงอำนาจ
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296จัตวา(3)นั้นหากผู้ที่อ้างว่ามิใช่บริวารไม่ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในกำหนดเวลาแปดวันนับแต่วันปิดประกาศให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้นหาได้มีผลเด็ดขาดเป็นการตัดสิทธิห้ามฟ้องร้องภายหลังไม่และเมื่อโจทก์มิได้ร้องเข้ามาในคดีโจทก์ย่อมมิได้อยู่ในฐานะคู่ความในคดีดังกล่าวจึงไม่ผูกพันในผลแห่งคดีต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องไม่ว่าจะด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายในเรื่องฟ้องซ้ำหรือฟ้องซ้อนแต่ประการใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงอำนาจพิเศษในคดีบังคับคดีและการไม่ยื่นคำร้องคัดค้านผลของการสันนิษฐานว่าเป็นบริวารลูกหนี้
จำเลยเป็นฝ่ายชนะในคดีที่จำเลยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบ.กับพวกให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและออกไปจากที่ดินพิพาทต่อมาจำเลยนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยังที่ดินพิพาทและแจ้งให้โจทก์ในฐานะบริวารของบ. กับพวกรื้อถอนพืชผลอาสินต่างๆออกไปจากที่ดินโจทก์อ้างว่าที่ดินเป็นของโจทก์และฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องดังนี้รูปคดีต้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296จัตวา(3)แต่ตามบทบัญญัติดังกล่าวนี้หากไม่ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในเวลาแปดวันนับแต่วันปิดประกาศให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้นหาได้มีผลเด็ดขาดเป็นการตัดสิทธิห้ามห้องร้องภายหลังไม่และเมื่อโจทก์มิได้ร้องเข้ามาในคดีโจทก์ย่อมมิได้อยู่ในฐานะคู่ความในคดีดังกล่าวจึงไม่ผูกพันในผลแห่งคดีต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องไม่ว่าจะด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายในเรื่องฟ้องซ้ำหรือฟ้องซ้อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพิเศษในคดีบังคับคดี: การไม่ยื่นคำร้องไม่ตัดสิทธิฟ้องร้อง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 296จัตวา(3)ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของลูกหนี้หากไม่ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในแปดวันนับแต่วันปิดประกาศให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้นไม่ได้มีผลเด็ดขาดเป็นการตัดสิทธิห้ามผู้นั้นมิให้ฟ้องร้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในภายหลังว่าที่ดินนั้นเป็นตนและเมื่อมิได้ร้องเข้ามาในคดีก็ย่อมมิได้อยู่ในฐานะคู่ความในคดีดังกล่าวจึงไม่ผูกพันในผลแห่งคดีที่จะต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องไม่ว่าจะด้วยเรื่องฟ้องซ้ำหรือฟ้องซ้อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4253/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขับไล่: การไม่ปิดประกาศให้ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษ ไม่ส่งผลต่อสิทธิของจำเลย
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้ปิดประกาศให้ผู้ที่อ้างว่ามิใช่บริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในกำหนดเวลาแปดวันนับแต่วันปิดประกาศตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296จัตวา(3)มิได้เป็นวิธีการบังคับคดีที่เกี่ยวกับจำเลยจำเลยไม่อยู่ในฐานะผู้ต้องเสียหายโดยการฝ่าฝืนนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสองจำเลยไม่มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีด้วยเหตุนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4198-4199/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุคคลภายนอกพิสูจน์กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท แม้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และสิทธิในการแสดงอำนาจพิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
แม้จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินที่พิพาทเป็นของโจทก์ก็ไม่ตัดสิทธิบุคคลภายนอกที่จะพิสูจน์ว่าตนมีสิทธิในที่ดินพิพาทดีกว่าการที่ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องต่อศาลว่าผู้ร้องทั้งสองมีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทก็เพื่อแสดงว่าผู้ร้องทั้งสองมีสิทธิอยู่ในที่พิพาทไม่ได้เป็นบริวารของจำเลยเป็นการแสดงอำนาจพิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296จัตวา(3)มิฉะนั้นแล้วผู้ร้องทั้งสองจะต้องเสียหายโดยต้องออกไปเสียจากที่ดินพิพาทเพราะหากไม่ให้สิทธิแก่ผู้ร้องทั้งสองในการยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษโดยให้ไปว่ากล่าวเอาแก่โจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งต่างหากแล้วผู้ร้องทั้งสองอาจถูกจับกุมและกักขังตามมาตรา296จัตวา(2)ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนว่าผู้ร้องทั้งสองเป็นบริวารของจำเลยหรือไม่ที่ศาลล่างมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องทั้งสองโดยที่ยังไม่ได้ไต่สวนให้สิ้นกระแสความเป็นการที่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งศาลฎีกาย่อมย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของผู้ร้องทั้งสองแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4198-4199/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุคคลภายนอกโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุด และสิทธิในการยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษ
แม้จะได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์แล้วก็ตามก็ไม่ตัดสิทธิบุคคลภายนอกที่จะพิสูจน์ว่าตนมีสิทธิในที่ดินพิพาทดีกว่าโจทก์โดยเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทดังนั้นผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296จัตวา(3)จึงหาได้จำกัดเฉพาะแต่ผู้ทรงสิทธิพิเศษเหนือทรัพย์เช่นผู้ทรงสิทธิเก็บกินสิทธิอาศัยสิทธิเหนือพื้นดินเท่านั้นไม่ผู้ร้องทั้งสองซึ่งอ้างว่าได้ครอบครองที่ดินพิพาทและไม่ใช่บริวารของจำเลยย่อมมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลว่าได้ครอบครองที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิความเป็นเจ้าของได้เพราะถ้าไม่ให้สิทธิแก่ผู้ร้องทั้งสองในการที่จะยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษดังกล่าวต่อศาลโดยให้ไปว่ากล่าวเอาแก่โจทก์เป็นคดีหนึ่งต่างหากแล้วผู้ร้องทั้งสองก็อาจถูกจับกุมและกักขังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296จัตวา(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่และการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงเมื่อเกี่ยวข้องกับสิทธิครอบครัวและเงื่อนไขพิเศษในการอยู่อาศัย
คดีของผู้ร้องเป็นคดีเกี่ยวกับการบังคับวงศ์ญาติทั้งหลายและบริวารของจำเลยผู้ถูกฟ้องขับไล่ซึ่งอยู่บนอสังหาริมทรัพย์และคดีระหว่างโจทก์จำเลยเป็นคดีที่ฟ้องขับไล่บุคคลใด ๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งคู่ความในคดีฟ้องขับไล่นั้นต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคสอง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ว่าศาลจะฟังว่าบุคคลดังกล่าวสามารถแสดงอำนาจพิเศษให้ศาลเห็นได้หรือไม่ คดีเกี่ยวกับการบังคับวงศ์ญาติทั้งหลายและบริวารของจำเลยจึงห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคสาม
ฎีกาผู้ร้องที่ว่า แม้ผู้ร้องจะเข้ามาอยู่ในบ้านพิพาทในฐานะบุตรสะใภ้จำเลย แต่จากการนำสืบผู้ร้องได้หย่าขาดกับบุตรจำเลยและอาศัยในบ้านพิพาทในลักษณะแยกครอบครัวจากครอบครัวจำเลยไม่เกี่ยวข้องกันมาเป็นเวลา20 ปีแล้ว โดยผู้ร้องไม่ได้แยกทะเบียนบ้านใหม่ สำเนาทะเบียนบ้านไม่อาจนำมาวินิจฉัยว่าผู้ร้องเป็นบริวารจำเลยได้ เมื่อผู้ร้องได้รับสิทธิให้เข้าอยู่ในแฟลตก็เป็นการยืนยันว่าผู้ร้องมีครอบครัวแยกต่างหากมิได้อยู่โดยอาศัยสิทธิของจำเลย และฎีกาผู้ร้องต่อมาที่ว่าเมื่อโจทก์หรือทางราชการยังมิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงโดยหาที่อยู่ชั่วคราวให้แก่ผู้ร้องก่อน ซึ่งเป็นการต่างตอบแทนตามข้อตกลงและผู้ร้องยังไม่ถูกตัดสิทธิและมีสิทธิได้รับการพิจารณาถึงสิทธิตามบัตรสิทธิ ผู้ร้องจึงมีอำนาจพิเศษที่จะอยู่อาศัยในบ้านพิพาทต่อไปได้ ล้วนเป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาที่ว่าผู้ร้องสามารถแสดงอำนาจพิเศษให้ศาลเห็นได้นั่นเอง จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกาตามป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคสาม
of 4