พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิสัญญาจ้างแรงงานเป็นสิทธิเฉพาะตัว หญิงมีสามีฟ้องได้เอง นายจ้างเรียกเงินค่าจ้างคืนไม่ได้
สิทธิตามสัญญาจ้างแรงงานเป็นสิทธิเฉพาะตัวของโจทก์ผู้เป็นลูกจ้างไม่เป็นสินสมรส การฟ้องเรียกเงินตามสัญญาจ้างแรงงานมิใช่เป็นการจัดการสินสมรส โจทก์ซึ่งเป็นหญิงมีสามีจึงมีอำนาจฟ้องได้ตามลำพังตนเอง โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามี
การที่โจทก์มาทำงานสายและทำงานให้แก่จำเลยผู้เป็นนายจ้างไม่ครบตามเวลาที่กำหนด หากเป็นการผิดต่อระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย จำเลยชอบที่จะลงโทษทางวินัยตามระเบียบข้อบังคับดังกล่าวได้ หาชอบที่จะเรียกเงินค่าจ้างคืนจากโจทก์ไม่.
การที่โจทก์มาทำงานสายและทำงานให้แก่จำเลยผู้เป็นนายจ้างไม่ครบตามเวลาที่กำหนด หากเป็นการผิดต่อระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย จำเลยชอบที่จะลงโทษทางวินัยตามระเบียบข้อบังคับดังกล่าวได้ หาชอบที่จะเรียกเงินค่าจ้างคืนจากโจทก์ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3763/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกเงินคืนจากลูกจ้างที่ยักยอกทรัพย์สิน การประมาทเลินเล่อ และขอบเขตความรับผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกการเงินของโจทก์ร่วมกับจำเลยอื่นรับเงินไว้แทนโจทก์แล้วไม่ส่งให้โจทก์ ขอให้จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยอื่นใช้เงินคืนโจทก์ เป็นการฟ้องเพื่อติดตามเอาทรัพย์สินของโจทก์คืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีอายุความ มิใช่การฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเกิดจากมูลละเมิดอันจะอยู่ในอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 448 ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ร่วมกับจำเลยอื่นรับเงินไว้แล้วไม่ส่งให้โจทก์ดังโจทก์ฟ้อง เพียงแต่จำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อปล่อยให้จำเลยอื่นเอาเงินของโจทก์ไป ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดต่อโจทก์เพราะเหตุละเมิดดังนี้ ศาลจะพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ร่วมรับผิดกับจำเลยอื่นไม่ได้เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5614/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเพื่อหลักประกัน – การสลักหลัง – สิทธิผู้ทรงเช็ค – การเรียกเงินคืน
หากได้ความตามความเป็นจริงดังที่โจทก์ฟ้องและฎีกาว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่บริษัท ส. เพื่อเป็นหลักประกันในการเข้าทำงานของโจทก์ แล้วจำเลยนำไปเข้าบัญชีของจำเลยโดยบริษัท ส. มิได้สลักหลังโอนเช็คให้ก็ถือได้ว่าไม่มีมูลหนี้ที่โจทก์จะต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทและจำเลยไม่ใช่ผู้ทรงเช็คนั้น จำเลยหามีสิทธิเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ โจทก์ย่อมเรียกเงินคืนจากจำเลยได้ ที่ศาลชั้นต้นไม่ดำเนินการพิจารณาต่อไปให้ได้ความว่าเป็นความจริงดังโจทก์ฟ้องหรือไม่ แต่มีคำสั่งงดสืบพยานของโจทก์จำเลยเสีย จึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1645/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: การเรียกเงินคืนจากข้อตกลงหักหนี้เงินยืม แม้เปลี่ยนเหตุอ้างเป็นลาภมิควรได้ ก็ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
คดีแรกโจทก์ฟ้องเรียกเงินเดือนเดือนสุดท้าย เงินสะสมพร้อมดอกเบี้ย และเงินบำเหน็จจากจำเลย อ้างว่าจำเลยไม่คืนเงิน ตามสิทธิให้แก่โจทก์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีสิทธิ เรียกเงินจำนวนนี้คืน เพราะโจทก์ตกลงยินยอมให้จำเลยหักเงิน จำนวนนี้ชำระหนี้ที่โจทก์เป็นหนี้เงินยืม จากจำเลยส่วนหนึ่ง คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกเงินจำนวนเดียวกันคืนอีกอ้างว่าเป็นลาภมิควรได้ จำเลยไม่มีสิทธิหักเงินไว้ชำระหนี้เพราะไม่มีหนี้ต่อกันจึงต้องคืนแก่โจทก์ ประเด็นแห่งคดีก็เหมือนกับคดีแรกว่า โจทก์มีสิทธิเรียกเงินจำนวนนี้คืนจากจำเลยได้หรือไม่ โดยจะนำเงินจำนวนนี้ไปหักหนี้ที่ ยืมจากจำเลยไปได้หรือไม่ เป็นการเรียกทรัพย์คืนโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3599/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความในกรณีซื้อขายที่ดินขาดเนื้อที่: ฟ้องเรียกเงินคืนไม่ใช่ฟ้องขาดตกบกพร่อง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าซื้อที่ดินบางส่วนคืน โดยอ้างว่าจำเลยส่งมอบที่ดินน้อยกว่าเนื้อที่ตามที่ตกลงซื้อขายกันมิใช่ฟ้องในข้อรับผิดเพื่อการที่ทรัพย์ขาดตกบกพร่องหรือล้ำจำนวนจึงนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 467 มาปรับมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อเป็นพ้นวิสัยจากเหตุเวนคืน ผู้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกเงินคืน
สัญญาเช่าซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 57 นั้น เป็นสัญญาเช่าอย่างหนึ่ง ผู้ให้เช่าย่อมมีหน้าที่ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้ผู้เช่าได้ใช้ประโยชน์ตามสัญญา โจทก์ตกลงเช่าซื้อที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคารพาณิชย์ขายพร้อมที่ดิน มิใช่เช่าซื้อมาเพื่อรับเงินค่าทดแทนการเวนคืน เมื่อจำเลยไม่สามารถส่งมอบที่ดินให้โจทก์ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ตามสัญญาเพราะที่ดินถูกเวนคืน การชำระหนี้ย่อมตกเป็นพ้นวิสัยเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมิได้ จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ย่อมมีมีสิทธิที่ชำระหนี้ตอบแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 372 วรรคแรก โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเช่าซื้อที่ชำระไปแล้วคืนจากจำเลย
สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทน ซึ่งคู่สัญญาต่างมีหนี้ที่จะต้องชำระตอบแทนกัน แม้จำเลยจะหลุดพันจากการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 219 จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตอบแทนตามมาตรา 372 วรรคแรก กรณีเช่นนี้ไม่มีบทกฎหมายใดให้สิทธิจำเลยที่จะได้รับชำระหนี้ฝ่ายเดียวโดยไม่ต้องชำระหนี้ตอบแทน
สัญญาเช่าซื้อนั้น ผู้เช่าซื้อจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ้งก็ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 และในกรณีที่การชำระหนี้เป็นพ้นวิสัยตามมาตรา 219 แม้สัญญาไม่เลิกกัน ก็ย่อมระงับเพราะไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย
สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทน ซึ่งคู่สัญญาต่างมีหนี้ที่จะต้องชำระตอบแทนกัน แม้จำเลยจะหลุดพันจากการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 219 จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตอบแทนตามมาตรา 372 วรรคแรก กรณีเช่นนี้ไม่มีบทกฎหมายใดให้สิทธิจำเลยที่จะได้รับชำระหนี้ฝ่ายเดียวโดยไม่ต้องชำระหนี้ตอบแทน
สัญญาเช่าซื้อนั้น ผู้เช่าซื้อจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ้งก็ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 และในกรณีที่การชำระหนี้เป็นพ้นวิสัยตามมาตรา 219 แม้สัญญาไม่เลิกกัน ก็ย่อมระงับเพราะไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3112/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแชร์: พนักงานอัยการไม่มีสิทธิเรียกเงินคืนแทนผู้เสียหายในคดีที่ศาลเห็นว่าเป็นเรื่องผิดสัญญาแพ่ง ไม่ใช่ความผิดอาญา
พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงกับขอให้คืนเงินที่จำเลยได้ไป จากการฉ้อโกงแก่ผู้เสียหาย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่ามิใช่เป็นเรื่องฉ้อโกงแต่เป็นเรื่องผู้เสียหายและจำเลยสมัครใจเล่นแชร์ต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องความรับผิดทางแพ่งล้วนๆ หาใช่เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาไม่ ดังนี้ เงินที่ผู้เสียหายชำระค่าแชร์ให้แก่จำเลยไปจึงมิใช่ทรัพย์สินที่ผู้เสียหายสูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิด พนักงานอัยการไม่มีสิทธิที่จะเรียกเงินเช่นนี้แทนผู้เสียหายได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอายา มาตรา 43
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3112/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีเล่นแชร์เปียหวยไม่ใช่ความผิดอาญา พนักงานอัยการไม่มีสิทธิเรียกเงินคืนแทนผู้เสียหายได้
พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงกับขอให้คืนเงินที่จำเลยได้ไปจากการฉ้อโกงแก่ผู้เสียหาย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่ามิใช่เป็นเรื่องฉ้อโกง แต่เป็นเรื่องผู้เสียหายและจำเลยสมัครใจเล่นแชร์ต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องความรับผิดทางแพ่งล้วน ๆ หาใช่เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาไม่ ดังนี้ เงินที่ผู้เสียหายชำระค่าแชร์ให้แก่จำเลยไป จึงมิใช่ทรัพย์สินที่ผู้เสียหายสูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิด พนักงานอัยการไม่มีสิทธิที่จะเรียกเงินเช่นนี้แทนผู้เสียหายได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2313/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อผิดสัญญา: จำเลยผิดสัญญาเพราะรถไม่สามารถจดทะเบียนได้ โจทก์มีสิทธิเรียกเงินคืน
รถที่โจทก์เช่าซื้อจากจำเลยเจ้าพนักงานไม่ต่อทะเบียนให้เพราะ สภาพรถที่ปรากฏในทะเบียนกับตัวรถไม่ตรงกัน ถือได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา เพราะโจทก์ไม่สามารถใช้หรือรับประโยชน์จากรถพิพาท ตามวัตถุประสงค์แห่งสัญญาได้ การที่โจทก์ไม่ชำระค่าเช่าซื้อจะว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ได้ การที่จำเลยยึดรถคืน โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเงินค่าเช่าซื้อ ที่ส่งให้จำเลยไปแล้วคืนได้ แต่จำเลยก็มีสิทธิได้ค่าใช้รถพิพาทจาก โจทก์ระหว่างที่โจทก์ครอบครองใช้ประโยชน์รถอยู่ โดยหักจากเงินที่ จำเลยต้องส่งคืนโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2197/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจตามใบมอบอำนาจ: การเรียกเงินคืนนอกเหนือจากอำนาจที่ได้รับมอบหมาย
ใบมอบอำนาจให้จัดการในโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งฟ้องคดี ผู้มอบอำนาจจำนองที่ดินนำเงินไปฝากธนาคารไว้แล้ว จำเลยถอนเงินนั้นไป ผู้รับมอบอำนาจฟ้องเรียกเงินคืน กรณีเกี่ยวกับเงินที่เรียกคืน ไม่เกี่ยวกับที่ดิน ไม่อยู่ในหนังสือมอบอำนาจ