พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3316/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือพิมพ์: การใส่ความทำให้เสียชื่อเสียงโดยไม่มีเจตนาติชมเพื่อประโยชน์สาธารณะ
โจทก์เป็นผู้ควบคุมการสร้างท่อประปาที่สี่แยกคลองโพธิ์อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย การก่อสร้างท่อประปาดังกล่าวไม่ถูกแบบแปลนและไม่แล้วเสร็จภายในกำหนด แต่ข้อเท็จจริงยังไม่ยุติว่ามีการทุจริตหรือไม่ จำเลยที่ 1 ได้เขียนข้อความลงในหนังสือพิมพ์ว่าโจทก์เป็นข้าราชการที่เคยคดในข้องอในกระดูก ฉ้อราษฎร์บังหลวงทุจริตโกงกินในการสร้างท่อประปาเป็นเหตุให้บ้านเมืองฉิบหายพร้อมกับสาปแช่งโจทก์ดังนี้ ข้อความที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเป็นการใส่ความโจทก์ต่อผู้อ่านหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง ทั้งถือไม่ได้ว่าเป็นการเสนอข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของหนังสือพิมพ์จะพึงกระทำ หรือเป็นการลงข่าวตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นข่าวที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวจึงเป็นการหมิ่นประมาทและละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา: ข้อความชี้นำให้เข้าใจโจทก์ประพฤติไม่ดีและเสียชื่อเสียง
ข้อความที่จำเลยเขียนลงในหนังสือพิมพ์รายวันมีความหมายถึงโจทก์มีความว่า "เช็คเอย เช็คเด้ง แม้แต่เช็คเงิน3 พันบาทของอ้ายเสี่ยบ้ากามก็ยังเด้งมาแล้วดี.วัน.จันทร์. สะอื้นไห้ เฉียบ ชัยณรงค์ ไม่อยากจะเชื่อ เมื่อก่อนยังเป็นจับกัง ไอ้เสี่ยจ่ายเช็ค 3 พัน ก็เด้งเหมือนกันตำรวจไปตามจับ พี่แกโกยแนบไปกอดเมีย (เก่า) ร่ำไห้ด้วยความกลัวทุดส์ เรื่องของอ้ายเสี่ยบรรลัยมีมากมายเป็นพะเรอ คนรักใคร่ชอบพอมันทั้งน๊าน คอยส่งข่าวความสกปรกให้ฟังไม่ว่างเว้นซักที เฮ้อกูละเบื่อ" ข้อความที่ว่า "ไอ้เสี่ยบ้ากาม" ก็ดีและที่ว่า "เมื่อก่อนยังเป็นจับกังไอ้เสี่ยจ่ายเช็ค 3 พันก็เด้งเหมือนกัน" ก็ดี. มีความหมายทำให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังเกิดความรู้สึกนึกคิดและเข้าใจตัวโจทก์ว่าโจทก์เป็นคนมักมากในกามคุณผิดวิสัยปุถุชนทั่วไป เช็คที่ออกจำนวนเงินเพียง3,000 บาท ก็ไม่มีเงิน ไม่ผิดอะไรกับครั้งยังเป็นกุลีหาเช้ากินค่ำแสดงให้เห็นและเข้าใจไปได้ว่าโจทก์เป็นผู้มีความประพฤติไม่ดีไม่ควรแก่การยกย่องสมาคม อันเป็นการใส่ความโจทก์โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังโดยการโฆษณาด้วยเอกสารในเรื่องส่วนตัว ไม่มีลักษณะไปในทำนองของการติชมอย่างเป็นกลางและเป็นธรรมตามวิสัย เพื่อยังให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน จึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทด้วยการลงข่าวเช็คไม่มีเงิน แม้เป็นเรื่องส่วนตัวแต่ทำให้เสียชื่อเสียง
จำเลยลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์มีข้อความสำคัญว่าโจทก์จ่ายเช็คจำนวน 1 ล้านบาทให้แก่ธนาคาร ถึงกำหนดปรากฏว่าเช็คไม่มีเงินธนาคารแจ้งตำรวจขอให้จับโจทก์ดำเนินคดี ตามข้อความดังกล่าวย่อมเป็นที่เข้าใจว่าโจทก์มีฐานะการเงินไม่ดีไม่น่าเชื่อถือ การลงข่าวของจำเลยจึงเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีและประกอบการค้าโดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงทั้งเรื่องที่โจทก์จ่ายเช็คไม่มีเงินและถูกธนาคารแจ้งความเป็นเรื่องส่วนตัวของโจทก์ ไม่เกี่ยวกับหน้าที่การงานของโจทก์ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีอันจะถือได้ว่าเป็นประโยชน์แก่ประชาชนจำเลยจะอ้างว่าข่าวนั้นเป็นความจริงเพื่อมิให้ต้องรับผิดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการให้ทรัพย์: การประพฤติเนรคุณต้องแสดงให้เห็นว่าทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียงหรือหมิ่นประมาท และผู้รับไม่ใช่ผู้ยากไร้
มารดายกทรัพย์ให้บุตร ต่อมาบุตรกับมารดาเถียงกันเรื่องเข็มขัดทองเป็นของมารดาหรือของบุตร บุตรแจ้งความต่อตำรวจว่ามารดายักยอกทรัพย์และขอให้อัยการฟ้องมารดาเรียกเข็มขัดทองนั้น มารดาสาบานต่อหน้าพระตามคำท้า มีบุคคลหลายคนเห็นเป็นแต่มารดาสมัครใจสาบานตามคำท้าในศาลเอง ไม่เป็นหมิ่นประมาทมารดาที่จะเพิกถอนการให้
มารดายังมีสวนมะพร้าวและตัดจากขาย มีรถยนต์บรรทุกจากขายไม่ใช่ผู้ยากไร้ที่บุตรจะต้องช่วย
มารดายังมีสวนมะพร้าวและตัดจากขาย มีรถยนต์บรรทุกจากขายไม่ใช่ผู้ยากไร้ที่บุตรจะต้องช่วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2271-2272/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อความประกาศพ้นจากตำแหน่ง ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท หากไม่ทำให้เสียชื่อเสียง
ลงข้อความประกาศหนังสือพิมพ์ว่า "โจทก์ได้พ้นจากตำแหน่งรองประธานชมรมแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ ถ้าหากบุคคลผู้นี้มีการแอบอ้างชื่อชมรมหรือกระทำการสิ่งอื่นใดทางชมรมร้านขายยา กทม. จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น" ดังนี้คำว่าพ้นจากตำแหน่งฯ หมายความว่าโจทก์ออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วมิได้หมายความว่า โจทก์ถูกไล่ออกส่วนคำว่า "แอบอ้าง" อาจจะเป็นถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้างแต่ก็ไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ หรือทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่นเกลียดชังแต่อย่างใด ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาทจากการเปิดเผยข้อมูลเก่า แม้มีข้อโต้แย้งอื่น แต่การกล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีตทำให้เสียชื่อเสียง
ฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ร่วมมีข้อโต้แย้งกันเรื่องแนวเขตรั้วที่จำเลยจะสร้างขึ้นใหม่ ขณะเจรจายังไม่ตกลงกันจำเลยได้กล่าวถ้อยคำต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจผู้มาทำการไกล่เกลี่ยว่าที่ต้องสร้างรั้วใหม่ เพราะไอ้คนนี้ (หมายถึงโจทก์ร่วม) มันเข้าไปข่มขืนคนในบ้านฉัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่วงเลยมาเป็นเวลานาน 2 ปีเศษแล้วดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 329
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1348/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทด้วยการลงข้อความในหนังสือพิมพ์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อความดังกล่าวทำให้เสียชื่อเสียง จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันใส่ความ ลงข้อความในหนังสือพิมพ์รายวันว่า "ชาวบ้านที่ติดต่อแผนกที่ดิน จ.นครสวรรค์ ร้องกันอู้ จู่ ๆ ถูกสาวก้นแฉะ ทรงศรี ใช้วจีไม่ค่อยรื่นหู เจตน์ สุวรรณ ที่ดินจังหวัดคนตงฉินได้ยินแล้วอบรมซะบ้าง" เป็นการใส่ความโดยประการที่น่าจะทำให้นางสาวทรงศรีโจทก์ร่วมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง ว่าเป็นคนประพฤติไม่ดี ชอบร่วมประเวณีกับชายทั่ว ๆ ไปเป็นประจำไม่เลือกหน้า และได้จำหน่ายจ่ายแจกหนังสือพิมพ์ดังกล่าวไปทั่วทุกจังหวัด ดังนี้เห็นได้ว่า ฟ้องโจทก์ได้บรรยายและอธิบายความหมายของข้อความที่จำเลยลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เป็นการใส่ความในประการที่น่าจะทำให้โจทก์ร่วมเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ทั้งได้บรรยายให้เห็นว่าข้อความที่จำเลยลงพิมพ์ไปนั้น ได้แพร่หลายไปยังบุคคลที่สามอีก เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพผิดตามฟ้อง ถือได้ว่าข้อความที่จำเลยลงพิมพ์ไปนั้นเป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ร่วม จึงไม่จำต้องแปลข้อความให้เห็นเป็นอย่างอื่นนอกเหนือที่จำเลยรับสารภาพ จำเลยจึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2340/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไล่ออกและการใส่ความ - ข้อความในหนังสือไล่ออกไม่ถึงขั้นใส่ความทำให้เสียชื่อเสียง
โจทก์เป็นลูกจ้างของบริษัทจำกัดซึ่งจำเลยเป็นกรรมการผู้จัดการ จำเลยมีหนังสือไล่โจทก์ออกจากการเป็นลูกจ้างของบริษัทฯ มีข้อความว่า "ข้าพเจ้าเสียใจว่าการที่ท่านปฏิเสธเช่นนั้น ทำให้เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากไล่ท่านออกจากการเป็นลูกจ้างของบริษัทฯ โดยให้มีผลทันที เราแน่ใจว่าท่านคงเข้าใจว่าเพราะธุรกิจของเรามีการแข่งขันกันอยู่มาก จึงเป็นการดีมากที่ท่านจะออกไปจากที่ทำการของบริษัทฯในวันนี้ ขอให้ท่านทิ้งทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทไว้รวมทั้งลูกกุญแจสำหรับไขโต๊ะ ประตูหรือยานพาหนะใดๆ ที่ท่านมีอยู่ในความครอบครอง และกระดาษและเอกสารทั้งหลายเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของบริษัทฯ เราขอเตือนท่านว่า ข่าวสารใดที่เป็นหนังสือหรือสิ่งอื่นใดที่ท่านได้มาในขณะที่ท่านเป็นลูกจ้างของบริษัทฯอันเกี่ยวเนื่องกับกิจการและนโยบายของบริษัทฯ ความสัมพันธ์กับลูกค้า และกิจการงานของลูกค้าของบริษัทฯนั้น ย่อมเป็นความลับ"
หนังสือดังกล่าวเป็นการแสดงความจำนงของจำเลยซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทฯให้โจทก์ออกจากงานของบริษัทฯ ถึงแม้จะมีข้อความที่มิได้แสดงไมตรีต่อโจทก์ แต่ก็มิได้มีตอนใดแสดงว่าโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่ โจทก์เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจในวงสังคม เปิดเผยความลับของบริษัทฯและลูกค้า ข้อความในหนังสือดังกล่าวจึงหาใช่เป็นการใส่ความ โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังไม่
หนังสือดังกล่าวเป็นการแสดงความจำนงของจำเลยซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทฯให้โจทก์ออกจากงานของบริษัทฯ ถึงแม้จะมีข้อความที่มิได้แสดงไมตรีต่อโจทก์ แต่ก็มิได้มีตอนใดแสดงว่าโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่ โจทก์เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจในวงสังคม เปิดเผยความลับของบริษัทฯและลูกค้า ข้อความในหนังสือดังกล่าวจึงหาใช่เป็นการใส่ความ โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใส่ความทำให้เสียชื่อเสียง แม้ไม่มีมูลความจริง แต่มีเจตนาประจาน ย่อมเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยพูดกับบุคคลที่สามกล่าวหาว่าโจทก์ร่วมกับพวกลักเป็ดของจำเลยไปแกงกิน โดยจำเลยไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะดำเนินคดีเอาความต่อโจทก์ร่วมกับพวกได้ คำพูดของจำเลยจึงไม่มีมูลความจริง แต่จำเลยกล่าวยืนยันประจานให้บุคคลอื่นหลงเชื่อเป็นความจริงว่าโจทก์ร่วมกับพวกลักเป็ดของจำเลยย่อมเป็นการใส่ความทำให้โจทก์ร่วมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง รังเกียจต่อความประพฤติอันเสื่อมเสียของโจทก์ร่วมได้ จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใส่ความทำให้เสียชื่อเสียง แม้ไม่มีหลักฐาน แต่มีเจตนาประจานให้ผู้อื่นเชื่อถือเป็นความจริง มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยพูดกับบุคคลที่สามกล่าวหาว่าโจทก์ร่วม กับพวกลักเป็ดของจำเลยไปแกงกิน.โดยจำเลยไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะดำเนินคดีเอาความต่อโจทก์ร่วมกับพวกได้ คำพูดของจำเลยจึงไม่มีมูลความจริง แต่จำเลยกล่าวยืนยันประจานให้บุคคลอื่นหลงเชื่อเป็นความจริงว่าโจทก์ร่วมกับพวกลักเป็ดของจำเลยย่อมเป็นการใส่ความทำให้โจทก์ร่วมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง รังเกียจต่อความประพฤติอันเสื่อมเสียของโจทก์ร่วมได้ จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท