พบผลลัพธ์ทั้งหมด 37 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2479/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนจำกัดอำนาจ การเชิดตัวแทน และความรับผิดในฐานะตัวการ
บริษัทจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมได้แต่งตั้งให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการใหญ่บริหารโรงแรม และมอบอำนาจให้เป็นผู้ทำสัญญาซื้อสินค้าจากโจทก์ รวมทั้งให้เป็นผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเช็คในบัญชีของบริษัทจำเลยที่ 4 ในกิจการของโรงแรมได้ ดังนี้ถือได้ว่าบริษัทจำเลยที่ 4 ได้เชิดให้จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนบริษัทจำเลยที่ 4 ต้องรับผิดในฐานะตัวการชำระราคาสินค้าพร้อมดอกเบี้ยที่จำเลยที่ 2 ทำสัญญาซื้อจากโจทก์เพื่อใช้ในกิจการของโรงแรม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2479/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทน – หน้าที่รับผิดของตัวการเมื่อตัวแทนทำสัญญาซื้อขายและชำระเงินด้วยเช็คของตัวการ
จำเลยที่ 4 มอบหมายให้จำเลยที่ 2 ดำเนินกิจการโรงแรมแทนและมอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 สั่งจ่ายเช็คของจำเลยที่ 4 ในกิจการของโรงแรมได้ ดังนี้การที่จำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาซื้ออุปกรณ์โทรศัพท์พิพาทจากโจทก์ โดยระบุว่ากระทำการแทนจำเลยที่ 4 แล้วจำเลยที่ 2ได้สั่งจ่ายเช็คของจำเลยที่ 4 ชำระราคาค่าอุปกรณ์โทรศัพท์และดอกเบี้ยบางส่วนตามสัญญาให้โจทก์ ประกอบกับจำเลยที่ 4 ได้ใช้อุปกรณ์โทรศัพท์พิพาทในกิจการโรงแรมของจำเลยที่ 4 ตลอดมาแสดงว่าจำเลยที่ 4 ได้เชิด ให้จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนเข้าทำสัญญาซื้อขายอุปกรณ์โทรศัพท์พิพาทกับโจทก์ จำเลยที่ 4 จึงต้องรับผิดในฐานะตัวการต้องชำระราคาค่าอุปกรณ์โทรศัพท์พิพาทให้แก่โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทนทางพฤติการณ์ และหนังสือรับสภาพหนี้ แม้ไม่มีสัญญาตั้งตัวแทน
ชื่อโอเชี่ยนวิวเป็นชื่อในทางการค้าของบริษัทจำเลย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โรงแรมโอเชี่ยนวิว จำเลยให้ผู้อื่นเช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวและบังคับให้ผู้เช่าใช้ชื่อเดิม จนเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวเป็นกิจการของจำเลย ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่บริษัทจำเลยแสดงออกแก่โจทก์และบุคคลทั่วไปว่าการดำเนินกิจการโรงแรมเป็นกิจการของบริษัทจำเลยเอง จึงเป็นการเชิดผู้เช่าเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลย ดังนั้น เมื่อผู้เช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์และไม่ชำระราคาบริษัทจำเลยจะยกเหตุแห่งการเช่าระหว่างกันเองมาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตหาได้ไม่
หนังสือขอผัดผ่อนการชำระหนี้มีข้อความยอมรับว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ซึ่งมีหนี้จำนวนเดียวเท่านั้น ลงชื่อโดยผู้แทนโรงแรมโอเชี่ยนวิว ซึ่งดำเนินกิจการโดยผู้เช่าโรงแรมที่บริษัทจำเลยเชิดขึ้นเป็นตัวแทน หนังสือดังกล่าวจึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 จำเลยจึงต้องผูกพันตามหนังสือดังกล่าวต่อโจทก์
หนังสือขอผัดผ่อนการชำระหนี้มีข้อความยอมรับว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ซึ่งมีหนี้จำนวนเดียวเท่านั้น ลงชื่อโดยผู้แทนโรงแรมโอเชี่ยนวิว ซึ่งดำเนินกิจการโดยผู้เช่าโรงแรมที่บริษัทจำเลยเชิดขึ้นเป็นตัวแทน หนังสือดังกล่าวจึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 จำเลยจึงต้องผูกพันตามหนังสือดังกล่าวต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทนทางธุรกิจและการรับผิดในหนี้จากการสั่งซื้อสินค้า แม้มีการเช่าดำเนินงาน
ชื่อโอเชี่ยนวิวเป็นชื่อในทางการค้าของบริษัทจำเลย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โรงแรมโอเชี่ยนวิว จำเลยให้ผู้อื่นเช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิว และบังคับให้ผู้เช่าใช้ชื่อเดิม จนเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวเป็นกิจการของจำเลย ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่บริษัทจำเลยแสดงออกแก่โจทก์และบุคคลทั่วไปว่าการดำเนินกิจการโรงแรมเป็นกิจการของบริษัทจำเลยเอง จึงเป็นการเชิดผู้เช่าเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลย ดังนั้น เมื่อผู้เช่าโรงแรมโอเชี่ยนวิวสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์และไม่ชำระราคาบริษัทจำเลยจะยกเหตุแห่งการเช่าระหว่างกันเองมาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตหาได้ไม่ หนังสือขอผัดผ่อนการชำระหนี้มีข้อความยอมรับว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ซึ่งมีหนี้จำนวนเดียวเท่านั้น ลงชื่อโดยผู้แทนโรงแรมโอเชี่ยนวิว ซึ่งดำเนินกิจการโดยผู้เช่าโรงแรมที่บริษัทจำเลยเชิดขึ้นเป็นตัวแทน หนังสือดังกล่าวจึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 จำเลยจึงต้องผูกพันตามหนังสือดังกล่าวต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2452/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดของเจ้าของรถแท็กซี่ที่ยินยอมให้ผู้อื่นนำรถไปวิ่งรับจ้าง และการเชิดตัวแทน
ผู้มีชื่อนำรถแท็กซี่มาจดทะเบียนเป็นชื่อของบริษัทจำเลยที่2 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ประกอบการเดินรถยนต์บรรทุกคนโดยสาร แล้วจำเลยที่ 2 ยอมให้จำเลยที่ 1 นำรถคันดังกล่าวออกวิ่งรับคนโดยสารโดยมีตราบริษัทจำเลยที่ 2 ติดอยู่ข้างรถ และจำเลยที่2 ได้รับผลประโยชน์จากการนี้ด้วย ดังนี้ เท่ากับจำเลยที่ 2 เชิดให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนในการรับจ้างบรรทุกคนโดยสาร จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ผู้ได้รับความเสียหายจากการทำละเมิดของจำเลยที่ 1.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดในสัญญาซื้อลดเช็คและการเชิดตัวแทน: ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการและผู้ค้ำประกัน
เมื่อปรากฏว่าลายมือชื่อจำเลยที่ 5 ในสัญญาค้ำประกันที่จำเลยที่ 5 ปฏิเสธว่ามิใช่ลายมือชื่อของตน กับในการ์ดตัวอย่างลายมือชื่อและคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันที่จำเลยที่ 5 รับว่าเป็นลายมือชื่อของตนจริงคล้ายคลึงกันและสีหมึกก็เป็นสีเดียวกัน ประกอบกับจำเลยที่ 2 ผู้ทำสัญญาขายลดเช็คกับจำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันก็เป็นสามีภริยากัน จึงน่าเชื่อว่าลายมือชื่อจำเลยที่ 5 ในสัญญาค้ำประกัน เป็นลายมือชื่อที่แท้จริงของจำเลยที่ 5 เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 5 แล้วเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ขอเข้าว่าคดี หรือมีคำขอให้จำหน่ายคดี ศาลย่อมดำเนินกระบวนพิจารณาสำหรับจำเลยที่ 5 ต่อไป โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 กระทำการแทนจำเลยที่ 1ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2เป็นตัวแทนเชิด ศาลก็ย่อมวินิจฉัยให้จำเลยที่ 1 รับผิดในการกระทำของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนเชิด ได้ เพราะความรับผิดของตัวแทนกับตัวแทนเชิด มีลักษณะอย่างเดียวกัน ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น การที่จำเลยที่ 5 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 1 ยอมให้จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อในสัญญาขายลดเช็คในฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 1 และประทับตราห้างจำเลยที่ 1 ด้วยทั้ง ๆ ที่ทราบดีว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดของจำเลยที่ 1 ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 5หุ้นส่วนผู้จัดการได้เชิด จำเลยที่ 2 หรือยอมให้จำเลยที่ 2เชิด ตนเองเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดตามสัญญาขายลดเช็คต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4201/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทนและการรับผิดในหนี้จากการกระทำของตัวแทนที่ถูกเชิด รวมถึงข้อความที่ขัดต่อกฎหมายในตั๋วสัญญาใช้เงิน
การที่จำเลยที่ 1 ยอมให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกนำตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัทจำเลยที่ 1 ระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ ไปให้โจทก์ตรงกับคำพรรณนาของจำเลยที่ 2 ทุกประการพร้อมทั้งให้จำเลยที่ 2 มีนามบัตรซึ่งมีรูปเครื่องหมายและตัวอักษร แสดงว่าเป็นพนักงานของบริษัทจำเลยที่ 1 ถือได้ว่าเป็นการเชิดจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 เมื่อปรากฏว่าโจทก์มอบเงินจำนวนตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 แต่จำเลยที่ 2 ยักยอกเงินดังกล่าวไป จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริต จากการกระทำของจำเลยที่ 2 เสมือนว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทน
ข้อความตามตราประทับด้านหลังตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่มีใจความว่าตั๋วสัญญาใช้เงินจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเช็คเรียกเก็บเงินได้เรียบร้อยแล้วนั้น เป็นข้อความที่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 983 (2) จึงไม่มีผลบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 899 ที่ว่า ข้อความอันใดซึ่งมิได้บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะตั๋วเงิน ถ้าเขียนลงในตั๋วเงินข้อความนั้นหาเป็นผลอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ตั๋วเงินนั้นไม่
ข้อความตามตราประทับด้านหลังตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่มีใจความว่าตั๋วสัญญาใช้เงินจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเช็คเรียกเก็บเงินได้เรียบร้อยแล้วนั้น เป็นข้อความที่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 983 (2) จึงไม่มีผลบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 899 ที่ว่า ข้อความอันใดซึ่งมิได้บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะตั๋วเงิน ถ้าเขียนลงในตั๋วเงินข้อความนั้นหาเป็นผลอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ตั๋วเงินนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4201/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทนและความรับผิดในหนี้จากการกระทำของตัวแทนเชิด แม้ตัวการไม่ได้รับเงิน
การที่จำเลยที่ 1 ยอมให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกนำตั๋ว สัญญาใช้เงินของบริษัทจำเลยที่ 1 ระบุชื่อ โจทก์ เป็นผู้รับประโยชน์ ไปให้โจทก์ตรงกับคำพรรณนาของจำเลยที่ 2 ทุกประการพร้อมทั้งให้จำเลยที่ 2 มีนามบัตรซึ่งมีรูปเครื่องหมายและตัวอักษรแสดงว่าเป็นพนักงานของบริษัทจำเลยที่ 1 ถือได้ว่าเป็นการเชิดจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 821 เมื่อปรากฎว่าโจทก์มอบเงินจำนวนตามตั๋ว สัญญาใช้เงินนั้นให้แก่จำเลยที่ 2 แต่จำเลยที่ 2ยักยอกเงินดังกล่าวไป จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตจากการกระทำของจำเลยที่ 2 เสมือนว่าจำเลยที่ 2เป็นตัวแทน ข้อความตามตรา ประทับด้าน หลังตั๋ว สัญญาใช้เงินที่มีใจความว่าตั๋ว สัญญาใช้เงินจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเช็คเรียกเก็บเงินได้เรียบร้อยแล้วนั้นเป็นข้อความที่ขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 983(2) จึงไม่มีผลบังคับตาม ป.พ.พ. มาตรา 899 ที่ว่า ข้อความอันใด ซึ่งมิได้บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะตั๋ว เงิน ถ้า เขียนลงในตั๋ว เงิน ข้อความนั้นหาเป็นผลอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ตั๋ว เงินนั้นไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2911/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทนสั่งซื้อสินค้า: ห้างหุ้นส่วนต้องรับผิดชอบราคาสินค้าที่ตัวแทนสั่งซื้อ
ใบรับบิลและใบส่งของระบุว่าส่งของให้ห้างจำเลยที่ 1 โดยมี ป. และ ส. ลงนามเป็นผู้รับบิล และผู้รับสินค้าเป็นส่วนใหญ่เมื่อบุคคลทั้งสองเป็นบุตรสาวของจำเลยที่ 2 และเป็นหุ้นส่วนของห้างจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะ ป. ยังได้รับมอบหมายจากจำเลยที่2 ให้เป็นผู้สั่งของในนามของห้างจำเลยที่ 1 ด้วย เช่นนี้เป็นพฤติการณ์ถือได้ว่า ห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการได้เชิด ป. ให้เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 1 เมื่อ ป. สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์แทนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้ราคาให้โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2911/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทนสั่งซื้อสินค้า: ห้างหุ้นส่วนต้องรับผิดชอบราคาสินค้าที่ตัวแทนสั่งซื้อ
ใบรับบิลและใบส่งของระบุว่าส่งของให้ห้างจำเลยที่ 1 โดยมีป. และ ส. ลงนามเป็นผู้รับบิล และผู้รับสินค้าเป็นส่วนใหญ่เมื่อบุคคลทั้งสองเป็นบุตรสาวของจำเลยที่ 2 และเป็นหุ้นส่วนของห้างจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะ ป. ยังได้รับมอบหมายจากจำเลยที่2 ให้เป็นผู้สั่งของในนามของห้างจำเลยที่ 1 ด้วย เช่นนี้เป็นพฤติการณ์ถือได้ว่า ห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2หุ้นส่วนผู้จัดการได้เชิด ป. ให้เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 1 เมื่อ ป. สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์แทนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้ราคาให้โจทก์.