คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจฟ้องร้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4106/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ไม่ถูกต้องตามคำพิพากษา ผู้รับหนังสือ/คู่กรณีมีอำนาจฟ้องร้องได้โดยตรง
ประเด็นในคดีซึ่งศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยไว้แล้วและในชั้นศาลอุทธรณ์จำเลยก็ได้หยิบยกขึ้นโต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์อันเป็นประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยให้ เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยประเด็นข้อนี้ไว้ ศาลฎีกาเห็นสมควรที่จะวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่แล้วในสำนวนก็ชอบจะทำได้ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวน
ตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 วรรคท้ายในกรณีที่มีการออกโฉนดที่ดินโดยไม่ถูกต้อง ผู้ได้รับหนังสือหรือคู่กรณีมีอำนาจดำเนินการฟ้องร้องยังศาลให้เพิกถอนได้ ไม่จำเป็นจะต้องให้อธิบดีกรมที่ดินเป็นผู้เพิกถอนทุกกรณี และเมื่อศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไขอย่างไรแล้วจึงให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 71 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินดำเนินการตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นตามวิธีการที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2696/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องร้องขอคืนของกลาง: หนังสือมอบอำนาจต้องระบุชัดเจนถึงการดำเนินคดีต่อศาล
หนังสือมอบอำนาจท้ายคำร้องมีข้อความว่า.'.....ให้มีอำนาจในการขอรับเอารถยนต์ไถนาคันดังกล่าวจากพนักงานสอบสวนได้....ฯลฯ' เป็นการมอบอำนาจให้รับรถไถจากพนักงานสอบสวนมิได้มีการมอบอำนาจให้มายื่นคำร้องหรือดำเนินคดีต่อศาลเพื่อขอคืนรถไถของกลาง เมื่อ ก. เจ้าของรถไถมิได้มอบอำนาจให้ ค. ยื่นคำร้องหรือดำเนินคดีต่อศาลเพื่อขอรถไถของกลางคืน ค. จึงไม่มีอำนาจมายื่นคำร้องหรือดำเนินคดีนี้ต่อศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสร้างวัดโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ส่งผลให้ไม่มีอำนาจฟ้องร้องเกี่ยวกับที่ดิน
วัดโจทก์จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2482 ก่อนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505ใช้บังคับ กรณีต้องบังคับตามพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ รัตนโกสินทรศก 121 การจะสร้างวัดขึ้นใหม่ตามกฎหมายดังกล่าวนี้จะต้องมีการขอรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างเสียก่อนจึงจะสร้างได้ แต่วัดโจทก์นี้ราษฎรพร้อมใจกันจัดสร้างขึ้นโดยไม่มีการขอรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้าง จึงเป็นการสร้างวัดขึ้นใหม่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติมาตรา 9 แห่งกฎหมายดังกล่าว และไม่มีสภาพเป็นวัดตามที่ระบุไว้ในมาตรา 5 แห่งกฎหมายฉบับนั้น เพราะฉะนั้นที่พิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่ามีผู้ยกให้ จึงไม่ใช่สมบัติของวัดอันจะถือว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์ วัดโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2065-2091/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ขายในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับผู้ครอบครองที่ดินหลังการโอนกรรมสิทธิ์ และอำนาจฟ้องร้อง
ในการซื้อขายที่ดินระหว่างโจทก์กับการเคหะแห่งชาติ โจทก์รับรองว่าจะรื้อถอนขนย้ายสิ่งปลูกสร้าง กับอพยพผู้อาศัยและบริวารออกไปจากที่ดินให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน หากไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย 400,000 บาท อีกโสดหนึ่งด้วย ดังนั้นถึงแม้โจทก์จะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่การเคหะแห่งชาติไปแล้ว โจทก์ก็ยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อตกลงในสัญญา มิฉะนั้นอาจถูกเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายได้ โจทก์จึงมีสิทธิทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยผู้อยู่อาศัยและทำประโยชน์ในที่ดินที่โจทก์ขาย และมีอำนาจฟ้องบังคับตามสัญญาที่ทำกับจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2652/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินจากการซื้อขายจะซื้อขาย และอำนาจฟ้องร้องกรณีบุกรุก
ที่ดิน น.ส.3 เจ้าของทำสัญญาขายให้ผู้ซื้อโดยทำหนังสือสัญญากันเอง ได้มีการชำระราคากันบางส่วน ที่เหลือจะชำระหมดในวันจดทะเบียนการโอน แม้จะมีข้อตกลงว่าให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองได้ในระหว่างยังไม่ได้โอนที่พิพาทนั้นก็ตาม ก็เป็นเพียงสัญญาจะซื้อขายและเป็นการมอบที่ดินให้เข้าครอบครองแทนกันไปก่อน สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของ เจ้าของจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์เมื่อมีผู้บุกรุกที่ดินดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การที่คู่สัญญายังมิได้ทำนิติกรรมโอนขาย และต่างปล่อยปละละเลยจนถึงวันฟ้อง ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องร้อง
การที่โจทก์จำเลยยังมิได้ไปทำนิติกรรมโอนขายที่ดินต่อกันตามสัญญา ต่างปล่อยปละละเลยเรื่อยมาจนถึงวันฟ้องเพราะโจทก์กับจำเลยยังมิได้กำหนดวันไปทำนิติกรรมโอนขายที่ดินรายนี้แก่กันจะถือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ผิดนัดผิดสัญญายังไม่ได้เมื่อยังไม่มีฝ่ายใดผิดนัดผิดสัญญา อำนาจฟ้องร้องจึงยังไม่เกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 150/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง: การโต้แย้งเจตนาทุจริตและอำนาจฟ้องร้องในคดีเช็ค
จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตออกเช็คจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คและกล่าวถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่แสดงว่า โจทก์ร่วมไม่มีอำนาจที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดีได้ ฎีกาดังกล่าวเป็นการอ้างอิงพยานหลักฐานว่าควรจะฟังพยานหลักฐานดังที่จำเลยชี้แจงฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการทรัพย์สินของวัด และอำนาจฟ้องร้อง กรณีการก่อสร้างที่ไม่ได้รับอนุญาต
วัดซึ่งเป็นนิติบุคคลย่อมมีอำนาจจัดการทรัพย์สมบัติของวัดได้ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 43 แต่ศาสนสมบัติของวัดก็ต้องเป็นไปตามระเบียบซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ตราไว้ด้วยความเห็นชอบของคณะสังฆมนตรีตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 49
ฟ้องว่าวัดโจทก์จ้างผู้รับเหมาปลูกสร้างตึกแถวในที่ดินของวัด ระหว่างก่อสร้างจำเลยเข้าดำเนินงานก่อสร้างเอง โดยโจทก์ไม่ยินยอม เมื่อจำเลยต่อสู้ว่า จำเลยมีอำนาจจัดการได้ตามกฎหมาย ตามระเบียบการจัดประโยชน์ศาสนสมบัติ และต่อสู้ว่า จำเลยทำตามคำสั่งของสังฆายกและสังฆมนตรีว่าการองค์การปกครองซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของเจ้าอาวาสวัดโจทก์ดังนี้ กรณีเป็นเรื่องที่จะต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปและโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยโดยลำพังได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมในทรัพย์สินที่ถูกยึด ไม่อำนาจร้องขอปล่อยทรัพย์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.288
เจ้าของร่วมคนหนึ่งในทรัพย์สินที่ถูกยึดจะร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดตาม ป.วิ.แพ่ง 288 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 758/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องร้องทางอาญาของศาลทหารเหนือการลงโทษทางวินัยของผู้บังคับบัญชา
ความในมาตรา 8 แห่ง ป.ม.กฎหมายลักษณะอาญาทหาร มีบัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า ถ้านายทหารผู้มีอำนาจตั้งศาลทหาร เห็นสมควรให้นำความผิดฟ้องร้องต่อศาลแล้ว ผู้บังคับบัญชาจะสั่งลงโทษทางวินัยไม่ได้ จะต้องเป็นไปตามคำสั่งของนายทหารผู้มีอำนาจตั้งศาลทหาร
จำเลยเป็นนายสิบเวรของกองร้อย ได้ละทิ้งหน้าที่ไปจนคนร้ายลักปืนกลเบาของกองร้อยไป ผู้บังคับบัญชาของจำเลยได้สั่งลงทัณฑ์ขัง 15 วัน แล้วต่อมาผู้มีอำนาจตั้งศาลทหารได้มีคำสั่งตั้งกรรมการศาลขึ้นพิจารณาพิพากษาการกระทำของจำเลย ซึ่งเป็นอำนาจสูงกว่าคำสั่งผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่ได้สั่งให้ลงทัณฑ์ ดังนี้ ไม่ตัดอำนาจของผู้มีอำนาจตั้งศาลทหาร ที่จะสั่งฟ้องร้องจำเลยได้.
of 3