คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุปสรรค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 22 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการอุทธรณ์จำกัดเฉพาะประเด็นที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย การยกข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์และฎีกาจึงเป็นอุปสรรค
โจทก์ฟ้องจำเลยข้อหาหมิ่นประมาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวไม่เป็นหมิ่นประมาทคดีของโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์โดยกล่าวอ้างข้อความที่เป็นหมิ่นประมาทเพิ่มเติมนอกเหนือ จากที่ศาลชั้นต้นฟังมา ดังนี้ เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จึงเป็นอุทธรณ์คัดค้านในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิถึงแม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้ โจทก์ก็จะยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมานั้นเป็นยุติแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยและการปฏิบัติตามคำพิพากษา: แม้มีอุปสรรค จำเลยยังต้องชำระหนี้ตามกำหนด
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ยอมชำระเงินค่าเลี้ยงดูโจทก์เป็นรายเดือนจนกว่าโจทก์จะถึงแก่ความตาย หากผิดนัดงวดหนึ่งงวดใด ยอมยกที่ดินให้เป็นของโจทก์ทันที และศาลพิพากษาตามยอมไปแล้ว แม้ควายของจำเลยจะหายและต้องออกติดตาม จำเลยก็ยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษา การไปตามควายกลับไม่ทันมิใช่เหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8 ที่จำเลยว่าขายข้าวไม่ได้เพราะข้าวไม่มีราคานั้น หากขวนขวายขายในราคาต่ำ ด้วยความจำเป็นที่จะต้องหาเงินมาชำระหนี้ ก็ย่อมทำได้ ฉะนั้น เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินค่าเลี้ยงดูให้โจทก์ภายในกำหนด ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัด จำเลยจะยกเหตุทั้งสองดังกล่าวแล้วเป็นข้อแก้ตัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 205,219 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกประเด็นใหม่ในฎีกาที่มิได้ยกขึ้นในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เป็นอุปสรรคต่อการวินิจฉัย
จำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ได้คัดค้านคำสั่งงดสืบพยานของศาลชั้นต้นไว้ โจทก์จึงอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานใหม่ไม่ได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ จำเลยจะฎีกาว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบไม่ได้ เพราะปัญหานี้มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในศาลแขวง: การยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกาเป็นอุปสรรค
ศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโดยฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนากระทำผิดโจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ดังนี้ เมื่ออุทธรณ์โจทก์เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา22 แล้ว โจทก์จึงยกข้อเท็จจริงขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาไม่ได้ โดยถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์โดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ฎีกาโจทก์เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงจึงต้องห้าม ยกฎีกาโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดถือครอบครองที่ดินต่อเนื่อง แม้มีอุปสรรคชั่วคราว ไม่ถือเป็นการสละการครอบครอง
ที่พิพาทเนื้อที่ 12 ไร่เศษ ไม่มีโฉนด เดิมเป็นของมารดาจำเลย มารดาจำเลยได้ยกที่พิพาทตีใช้หนี้เงินกู้ให้โจทก์ใน พ.ศ. 2494 โจทก์จึงจ้างคนถางที่พิพาทจนเตียนหมด แล้วใน พ.ศ. 2495 และ 2496 โจทก์ก็ทำนาและปลูกถั่วในที่พิพาท โดยทำนา 2 ไร่ ปลูกถั่ว 2 ไร่ นอกนั้นเป็นดอนน้ำไม่ถึง ปลูกอะไรไม่ได้ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการยึดถือโดยเจตนาเป็นเจ้าของ โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาทหมดทั้งแปลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 ในปีต่อ ๆ มาจนถึง พ.ศ. 2501 โจทก์และผู้ดูแลที่พิพาทแทนโจทก์ได้ปล่อยที่พิพาทว่างไว้เนื่องจากขาดน้ำ ทำผลประโยชน์ไม่ได้ จะถือว่าโจทก์สละเจตนาครอบครองหรือไม่ยึดถือที่พิพาทตามมาตรา 1377 วรรคแรกหาได้ไม่ ต้องถือว่ามีเหตุชั่วคราวมาขัดขวางมิให้โจทก์เข้ายึดถือทำประโยชน์ อันเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 1377 วรรค 2 การครอบครองของโจทก์จึงไม่สิ้นสุดลง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 41/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามปล้นทรัพย์: การยับยั้งการกระทำด้วยตนเองไม่ถือเป็นอุปสรรค
การกระทำของจำเลยเป็นการพยายามปล้นทรัพย์ตามกฎหมาย แต่การที่พวกจำเลยมิได้กระทำไปจนบรรลุผลสำเร็จ เพราะเห็นว่าผู้เสียหายเป็นพวกเดียวกัน จึงหยุดการกระทำเสียนั้น เป็นการยับยั้งเสียเอง หาใช่เพราะมีอุปสรรคอื่นขัดขวาง จำเลยจึงยังไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 82.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิไถ่ถอนสัญญาขายฝาก แม้มีอุปสรรคในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ขายฝากยังคงสิทธิได้
ทำสัญญาขายฝากที่ดินกัน พอถึงวันครบกำหนดไถ่ถอนผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิขอไถ่แต่การแก้โฉนดขัดข้องเพราะที่ดินถูกอายัดไว้ อันไม่ใช่เป็นความผิดของฝ่ายผู้ซื้อหรือผู้ขายฝาก จึงต้องเลื่อนกำหนดไปวันอื่นซึ่งพ้นกำหนดเวลาไถ่คืนตามสัญญาแล้วเช่นนี้ต้องถือว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่คืนตามสัญญาแล้วผู้ซื้อฝากต้องยอมให้ไถ่จะอ้างว่ามาไถ่เมื่อพ้นกำหนดสัญญาแล้วไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายบุรณาการ - ฟ้องบังคับก่อนเงื่อนไขครบถ้วนเป็นอุปสรรค
มารดากับบุตรทำสัญญาจะขายทรัพย์มฤดกรายเดียวกันให้แก่ผู้ซื้อ ถือว่า เป็นสัญญาไม่อาจแบ่งแยก ผู้ซื้อจะมาฟ้องบังคับผู้ขายคนใดคนหนึ่งมิได้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินซึ่งมีเงื่อนไขว่า ฝ่ายผู้ขายจะไปขอโอนใส่ชื่อผู้ขาย เป็นเจ้าของแล้วจะโอนขายให้ผู้ซื้อใน 3 เดือนนั้น เมื่อผู้ขายยังไปโอนใส่ชื่อผู้ขายไม่ได้โดยมีอุปสรรคอยู่ หากผู้ซื้อมาฟ้องบังคับตามสัญญาจะซื้อขาย ดังนี้ ถือว่าผู้ซื้อมาฟ้องก่อนการเป็นไปตามเงื่อนไข

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญา แม้ใบชันสูตรพลิกศพไม่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 154 ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการฟ้อง
พนักงานสอบสวนและแพทย์ได้ทำการชัณสูตรพลิกศพผู้ตายเสร็จแล้ว หากแต่ขาดบันทึกความเห็นเรื่องผู้ตาย ตายที่ไหน เมื่อใด ใครหรือสงสัยใครเป็นคนร้าย ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.อาญามาตรา 154 นั้น ไม่ต้องห้ามมิให้ฟ้องผู้ต้องหายังศาลตาม ป.วิ.อาญามาตรา 129.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เกณฑ์การเล็งเห็นผลสำเร็จของการพยายามกระทำความผิด: ระยะห่าง, อุปสรรค, และความสะดวกในการหลบหนี
พฤติการณ์ที่ถือว่าการกระทำยังไม่ถึงคั่นพยายามตามกฎหมาย
of 3