พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงให้ผลคดีหนึ่งผูกพันอีกคดีหนึ่งชอบด้วยกฎหมาย หากคดีทั้งสองเกี่ยวข้องกันและมีเหตุผลสนับสนุน
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยได้นำรังวัดที่ดินของจำเลยเพื่อออก น.ส.3 แต่ได้นำรังวัดเอาที่พิพาทรวมเข้าไปด้วย ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยแบ่งแยกที่พิพาทออกจาก น.ส.3 และห้ามเข้าเกี่ยวข้อง จำเลยให้การว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินของบิดาจำเลยได้บุกเบิกแผ้วถางทำประโยชน์มานาน 40 ปีแล้ว ต่อมาบิดาจำเลยตายที่ดินนี้จึงตกได้แก่จำเลย ชั้นพิจารณามีการทำแผนที่พิพาท ปรากฏว่าที่ดินตาม น.ส.3 ของจำเลยนอกจากจะพิพาทกับโจทก์ ยังพิพาทกับ จ. โดยที่พิพาทคดีนี้กับคดีนั้นอยู่ติดกัน โจทก์จำเลยถึงแถลงร่วมกันว่าไม่ติดใจสืบพยาน โดยตกลงท้ากันว่าเมื่อคดีถึงที่สุดหาก จ.ชนะคดีก็ให้ถือว่าคดีนี้โจทก์เป็นฝ่ายชนะ ถ้าคดีนั้นจำเลยชนะก็ให้ถือว่าคดีนี้จำเลยเป็นฝ่ายชนะ ต่อมาคดีที่จำเลยพิพาทกับ จ. นั้น ศาลฎีกาพิพากษาให้ จ.ชนะคดี ศาลชั้นต้นจึงพิพากษาในคดีนี้ให้จำเลยแบ่งแยกที่พิพาทออกจาก น.ส.3 ของจำเลย และห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าที่พิพาททั้งสองคดีนี้อยู่ติดกัน และต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงใหญ่ตาม น.ส.3 ของจำเลย จำเลยได้ขอออก น.ส.3 ครอบที่พิพาททั้งสองแปลงเข้าไปด้วย และทั้งสองคดีจำเลยให้การต่อสู้ทำนองเดียวกัน คดีทั้งสองจึงเกี่ยวข้องกัน มิใช่เป็นเรื่องเอาเหตุการณ์ภายนอกมาเป็นข้อท้าแต่อย่างใด การที่ให้ถือเอาผลแห่งคำพิพากษาคดีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีความเกี่ยวข้องกันอยู่มาเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ มีผลให้บังคับคดีนี้ได้ ย่อมถือว่าเป็นคำท้าที่ชอบด้วยกฎหมาย หามีลักษณะเป็นการพนันขันต่อแต่อย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนคำสั่งรื้อถอนอาคาร: ศาลยืนตามดุลพินิจเจ้าหน้าที่ หากไม่เกินอำนาจและมีเหตุผลสนับสนุน
การที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารได้แจ้งให้โจทก์เลิกใช้และรื้อถอนอาคารเพราะอยู่ในสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง หรือไม่ปลอดภัยซึ่งน่าจะเป็นอันตรายแก่ร่างกาย ชีวิตหรือทรัพย์สินและโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ได้มีมติให้ยกอุทธรณ์แล้วนั้น โจทก์จะมาฟ้องศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งนั้นโดยอ้างแต่เพียงว่าอาคารของโจทก์ยังมั่นคงแข็งแรงมิได้ เพราะไม่ปรากฏว่าในการวินิจฉัยเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและคณะกรรมการได้กระทำการนอกเหนือความในพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารอย่างใด ทั้งไม่ปรากฏว่าการวินิจฉัยของจำเลยหรือคณะกรรมการเป็นการวินิจฉัยโดยไม่มีข้อเท็จจริงสนับสนุน และการวินิจฉัยของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์เป็นการวินิจฉัยตามอำนาจในมาตรา 12 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2504 มิใช่เป็นการใช้อำนาจศาล จึงไม่ขัดต่อธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนของกลาง: ศาลมีอำนาจสั่งคืนของกลางให้ผู้ร้องได้หากมีเหตุผลสนับสนุน แม้มีคำพิพากษาไปแล้ว ไม่ถือเป็นการแก้คำพิพากษา
ศาลมีคำพิพากษาให้ริบของกลางต่อมามีผู้มาร้องว่าของกลางนั้น เป็นของผู้ร้องเมื่อศาลเชื่อว่าของกลางเป็นของผู้ร้องจริงศาลก็อาจสั่งคืนให้ผู้ร้องได้ไม่เป็นการแก้คำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมข้อหาในคดีอาญาต้องมีเหตุผลสนับสนุน ศาลมีสิทธิไม่อนุญาตหากไม่มีเหตุผลเพียงพอ
คำร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญานั้น โจทต้องกล่าวเหตุไห้ปรากตไนคำร้องหรือแถลงเพื่อประกอบการวินิฉัยของสาลไห้เห็นว่ามีเหตุอันควนที่จะอนุญาตไห้แก้หรือไม่ มิฉะนั้นสาลไม่อนุญาต