พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ลายมือชื่อเป็นหลักฐานสำคัญในการพิพากษาคดีสัญญาซื้อขาย การที่โจทก์ไม่สามารถพิสูจน์การชำระเงินได้ ทำให้แพ้คดี
การที่ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจได้ตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของจำเลยและพยานที่ลงชื่อไว้ต่อหน้าศาลและที่ลงชื่อไว้ในด้านหน้าของสัญญาจะซื้อขายเปรียบเทียบกับลายมือชื่อของผู้ที่ลงชื่อไว้ในด้านหลังของสัญญาจะซื้อขายแล้วมีความเห็นว่าลายมือชื่อที่ตรวจทั้งสองแห่งไม่ใช่เป็นลายมือชื่อของบุคคลเดียวกันความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญจะมิได้มาเบิกความประกอบรายงานการตรวจพิสูจน์ก็เป็นพยานหลักฐานที่รับฟังได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา130.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบตกแก่คู่ความที่กล่าวอ้างข้อเท็จจริงใหม่เพื่อสนับสนุนคำให้การ หากไม่นำสืบ ย่อมแพ้คดี
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านและที่ดิน อ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยให้การยอมรับว่าจำเลยอยู่ในบ้านและที่ดินของโจทก์ แต่อ้างว่าจำเลยมีสิทธิอยู่ได้ เพราะโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันในการผลิตไม้ปาเก้ออกจำหน่ายเพื่อแบ่งผลกำไร และขณะนี้ห้างหุ้นส่วนยังไม่เลิกกัน ดังนี้จำเลยยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่เพื่อสนับสนุนข้ออ้างของจำเลยว่าตนมีสิทธิอยู่ในบ้านและที่ดินของโจทก์ได้ซึ่งถ้าเป็นจริงดังจำเลยต่อสู้ จำเลยก็ชนะคดี หน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงนี้จึงตกแก่จำเลย เมื่อคู่ความท้ากันว่าหน้าที่นำสืบตกฝ่ายใดให้ฝ่ายนั้นแพ้คดี โดยคู่ความไม่สืบพยาน จำเลยก็ต้องแพ้คดีตามคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอพิจารณาคดีใหม่ กรณีโจทก์ขาดนัดพิจารณา และศาลพิพากษาให้แพ้คดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์จนศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณาและพิพากษาให้โจทก์แพ้คดีไปแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้มีการพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 ได้ กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 205(3) ซึ่งเป็นเรื่องคู่ความที่ขาดนัดมาศาลภายหลังที่ได้เริ่มต้นสืบพยานไปบ้างแล้วในระหว่างพิจารณาคดีฝ่ายเดียว และศาลเห็นว่าการขาดนัดเป็นไปโดยจงใจหรือไม่มีเหตุอันควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2877/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดค่าฤชาธรรมเนียมบังคับคดีตกแก่คู่ความที่แพ้คดี แม้ผู้ร้องได้รับประโยชน์จากการขายทอดตลาดก็ไม่ต้องรับผิด
ความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 161 วรรคสองให้รวมถึงค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีด้วย ย่อมตกแก่คู่ความเฉพาะฝ่ายที่แพ้คดี จำเลยเป็นคู่ความและเป็นฝ่ายที่แพ้คดีจำเลยจึงต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมแต่ผู้เดียวผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาของจำเลยยื่นคำร้องเข้ามาในชั้นบังคับคดีขอรับส่วนแบ่งจากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาด มิได้เป็นคู่ความที่แพ้คดีด้วย จึงไม่มีส่วนต้องรับผิดร่วมด้วยในค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี (อ้างฎีกาที่ 193/2502)
มาตรา 153(2),318 และ 319 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเป็นบทบัญญัติกำหนดวิธีการจ่ายเงิน โดยให้หักค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีออกจากเงินได้จากการขายทรัพย์เสียก่อน เหลือเงินสุทธิเท่าใดจึงจ่ายแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา หาใช่เป็นบทบัญญัติที่กำหนดความรับผิดในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความไม่
มาตรา 153(2),318 และ 319 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเป็นบทบัญญัติกำหนดวิธีการจ่ายเงิน โดยให้หักค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีออกจากเงินได้จากการขายทรัพย์เสียก่อน เหลือเงินสุทธิเท่าใดจึงจ่ายแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา หาใช่เป็นบทบัญญัติที่กำหนดความรับผิดในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงของผู้ฟ้องคดีในคดีภาษีอากร หากไม่นำสืบย่อมแพ้คดี
โจทก์ฟ้องกรมสรรพากรกับพวกเป็นจำเลย อ้างว่าการที่โจทก์จ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าป่วยการให้แก่ ป. เป็นการจ่ายเพื่อหากำไรมาให้โจทก์และโจทก์ได้จ่ายให้ ป. รับไปเป็นคราว ๆ มิใช่จ่ายจากผลกำไรที่ได้เมื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชีแล้ว โจทก์จึงไม่ต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับเงินที่ได้จ่ายไปนี้ ขอให้ศาลเพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และให้จำเลยคืนเงินค่าภาษี จำเลยให้การปฏิเสธข้ออ้างตามฟ้องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องนำสืบข้อเท็จจริงว่าเป็นดังที่โจทก์อ้างเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายว่า โจทก์ไม่ต้องเสียภาษีในเงินดังกล่าวจะถูกต้องหรือไม่ ถ้าโจทก์ไม่นำสืบก็ต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมบังคับคดีและการใช้ดุลพินิจศาลเมื่อมีการถอนการยึดทรัพย์หลังแพ้คดีในชั้นอุทธรณ์
จำเลยแพ้คดีในศาลชั้นต้น โจทก์ขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลย ในชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชนะ จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ถอนการยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 251 ศาลสั่งอนุญาตและให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขาย และค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี นั้นเป็นการที่ชอบ เพราะโจทก์เป็นผู้แพ้คดี โจทก์ต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมไปจนกว่าศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น และเรื่องความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำฟ้อง: แม้ข้อเท็จจริงบางส่วนต่างจากที่บรรยายฟ้อง ก็ไม่ถึงขนาดทำให้โจทก์แพ้คดี
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่พิพาทโจทก์ได้รับมรดกและชนะความมา แม้จะได้ความว่าที่ที่ชนะความเป็นที่ดินแปลงอื่น และโจทก์ได้รับส่วนแบ่งมาจากบิดาซึ่งไม่ใช่ได้จากการรับมรดกเมื่อบิดาตายแล้ว ก็ไม่ควรถือว่าผิดกับคำฟ้องจนถึงกับต้องให้โจทก์แพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแพ้คดีเนื่องจากจำเลยไม่ผิดสัญญาเช่า อำนาจฟ้องไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยผิดสัญญาเช่า ศาลชั้นต้นพิจารณาและฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติไปแล้วว่า จำเลยมิได้ประพฤติผิดสัญญาเช่า เพียงเท่านี้โจทก์ก็ต้องแพ้คดีเสียแล้ว ฎีกาของโจทก์เรื่องอำนาจฟ้องจึงไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงทำแผนที่เพื่อพิสูจน์สิทธิในที่ดิน หากผลไม่เป็นไปตามตกลง ฝ่ายที่ผิดสัญญาต้องแพ้คดี
ท้ากันให้พนักงานป่าไม้ชี้ที่พิพาท ถ้าเป็นป่าสงวน โจทก์ยอมแพ้ถ้าไม่เป็นป่าสงวน จำเลยยอมแพ้ ทางราชการแจ้งว่าการสงวนป่ารายนี้ทางราชการสั่งระงับแล้ว ดังนี้จำเลยต้องแพ้ ศาลพิพากษาขับไล่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงชำระหนี้หลังแพ้คดี ถือเป็นการฉ้อฉล
อำเภอชี้ขาดให้จำเลยชำระค่านายหน้าแก่โจทก์ จำเลยลงชื่อยินยอมปฏิบัติตามสัญญายอมความของอำเภอ ต่อมาอีก 5 วันจำเลยจึงโอนขายที่ดินของจำเลยให้ผู้ร้อง สัญญาระบุว่าซื้อขาย แต่ความจริงไม่มีค่าตอบแทน ดังนี้
เมื่อจำเลยไม่ชำระค่านายหน้าให้โจทก์ๆฟ้องคดี จนศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี โจทก์ย่อมนำยึดที่ดินของจำเลย ดังกล่าวเพื่อการบังคับคดีได้ เพราะการโอนให้ผู้ร้องดังกล่าว เป็นการทำให้โจทก์เสียเปรียบ โจทก์ย่อมขอให้เพิก ถอนการฉ้อฉลได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237./
เมื่อจำเลยไม่ชำระค่านายหน้าให้โจทก์ๆฟ้องคดี จนศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี โจทก์ย่อมนำยึดที่ดินของจำเลย ดังกล่าวเพื่อการบังคับคดีได้ เพราะการโอนให้ผู้ร้องดังกล่าว เป็นการทำให้โจทก์เสียเปรียบ โจทก์ย่อมขอให้เพิก ถอนการฉ้อฉลได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237./