คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เสนอคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2047/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งกรรมสิทธิ์และการฟ้องซ้ำ: การบรรยายฟ้องที่เพียงพอต่อการเสนอคดีต่อศาล
คำฟ้องของโจทก์ที่บรรยายว่าจำเลยอ้างว่าทรัพย์ทั้งหมดตามฟ้องเป็นของจำเลยรับมรดกจากบุตรโจทก์ จำเลยจะให้โจทก์กินหรือให้อาศัยอยู่หรือไม่ก็ได้ เมื่อโจทก์จะขอประนอมการพิพาทโดยจะแบ่งทรัพย์ตามฟ้องและอื่น ๆ ให้จำเลย จำเลยก็ไม่ยอมรับนั้น เป็นการเพียงพอที่จะถือได้ว่า จำเลยโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นของโจทก์แล้ว โจทก์จึงชอบที่จะเสนอคดีต่อศาลได้
คดีเดิม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งชี้ขาดเบื้องต้นว่า ฟ้องโจทก์นอกจากที่นา 1 แปลงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ให้ยกฟ้อง คงให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เฉพาะฟ้องที่เกี่ยวกับที่นา โจทก์จึงมาฟ้องคดีใหม่เกี่ยวกับทรัพย์รายเดิม โดยบรรยายข้อเท็จจริงเพิ่มเติมให้เห็นว่าจำเลยได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้ว ย่อมทำได้ หาเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำหรือฟ้องซ้ำไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งสิทธิในที่ดิน การร้องเรียนต่อเจ้าพนักงาน และการแสดงสิทธิโดยผู้รับมรดก ถือเป็นเหตุให้เสนอคดีต่อศาลได้
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า สามีจำเลยเคยไปร้องเรียนต่อนายอำเภอว่าโจทก์บุกรุกเข้าครอบครองที่ดินตามตราจองของสามีจำเลย เพื่อจะคลุมเอาที่ดินของโจทก์เป็นของสามีจำเลยเสีย ดังนี้ ก็เป็นการโต้แย้งสิทธิเพื่อจะแย่งเอาที่ดินของโจทก์โดยชัดแจ้งอยู่แล้ว เมื่อสามีจำเลยตาย จำเลยเป็นผู้รับมรดกของสามี ยังมาแสดงสิทธิโดยขอให้โจทก์ออกไปจากที่ดินดังกล่าว แสดงความเป็นเจ้าของที่ดินของจำเลยสืบต่อจากสามีอีก การกระทำของจำเลยดังนี้ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของที่ดินเกิดขึ้นระหว่างโจทก์กับจำเลยแล้ว การโต้แย้งสิทธินั้นไม่จำต้องถึงกับลงมือใช้กำลังกายเข้ายื้อแย่งหรือบุกรุกเข้าไปในที่ดิน เพียงการกระทำของสามีจำเลยที่ไปร้องเรียนต่อนายอำเภออันต่อเนื่องมาถึงการกระทำของจำเลยเท่าที่กล่าวในฟ้อง โจทก์ก็ชอบที่จะเสนอคดีต่อศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 เพื่อขจัดข้อโต้แย้งและแสดงสิทธิของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิมรดก & การเสนอคดี: แม้มิขอคืนทรัพย์ ศาลต้องรับคดีและคิดค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท
การที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าตนมีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายนั้น ย่อมหมายความว่าสิทธิของโจทก์ก็คือสิทธิที่จะรับมรดกของผู้ตายให้ตกทอดมายังตนตั้งแต่เจ้ามรดกตาย ดังนั้น แม้โจทก์จะขอเพียงให้ทำลายพินัยกรรม หาได้ขอให้ศาลพิพากษาให้เอาทรัพย์ที่จำเลยโต้แย้งคืนมาเป็นของโจทก์ไม่ก็ตาม แต่โจทก์ก็บรรยายฟ้องแล้วว่า ก่อนตายเจ้ามรดกมีทรัพย์สินเป็นมรดกหลายอย่าง ทุกข์ของโจทก์ที่ตั้งข้อพิพาทก็คือ กล่าวอ้างว่าที่ดิน 2 แปลงตามโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โดยตกทอดมาจากผู้ตาย แต่จำเลยเอาไปเสีย โดยอ้างว่าผู้ตายทำพินัยกรรมยกให้ อย่างนี้แสดงว่าโจทก์ได้กล่าวอ้างให้ปรากฏแล้วว่าได้มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินโจทก์เสนอคดีต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ทุกข์ของโจทก์ที่กล่าวมาก็คือ การที่ไม่ได้ที่ดิน 2 แปลงนั้นจึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150 ประกอบตาราง 1(1) ต้องคิดค่าขึ้นศาลตามราคาทรัพย์สินที่พิพาท การที่โจทก์ไม่ได้ขอเรียกกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลงนั้นเป็นความผิดของโจทก์เอง จะเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์หาได้ไม่ (อ้างคำสั่งที่ 1559/2492)ส่วนจะพิพากษาให้เกินคำขอได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 25/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอคดีต่อศาลต้องมีข้อพิพาทตามกฎหมาย การฟ้องร้องต้องมีสิทธิหรือหน้าที่ที่ถูกโต้แย้ง
การเสนอคดีต่อศาลนั้น ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 55 บัญญัติว่า ต้องมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตาม กฎหมาย หรือบุคคลใดจะใช้สิทธิในทางศาล ซึ่งต้องมีกฎหมายสนับสนุน ไม่ใช่ว่ามีความปรารถนาหรือข้องใจอย่าง ใดเกิดขึ้นก็มาร้องขอให้ศาลชี้ขาดได้.
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล ซึ่งศาลย่อมจะต้องยก คำร้องเสียนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องเช่นว่านั้นไว้แล้ว และมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาจนศาลชั้นต้นสั่ง และดำเนิน การพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทนั้น เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาลพังกล่าวข้างต้น ก็เป็นอันผ่านไป.
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยอาศัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยข้อกฎหมาย ยังมิได้วินิจฉัย ขอ้เท็จจริงนั้น เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา ๆ ย่อมมีอำนาจที่จะฟังข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาคดีไปทีเดียวได้โดยไม่จำ ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่อีก./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอคดีต่อศาลต้องมีข้อพิพาททางกฎหมาย หากมีคดีมีข้อพิพาทแล้ว ศาลฎีกาสามารถวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้
การเสนอคดีต่อศาลนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 บัญญัติว่าต้องมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมาย หรือบุคคลใดจะใช้สิทธิในทางศาล ซึ่งต้องมีกฎหมายสนับสนุน ไม่ใช่ว่ามีความปรารถนาหรือข้องใจอย่างใดเกิดขึ้นก็มาร้องขอให้ศาลชี้ขาดได้
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องมาร้องต่อศาล ซึ่งศาลย่อมจะต้องยกคำร้องเสียนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับคำร้องเช่นว่านั้นไว้แล้ว และมีผู้ร้องคัดค้านเข้ามาจนศาลชั้นต้นสั่ง และดำเนินการพิจารณาเป็นคดีมีข้อพิพาทนั้น เรื่องสิทธิเสนอคดีต่อศาลดังกล่าวข้างต้น ก็เป็นอันผ่านไป
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยข้อกฎหมาย ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงนั้น เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาศาลฎีกาย่อมมีอำนาจที่จะฟังข้อเท็จจริง แล้วพิพากษาคดีไปทีเดียวได้ โดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงใหม่อีก
of 2