พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่แจ้งข้อมูลผ้าตามกฎหมายควบคุม แม้มีการยกเลิกประกาศควบคุมภายหลัง ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความผิด
ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บผ้าตามประกาศ แม้ต่อมามีประกาศเลิกการควบคุมผ้า ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นผิด
กฎหมายที่ใช้ในขณะทำผิดมีโทษเท่ากับกฎหมายขณะที่พิจารณาคดีศาลใช้กฎหมายขณะที่ทำผิดลงโทษ
กฎหมายที่ใช้ในขณะทำผิดมีโทษเท่ากับกฎหมายขณะที่พิจารณาคดีศาลใช้กฎหมายขณะที่ทำผิดลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่แจ้งข้อมูลตามประกาศเจ้าพนักงาน แม้ประกาศนั้นถูกยกเลิกภายหลัง ก็ไม่ถือเป็นการยกเลิกความผิดเดิม
ทำผิดฐานไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บผ้าตามประกาศของคณะกรมการจังหวัด ต่อมามีประกาศยกเลิกการควบคุมนั้นไม่ถือว่ามีกฎหมายยกเลิกความผิด ผู้กระทำผิดไม่ได้รับยกเว้นโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ช่วยเหลือหลังเรือชน: ต้องมีอันตรายเกิดขึ้นจึงต้องหยุดเรือและแจ้งข้อมูล
เรือโดนกันแต่ไม่ปรากฏว่ามีอันตรายอย่างใดเกิดขึ้น นายเรือหรือผู้ควบคุมเรือไม่จำต้องหยุดเรือเพื่อช่วยเหลือและไม่ต้องแจ้งชื่อเรือและที่ไปที่มาตราความในกฎหมายข้างต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5238/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์: การแจ้งคู่กรณีสำคัญต่อการคุ้มครองความเสียหาย
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์แบบคุ้มครองเฉพาะภัย หน้า 10 ข้อ 1 ระบุข้อตกลงคุ้มครองไว้ว่า "บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างระยะเวลาประกันภัยต่อรถยนต์รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ตามที่ระบุไว้ในตาราง อันมีสาเหตุมาจากการชนกับยานพาหนะทางบก ทั้งนี้ความเสียหายดังกล่าวให้รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้อันมีสาเหตุโดยตรงจากการชนกับยานพาหนะทางบก ไม่ว่าจะเกิดจากความประมาทของรถยนต์คันที่เอาประกันภัยหรือคู่กรณี และผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้" ข้อความที่ระบุไว้ดังกล่าวจึงเป็นเงื่อนไขหรือข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยแบบคุ้มครองเฉพาะภัยของบริษัทประกันภัยรวมถึงจำเลยด้วย ซึ่งตามคู่มือตีความหน้าที่ 3 อธิบายถึงความเสียหายต่อรถยนต์ที่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้ว่า จะคุ้มครองเฉพาะ 1. รถยนต์คันที่เอาประกันภัยได้รับความเสียหายจากการชนกับยานพาหนะทางบก และ 2. ผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ ดังนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัยต่อเมื่อเข้าเงื่อนไขทั้งสองข้อ โดยการแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ให้ความหมายรวมถึงผู้เอาประกันภัยต้องสามารถแจ้งหมายเลขทะเบียนรถยนต์คู่กรณีให้บริษัททราบ โดยไม่จำเป็น ต้องให้รายละเอียดถึงผู้ขับขี่รถยนต์ ดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่โจทก์ระบุว่าขับเฉี่ยวชนรถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ เป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยแบบคุ้มครองเฉพาะภัย จำเลยจึงไม่จำต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ตามฟ้อง