พบผลลัพธ์ทั้งหมด 30 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2232/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเรื่องแนวเขตที่ดิน: การรังวัดต้องเป็นไปตามสัญญา ไม่ใช่การนำชี้
โจทก์จำเลยท้ากันให้เจ้าพนักงานที่ดินออกไปรังวัดสอบเขตที่ดินเพื่อให้ทราบแนวเขตติดต่อระหว่างที่ดินของโจทก์จำเลยว่าอยู่ตำแหน่งใด โดยถือเอาการรังวัดนี้เป็นยุติ ย่อมแสดงว่าโจทก์จำเลยมอบความไว้วางใจเป็นสิทธิขาดให้เจ้าพนักงานที่ดินสำหรับการรังวัดสอบเขต แม้เจ้าพนักงานที่ดินจะค้นหาหลักฐานการรังวัดที่ดินไม่พบก็จะต้องทำการตรวจสอบหาเขตที่ดินไปตามหลักวิชา จะใช้วิธีรังวัดด้วย"การนำชี้" หาได้ไม่เพราะมิใช่การรังวัด "สอบ" เขตตามที่คู่ความตกลงกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3112/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องรับรองแนวเขตที่ดินไม่เคลือบคลุม แม้ไม่มีแผนที่ท้ายฟ้อง เพราะจำเลยทราบข้อเท็จจริงจากคดีเดิมและโฉนดที่ดิน
โจทก์ฟ้องขอให้รับรองแนวเขตที่ดินมีโฉนด โดยบรรยายฟ้องว่าที่ดินของโจทก์อยู่ทางทิศเหนือที่ดินมีโฉนดของจำเลย และคดีนี้สืบเนื่องมาจากคดีเดิมซึ่งได้มีการนำชี้ทำแผนที่พิพาทมาแล้ว ดังนี้ จำเลยย่อมทราบข้อเท็จจริงอยู่ก่อน ที่ดินต่างมีโฉนดด้วยกัน ซึ่งมีรูปแผนที่แสดงแนวเขตที่ดินของแต่ละฝ่ายในโฉนด การที่โจทก์ไม่มีแผนที่ท้ายฟ้องประกอบมากับคำฟ้องด้วยหาทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหาแต่ประการใดไม่ ฟ้องจึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บัญชีระบุพยานไม่ลงชื่อ & สัญญาประนีประนอมยอมความปฏิบัติไม่ได้ ศาลฎีกายืนตามศาลชั้นต้น
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน และได้ทำการสืบพยานจำเลยจนเสร็จสิ้นแล้วศาลนัดสืบพยานโจทก์ นัดแรกเลื่อนไป ต่อมาในการนัดสืบพยานโจทก์นัดที่สอง ความจึงปรากฏว่าบัญชีระบุพยานของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้ระบุพยาน เพราะทนายคนเดิมของโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แต่ด้วยความพลั้งเผลอไม่ได้ลงชื่อ ดังนี้ กรณีเป็นเรื่องที่ทนายโจทก์คนเดิมได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้โดยชอบ เพียงแต่พลั้งเผลอไม่ได้ลงลายมือชื่อ โจทก์ทราบจึงขอแก้ไขให้ถูกต้อง บัญชีระบุพยานดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย ไม่ทำให้จำเลยเสียหายและไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแต่อย่างใด
สัญญาประนีประนอมยอมความ มีข้อตกลงแต่เพียงจะให้รังวัดหาแนวเขตที่แท้จริง แต่โฉนดที่ดินของโจทก์จำเลยเป็นโฉนดแบบเก่า ไม่สามารถปูโฉนดได้ ข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงที่ปฏิบัติไม่ได้ จึงต้องถือแนวเขตตามที่ปกครองกันมา
สัญญาประนีประนอมยอมความ มีข้อตกลงแต่เพียงจะให้รังวัดหาแนวเขตที่แท้จริง แต่โฉนดที่ดินของโจทก์จำเลยเป็นโฉนดแบบเก่า ไม่สามารถปูโฉนดได้ ข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงที่ปฏิบัติไม่ได้ จึงต้องถือแนวเขตตามที่ปกครองกันมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ปฏิบัติไม่ได้ และความชอบด้วยกฎหมายของบัญชีระบุพยานที่ไม่มีลายมือชื่อ
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน และได้ทำการสืบพยานจำเลยจนเสร็จสิ้นแล้วศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกเลื่อนไป ต่อมาในการนัดสืบพยานโจทก์นัดที่สองความจึงปรากฏว่าบัญชีระบุพยานของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้ระบุพยาน เพราะทนายคนเดิมของโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แต่ด้วยความพลั้งเผลอไม่ได้ลงชื่อ ดังนี้ กรณีเป็นเรื่องที่ทนายโจทก์คนเดิมได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้โดยชอบ เพียงแต่พลั้งเผลอไม่ได้ลงลายมือชื่อ โจทก์ทราบจึงขอแก้ไขให้ถูกต้อง บัญชีระบุพยานดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายไม่ทำให้จำเลยเสียหายและไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแต่อย่างใด
สัญญาประนีประนอมยอมความ มีข้อตกลงแต่เพียงจะให้รังวัดหาแนวเขตที่แท้จริงแต่โฉนดที่ดินของโจทก์จำเลยเป็นโฉนดแบบเก่า ไม่สามารถปูโฉนดได้ ข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงที่ปฏิบัติไม่ได้ จึงต้องถือแนวเขตตามที่ปกครองกันมา
สัญญาประนีประนอมยอมความ มีข้อตกลงแต่เพียงจะให้รังวัดหาแนวเขตที่แท้จริงแต่โฉนดที่ดินของโจทก์จำเลยเป็นโฉนดแบบเก่า ไม่สามารถปูโฉนดได้ ข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงที่ปฏิบัติไม่ได้ จึงต้องถือแนวเขตตามที่ปกครองกันมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละเจตนาครอบครองและการครอบครองปรปักษ์: การรับรองแนวเขตที่ดินถือเป็นการสละสิทธิ
เมื่อโจทก์นำช่างแผนที่ไปทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินจำเลยมิได้โต้แย้งสิทธิในที่พิพาทว่าเป็นของจำเลยโดยได้ครอบครองมา ทั้งได้ลงชื่อรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ว่าถูกต้อง ดังนี้ แม้จะฟังว่าจำเลยได้เคยครอบครองที่พิพาทมาก่อน ก็ถือได้ว่าจำเลยสละเจตนาครอบครองที่พิพาทแล้ว การครอบครองที่มีมาก่อนย่อมสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 การครอบครองของจำเลยซึ่งเริ่มนับใหม่หลังจากวันที่จำเลยรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ถึงวันฟ้องยังไม่ครบ 10 ปี จำเลยไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2687/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหรือไม่: คดีแนวเขตที่ดินกับการละเมิดสิทธิครอบครอง
คดีก่อน จำเลยยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ อ้างว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินโฉนดเลขที่ 1861 ของจำเลยคลาดเคลื่อนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนดเลขที่ 1862 ของโจทก์ เนื้อที่ 100ไร่เศษเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีแล้ว จึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยทางครอบครองโจทก์ยื่นคำคัดค้าน ศาลชั้นต้นฟังว่า เขตที่ดินโฉนดเลขที่ 1861 ของจำเลยทางทิศใต้อยู่ติดกับเขตที่ดินโฉนดที่ 1862 ของโจทก์ทางทิศเหนือ มีคันนาและกอไผ่เป็นคันเขตจำเลยไม่ได้ปกครองรุกล้ำเข้าไปในเขตโฉนดเลขที่ 1862 ของโจทก์พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด ส่วนคดีหลัง โจทก์ฟ้องจำเลยว่าจำเลยเข้าไปอาศัยปลูกกระท่อมและอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่1862ของโจทก์บางส่วนเนื้อที่ 100 ไร่เศษ โดยอาศัยสิทธิการเช่าของบุคคลอื่นที่ขอเช่าที่ดินไปจากโจทก์ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยรื้อกระท่อมออกไปให้พ้นที่ดินโจทก์และอย่าเข้ามาทำนาต่อไปจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ขอให้ศาลบังคับจำเลยรื้อกระท่อมห้ามเข้าเกี่ยวข้องทำนาต่อไป และเรียกค่าเสียหาย ดังนี้ประเด็นแห่งคดีก่อน ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเฉพาะแนวเขตโฉนดที่ดินของโจทก์และจำเลยด้านที่ติดกัน ว่าอยู่ตรงไหนกับชี้ขาดว่าไม่มีการครอบครองที่ดินเป็นปรปักษ์ต่อกัน ส่วนประเด็นแห่งคดีหลังเป็นเรื่องละเมิดกับเรียกค่าเสียหาย จึงเป็นคนละเรื่องและคนละประเด็นกัน มิใช่เรื่องในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องคดีหลังจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2687/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหรือไม่: คดีแนวเขตที่ดินกับการละเมิดสิทธิครอบครองเป็นคนละประเด็น ศาลล่างวินิจฉัยคลาด
คดีก่อน จำเลยยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ อ้างว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินโฉนดเลขที่ 1861 ของจำเลยคลาดเคลื่อนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนดเลขที่ 1862 ของโจทก์ เนื้อที่ 100ไร่เศษ เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีแล้ว จึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยทางครอบครองโจทก์ยื่นคำคัดค้าน ศาลชั้นต้นฟังว่า เขตที่ดินโฉนดเลขที่ 1861 ของจำเลยทางทิศใต้อยู่ติดกับเขตที่ดินโฉนดที่ 1862 ของโจทก์ทางทิศเหนือ มีคันนาและกอไผ่เป็นคันเขต จำเลยไม่ได้ปกครองรุกล้ำเข้าไปในเขตโฉนดเลขที่ 1862 ของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด ส่วนคดีหลัง โจทก์ฟ้องจำเลยว่าจำเลยเข้าไปอาศัยปลูกกระท่อมและอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่1862 ของโจทก์บางส่วนเนื้อที่ 100 ไร่เศษ โดยอาศัยสิทธิการเช่าของบุคคลอื่นที่ขอเช่าที่ดินไปจากโจทก์ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยรื้อกระท่อมออกไปให้พ้นที่ดินโจทก์และอย่าเข้ามาทำนาต่อไป จำเลยไม่ปฏิบัติตาม ขอให้ศาลบังคับจำเลยรื้อกระท่อม ห้ามเข้าเกี่ยวข้องทำนาต่อไป และเรียกค่าเสียหาย ดังนี้ ประเด็นแห่งคดีก่อน ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเฉพาะแนวเขตโฉนดที่ดินของโจทก์และจำเลยด้านที่ติดกัน ว่าอยู่ตรงไหนกับชี้ขาดว่าไม่มีการครอบครองที่ดินเป็นปรปักษ์ต่อกัน ส่วนประเด็นแห่งคดีหลังเป็นเรื่องละเมิดกับเรียกค่าเสียหาย จึงเป็นคนละเรื่องและคนละประเด็นกัน มิใช่เรื่องในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องคดีหลังจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดดินใกล้แนวเขตที่ดินต้องเว้นระยะตามกฎหมาย เพื่อป้องกันที่ดินพังทลาย รักษาแนวเขตที่ดินให้มั่นคง
กฎหมายมีเจตนารมณ์ที่จะป้องกันมิให้ที่ดินซึ่งอยู่ชิดแนวเขตที่ดินนั้นพังลงตามธรรมชาติ เนื่องจากมีการขุดดินใกล้แนวเขตที่ดินจนเกินไป จึงได้วางเกณฑ์กำหนดไว้ว่าการขุดคูหรือร่องน้ำจะทำใกล้แนวเขตที่ดินกว่าครึ่งหนึ่งแห่งส่วนลึกของคูหรือร่องนั้นไม่ได้ ในการวัดระยะซึ่งกฎหมายกำหนดไว้เพื่อป้องกันที่ดินพังทลาย จึงต้องวัดจากริมคันนาร่วมออกไปถึงแนวลำรางที่จำเลยขุด การที่จำเลยขุดลำรางชิดกับคันนาร่วม ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ที่มีอยู่ในคันนาร่วม ในฐานะที่คันนาร่วมเป็นแนวเขตที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1342 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การท้าพิสูจน์แนวเขตที่ดินและการสืบพยานเพิ่มเติมเมื่อพิสูจน์ไม่ได้ตามที่ตกลง
คู่ความตกลงท้ากันว่า ถ้ามีคันนาด้านตะวันออกของที่พิพาทยาวเกินกว่า 15 วา โจทก์ยอมแพ้คดี ถ้าไม่เกิน 15 วา จำเลยยอมแพ้ โดยไม่ติดใจสืบพยานกันต่อไป ครั้นศาลไปตรวจดู ปรากฏว่าเขตที่พิพาทด้านนั้นเป็นนาเรียบราบ มีรอยไถด้วยรถและมีรอยคนเดิน และมีกอหญ้าเป็นแนวอยู่เป็นระยะ ๆ เมื่อไม่มีคันนาจะวัดความยาวเพื่อชี้ขาดตัดสินคดีตามที่คู่ความท้ากันดังนี้ ก็ต้องสืบพยานกันต่อไปตามประเด็นเดิมแห่งคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดหลุมส้วมใกล้แนวเขตที่ดิน: ห้ามขุดภายใน 2 เมตร แม้ใช้ความระมัดระวัง
จะขุดหลุมส้วมในระยะสองเมตรจากแนวเขตที่ดินไม่ได้ แม้จะได้ใช้ความระมัดระวังตามควรเพื่อป้องกันมิให้ทรายพังลงหรือมิให้น้ำหรือสิ่งโสโครกซึมได้ก็ตาม
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2505)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2505)