พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2158/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากความประมาทเลินเล่อในการรักษาเงินสดของสหกรณ์ ฝ่าฝืนระเบียบการเงิน
สหกรณ์โจทก์มีระเบียบว่าด้วยการรับจ่ายและเก็บรักษาเงินของสหกรณ์ พ.ศ. 2520 ข้อ 8 ว่า เหรัญญิก หรือเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์จะเก็บรักษาเงินสดของสหกรณ์ไว้ได้ไม่เกินหนึ่งพันบาท เงินสดส่วนที่เกินให้นำส่งเข้าฝากในธนาคารที่สหกรณ์เปิดบัญชีเงินฝากไว้ ในกรณีจำเป็นไม่สามารถนำเข้าฝากได้ทันในเวลานั้น ๆ ให้ทำบันทึกเสนอประธานกรรมการ หรือรองประธานกรรมการทราบและให้นำส่งเข้าฝากในวันแรกที่เปิดทำการ เงินสดที่เก็บรักษาไว้ดังกล่าวข้างต้นให้เก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัยของสหกรณ์ ซึ่งจำเลยทราบระเบียบดังกล่าวดีอยู่แล้ว การที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบกลับเก็บรักษาเงินสดของโจทก์ไว้เป็นจำนวนมากถึง 43,878.22 บาท โดยละเลยไม่นำส่วนที่เกินหนึ่งพันบาทไปฝากธนาคาร ทั้งไม่ทำบันทึกเสนอประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการของโจทก์รับทราบ และเก็บรักษาลูกกุญแจตู้นิรภัย เก็บเงินไว้ในโต๊ะทำงานซึ่งอยู่ห่างตู้นิรภัยเพียง 1 เมตร ง่ายต่อการที่คนร้ายจะค้นพบแล้วนำไปไขเปิดตู้นิรภัยนั้น พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เมื่อมีคนร้ายลักลอบเข้ามางัดโต๊ะทำงานและค้นได้ลูกกุญแจนำไปไขตู้นิรภัยแล้วลักเอาเงินสดจำนวนดังกล่าวข้างต้นไป ความเสียหายย่อมเป็นผลโดยตรงจากการประมาทเลินเล่อของจำเลย ถือได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2158/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากความประมาทเลินเล่อในการรักษาเงินสดของสหกรณ์ตามระเบียบ
สหกรณ์โจทก์มีระเบียบว่าด้วยการรับจ่ายและเก็บรักษาเงินของสหกรณ์ พ.ศ. 2520 ข้อ 8 ว่า เหรัญญิกหรือเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์จะเก็บรักษาเงินสดของสหกรณ์ไว้ได้ไม่เกินหนึ่งพันบาท เงินสดส่วนที่เกินให้นำส่งเข้าฝากในธนาคารที่สหกรณ์เปิดบัญชีเงินฝากไว้ ในกรณีจำเป็นไม่สามารถนำเข้าฝากได้ทันในเวลานั้น ๆ ให้ทำบันทึกเสนอประธานกรรมการ หรือรองประธานกรรมการทราบและให้นำส่งเข้าฝากในวันแรกที่เปิดทำการ เงินสดที่เก็บรักษาไว้ดังกล่าวข้างต้นให้เก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัยของสหกรณ์ ซึ่งจำเลยทราบระเบียบดังกล่าวดีอยู่แล้วการที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบกลับเก็บรักษาเงินสดของโจทก์ไว้เป็นจำนวนมากถึง43,878.22 บาท โดยละเลยไม่นำส่วนที่เกินหนึ่งพันบาทไปฝากธนาคาร ทั้งไม่ทำบันทึกเสนอประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการของโจทก์รับทราบ และเก็บรักษาลูกกุญแจตู้นิรภัย เก็บเงินไว้ในโต๊ะทำงานซึ่งอยู่ห่างตู้นิรภัยเพียง 1 เมตร ง่ายต่อการที่คนร้ายจะค้นพบแล้วนำไปไขเปิดตู้นิรภัยนั้นพฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เมื่อมีคนร้ายลักลอบเข้ามางัดโต๊ะทำงานและค้นได้ลูกกุญแจนำไปไขตู้นิรภัยแล้วลักเอาเงินสดจำนวนดังกล่าวข้างต้นไป ความเสียหายย่อมเป็นผลโดยตรงจากการประมาทเลินเล่อของจำเลย ถือได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2827/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดิน: การชำระด้วยเงินสดตามสัญญา และการบอกเลิกสัญญา
สัญญาจะซื้อขายระบุว่าผู้ซื้อจะนำเงินสดไปชำระในวันนัดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินครั้นถึงวันนัดโอนผู้ซื้อสั่งจ่ายเช็คเงินสดไปชำระ ผู้ขายไม่ยอมรับและไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ถือได้ว่าผู้ซื้อไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญา ผู้ซื้อจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้ขายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบมัดจำได้
การบอกเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ดินนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติให้ทำเป็นหนังสือเพียงแต่แสดงเจตนาต่อกันก็สมบูรณ์แล้วหนังสือบอกเลิกสัญญาที่จำเลยมอบอำนาจให้บุตรจำเลยบอกเลิกและส่งให้โจทก์มีลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย โดยไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพอถือได้ว่าจำเลยแสดงเจตนาเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว
การบอกเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ดินนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติให้ทำเป็นหนังสือเพียงแต่แสดงเจตนาต่อกันก็สมบูรณ์แล้วหนังสือบอกเลิกสัญญาที่จำเลยมอบอำนาจให้บุตรจำเลยบอกเลิกและส่งให้โจทก์มีลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย โดยไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพอถือได้ว่าจำเลยแสดงเจตนาเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็คที่ไม่ได้รับการรับรอง การใช้เงินสดต้องมีหลักฐานการลงลายมือชื่อผู้ให้กู้
จำเลยผู้กู้ชำระเงินกู้ด้วยเช็คแต่โจทก์ผู้ให้กู้ไม่ไปรับเงินผู้กู้จึงให้คนไปรับเงินตามเช็คมาใช้แก่โจทก์ ดังนี้ เป็นการชำระหนี้ด้วยเงินสด เอกสารที่มีการถอนเงินจากธนาคารของจำเลยและโจทก์ฝากเงินจำนวนเท่ากันในวันรุ่งขึ้น ณ ธนาคารของโจทก์ ไม่เป็นหลักฐานการใช้เงินลงลายมือชื่อผู้ให้กู้ตาม มาตรา 653
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1049/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานเพื่ออธิบายเอกสารใบรับเงิน เพื่อยืนยันการชำระหนี้ด้วยเงินสดและเช็ค
โจทก์อาจนำพยานมาสืบว่าเอกสาร ล.1 ที่จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ออกให้แก่จำเลยในการชำระหนี้ ว่าความจริงโจทก์ออกใบรับเงิน ล.1 ให้จำเลยจริงเพราะจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ครบ โดยชำระเป็นเงินสดส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือชำระเป็นเช็ค 2 ฉบับ ซึ่งโจทก์นำไปขึ้นเงินไม่ได้ จึงมาฟ้องให้จำเลยชดใช้ การสืบเช่นนี้ไม่เป็นการสืบแก้ไขเอกสาร เป็นการสืบอธิบายเอกสาร สืบได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีเงินสดในร้านค้าจำนวนน้อย ไม่ถือเป็นความผิด
กรณีที่ร้านค้ามีสตางค์ไว้ 80 บาท โจทก์ไม่แสดงให้เห็นว่าเกินสมควรไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้าทั่วไปและการมีเงินสดไม่เกินสมควร ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยทำการค้า มีการรับซื้อข้าวเปลือกจากราษฎรเป็นรายย่อยค้าไม้ต่างๆ และค้าของเบ็ดเตล็ดมีสตางค์ไว้ในครอบครอง 80 บาท 70 สตางค์ ถือไม่ได้ว่าจำเลยค้าสตางค์และมีไว้เกินสมควรสำหรับปกติธุระ ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการเกินสมควรในการค้าขายขนมเร่: พิจารณาเงินสดที่พบกับรายได้จากการค้า
พรึติการน์ที่ถือว่าแม่ค้าทำขนมเร่ขายมีสตางค์ไว้ 34 บาทเสสไม่เปนการเกินสมควน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบการค้าและอุตสาหกรรม: การมีเงินสดไว้ในครอบครองไม่เกินสมควร
จำเลยทำจักสานขายและรับซื้อเครื่องจักสานไว้ขายมีสตางค์ไว้ในครอบครอง 24 บาท ถือได้ว่าเป็นผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมและไม่ถือว่ามีไว้เกินสมควรสำหรับปกติธุระหรือเกินจำเป็นสำหรับการใช้จ่ายปกติ ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2271/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด: รถยนต์, โทรศัพท์, เงินสด และการพิจารณาความเชื่อมโยงกับการกระทำผิด
จำเลยที่ 3 ใช้รถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะไปซื้อผักกาดขาวมาใช้ซ่อนเร้นเมทแอมเฟตามีนของกลาง และพาจำเลยที่ 5 และที่ 6 ซึ่งมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายไปส่งที่ศาลาพักผู้โดยสาร อันเป็นการใช้รถยนต์ของกลางในการกระทำความผิดหรือให้ได้รับผลในการกระทำความผิดโดยตรงอันจะพึงริบตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102 และ ป.อ. มาตรา 33 (1)