พบผลลัพธ์ทั้งหมด 51 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดแปรรูปไม้และครอบครองไม้ในเขตควบคุม, ความรับรู้เขตอุทยานแห่งชาติมีผลต่อความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามประกาศกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ฯซึ่งได้กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตลอดเขตท้องที่ทุกจังหวัดหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งการแปรรูปไม้หรือมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองณที่ใดภายในราชอาณาจักรถือเป็นความผิดทั้งสิ้นสำหรับในท้องที่เกิดเหตุจำเลยแถลงยอมรับว่าม.ป่าไม้อำเภอและจ.กำนันได้ดำเนินการปิดประกาศเพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบแล้วและจำเลยมิได้นำสืบปฏิเสธความข้อนี้จึงฟังได้ว่าจำเลยได้ทราบประกาศกระทรวงเกษตรดังกล่าวแล้ว. พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติฯมาตรา8บัญญัติให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีหลักเขตและป้ายหรือเครื่องหมายอื่นแสดงไว้เพื่อให้ประชาชนได้ทราบว่าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติการที่ทางกระทรวงเกษตรแจ้งให้ทางอำเภอกำนันและผู้ใหญ่บ้านแจ้งให้ราษฎรในท้องที่ทราบถึงเขตของอุทยานแห่งชาติฯโดยไม่ปรากฏว่าได้มีการปักหลักเขตติดป้ายหรือเครื่องหมายอื่นใดที่พอแสดงให้ทราบอาณาเขตของอุทยานแห่งชาติดังกล่าวจึงยังไม่พอฟังว่าจำเลยได้ทราบว่าท้องที่ซึ่งตนกระทำความผิดนั้นอยู่ในอาณาเขตของอุทยานแห่งชาติ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์การประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นหน้าที่ของโจทก์ หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ คดีความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้และมีไม้สักแปรรูปต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้และมีไม้สักแปรรูปในท้องที่ซึ่งอยู่ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 จำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์ย่อมมีหน้าที่ต้องนำสืบให้ได้ความตามที่กล่าวหา เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้นำสืบให้เห็นว่าได้มีการคัดสำเนาประกาศ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรประกาศกำหนดให้ตำบลที่เกิดเหตุเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ปิดไว้ในที่ต่าง ๆ ตามที่พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 5 กำหนดไว้ครบถ้วนแล้ว คดีจึงลงโทษจำเลยในความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้และมีไม้สักแปรรูปไม่ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1333/2523)
การทำไม้สักในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และการมีไม้สักมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครอง การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ จึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน
การทำไม้สักในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และการมีไม้สักมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครอง การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ จึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นหน้าที่โจทก์ การกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้และมีไม้สักแปรรูปในท้องที่ซึ่งอยู่ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 จำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์ย่อมมีหน้าที่ต้องนำสืบให้ได้ความตามที่กล่าวหา เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ นำสืบให้เห็นว่าได้มีการคัดสำเนาประกาศซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรประกาศกำหนดให้ตำบลที่เกิดเหตุเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ปิดไว้ ในที่ต่าง ๆ ตามที่พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 5 กำหนดไว้ครบถ้วนแล้ว คดีจึงลงโทษจำเลยในความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้และมีไม้สักแปรรูปไม่ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1333/2523) การทำไม้สักในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และการมีไม้สักมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครอง การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ จึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปรรูปไม้เพื่อการค้าในเขตควบคุมต้องได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ แม้มีใบอนุญาตโรงงาน
การไสไม้ ตัดไม้ บังใบ แม้จะกระทำต่อไม้ที่แปรรูปแล้ว แต่ก็ย่อมทำให้รูปและขนาดของไม้เปลี่ยนไป ไม่มากก็น้อย จึงเป็นการแปรรูปไม้ตามกฎหมาย
แม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานไสไม้และซอยไม้จากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งออกตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2512 แต่เมื่อโรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2482 มาตรา 48 ซึ่งแก้ไขแล้ว คือจำเลยจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ด้วย
แม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานไสไม้และซอยไม้จากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งออกตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2512 แต่เมื่อโรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2482 มาตรา 48 ซึ่งแก้ไขแล้ว คือจำเลยจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1834/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่สมบูรณ์หากไม่ระบุเขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นองค์ประกอบความผิด
ความผิดฐานแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เขตการควบคุมแปรรูปไม้เป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดซึ่งโจทก์จะต้องบรรยายมาในฟ้อง เมื่อคำฟ้องโจทก์ไม่ได้ระบุว่าที่เกิดเหตุที่จำเลยแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองนั้นอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นองค์ประกอบความผิด โจทก์ต้องนำสืบพิสูจน์
เขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบ
ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ แม้จะได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วก็ตาม แต่ประกาศดังกล่าวเป็นเพียงข้อกำหนดของทางราชการเท่านั้น หาใช่กฎหมายหรือเป็นข้อเท็จจริงที่รู้กันทั่วไปไม่
ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ แม้จะได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วก็ตาม แต่ประกาศดังกล่าวเป็นเพียงข้อกำหนดของทางราชการเท่านั้น หาใช่กฎหมายหรือเป็นข้อเท็จจริงที่รู้กันทั่วไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2678/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบกิจการโรงงานในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายป่าไม้ควบคู่ไปด้วย
แม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงาน และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งออกให้ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 แต่โรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และทำการแปรรูปไม้ จำเลยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 19 กล่าวคือต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อีกโสดหนึ่งด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2678/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โรงงานแปรรูปไม้ในเขตควบคุม ต้องได้รับอนุญาตตามทั้ง พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.ป่าไม้
แม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงาน และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งออกให้ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2512 แต่โรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และทำการแปรรูปไม้ จำเลยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา48 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5)พ.ศ.2518 มาตรา 19 กล่าวคือต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อีกโสดหนึ่งด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1980/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตควบคุมการแปรรูปไม้และการครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไม้สักแปรรูปอันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เหตุเกิดที่ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามสำเนาประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ท้ายฟ้อง ดังนี้ โจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้แล้ว ว่าที่เกิดเหตุอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามสำเนาประกาศที่แนบมาท้ายฟ้อง เป็นข้อเท็จจริงครบองค์ประกอบของความผิดตาม มาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 แล้ว แม้ไม่ได้กล่าวว่าได้คัดสำเนาประกาศของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันท้องที่เกิดเหตุ ก็ไม่ทำให้ฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1980/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตควบคุมการแปรรูปไม้และการครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต การพิสูจน์การประกาศใช้กฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไม้สักแปรรูปอันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเหตุเกิดที่ตำบลต้นเปาอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามสำเนาประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ท้ายฟ้อง ดังนี้ โจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้แล้วว่าที่เกิดเหตุอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามสำเนาประกาศที่แนบมาท้ายฟ้อง เป็นข้อเท็จจริงครบองค์ประกอบของความผิดตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 แล้ว แม้ไม่ได้กล่าวว่าได้คัดสำเนาประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอและที่ทำการกำนันท้องที่เกิดเหตุ ก็ไม่ทำให้ฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์