คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เปลี่ยนแปลงลักษณะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิเช่า และการเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือเพื่ออ้างสิทธิครอบครองตามมาตรา 1375
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญที่โจทก์อ้างว่าเป็นของโจทก์ ซึ่งให้จำเลยเช่าและได้บอกเลิกการเช่าแล้ว จำเลยให้การว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของจำเลยได้ครอบครองมา 20 ปีแล้ว ไม่เคยเช่าจากโจทก์ คำให้การดังนี้ไม่มีประเด็นเรื่องเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 จึงไม่มีทางที่จะอ้างสิทธิตามมาตรา 1375 ได้ แม้โจทก์จะเบิกความว่าเมื่อโจทก์ไปทวงค่าเช่า จำเลยโต้เถียงว่าเป็นนาของจำเลย ศาลก็ไม่อาจยกขึ้นวินิจฉัยว่าโจทก์ถูกแย่งการครอบครอง เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นที่จำเลยต่อสู้ไว้ในคำให้การ และไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือ หากครอบครองโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิม สิทธิครอบครองปรปักษ์ไม่เกิดขึ้น
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญที่โจทก์อ้างว่าเป็นของโจทก์ ซึ่งให้จำเลยเช่าและได้บอกเลิกการเช่าแล้ว จำเลยให้การว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของจำเลย ได้ครอบครองมา 20 ปีแล้ว ไม่เคยเช่าจากโจทก์ คำให้การดังนี้ไม่มีประเด็นเรื่องเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 จึงไม่มีทางที่จะอ้างสิทธิตามมาตรา 1375 ได้ แม้โจทก์จะเบิกความว่าเมื่อโจทก์ไปทวงค่าเช่า จำเลยโต้เถียงว่าเป็นนาของจำเลย ศาลก็ไม่อาจยกขึ้นวินิจฉัยว่าโจทก์ถูกแย่งการครอบครอง เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากประเด็นที่จำเลยต่อสู้ไว้ในคำให้การ และไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบทรัพย์สินแทนการชำระหนี้สิ้นสุดสิทธิการครอบครองเดิม และไม่ต้องบอกกล่าวการเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครอง
โจทก์ได้มอบนาให้จำเลยครอบครองแทนการชำระหนี้เงินกู้ดังนี้ การครอบครองของโจทก์ย่อมสิ้นสุดลงตามมาตรา 1377 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จำเลยจึงไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองต่อโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 แต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือที่ดิน: จำเป็นต้องแจ้งเจ้าของเดิม หากไม่แจ้งสิทธิปรปักษ์ไม่สมบูรณ์
ผู้ครอบครองที่ดินโดยอาศัยอำนาจของเจ้าของที่ดิน จะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ จะต้องบอกกล่าวไปยังเจ้าของที่ดินทราบ มิฉะนั้นจะอ้างว่าครอบครองโดยปรปักษ์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือจากเช่าเป็นครอบครองปรปักษ์ จำเป็นต้องแจ้งให้เจ้าของทราบ อายุความเริ่มนับเมื่อแจ้ง
ผู้เช่าเช่านาซึ่งไม่มีหนังสือสำคัญแล้วต่อมาได้ฟ้องเจ้าของนาต่อสู้กรรมสิทธิคดีถึงที่สุด ผู้เช่าแพ้คดี ศาลฟังว่าเป็นการเช่านากัน เจ้าของนาจึงฟ้องขอให้ขับไล่ ผู้เช่าจะอ้างว่าได้มีเจตนาถือสิทธิในที่พิพาทแล้วตั้งแต่วันฟ้องคดีแรกเจ้าของนามิได้ฟ้องผู้เช่าเสียภายใน 1 ปีจึงขาดอายุแล้ว เช่นนี้มิได้ เพราะผู้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่ารู้เสียก่อนว่าตนได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือไม่ยึดถือไว้แทนผู้ให้เช่าต่อไป จึงจะยกอายุความขึ้นต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5697/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินแทนผู้อื่นและการแย่งการครอบครอง: การเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครองและการฟ้องคดีภายใน 1 ปี
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1381 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครอง บุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ก็แต่โดยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่าไม่มีเจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป และมาตรา 1375 วรรคสอง การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์ ในกรณีเช่นนี้จะถือว่าจำเลยทั้งสองได้แย่งการครอบครองก็ต่อเมื่อได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือโดยบอกกล่าวไปยังโจทก์ผู้ครอบครองว่า ตนไม่มีเจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนโจทก์ต่อไป ดังนั้น การที่ก่อนปี 2539 ระหว่างแนวเขตที่ดินพิพาทมีการปลูกต้นยูคาลิปตัสและนาย จ. บอกฝ่ายจำเลยให้รื้อถอนต้นยูคาลิปตัสกับรั้วลวดหนามออก ไม่ใช่การบอกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือไปยังโจทก์ จึงไม่เป็นการแย่งการครอบครอง แต่เมื่อประมาณกลางเดือนมกราคม 2541 จำเลยทั้งสองได้ทำรั้วลวดหนามอ้างว่าทำขึ้นทดแทนรั้วเดิมซึ่งทรุดโทรมไปแล้วและโจทก์เห็นว่ารั้วดังกล่าวสร้างรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ จึงมีการเจรจากับจำเลยทั้งสองให้รื้อรั้วออกไป แต่จำเลยทั้งสองไม่ยอม ต่อมาโจทก์ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนถือได้ว่าจำเลยทั้งสองได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ตั้งแต่ประมาณกลางเดือนมกราคม 2541 แล้วว่าได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือจากการยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์เป็นการยึดถือครอบครองเพื่อตนเองซึ่งเข้าลักษณะแย่งการครอบครอง เมื่อโจทก์ได้ฟ้องคดีนี้เพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาทเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2542 จึงเป็นการฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองแล้ว จำเลยทั้งสองจึงไม่มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์และต้องรับผิดชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์
of 2