คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แยกจากกัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีอาวุธปืนและการพาอาวุธปืนเป็นคนละกรรมกัน
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปตามทางสาธารณะ มีการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้โดยชัดเจน ไม่เกี่ยวเนื่องกัน และเจตนาในการกระทำความผิดก็เป็นคนละอย่างแตกต่างจากกัน จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5199/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดต่อเนื่องหลายกระทง: เจตนาแยกจากกันถือเป็นความผิดคนละกระทง แม้กระทำต่อเนื่อง
ความผิดที่กระทำต่อเนื่องอาจเป็นความผิดหลายกระทงได้ หากได้ความว่าผู้กระทำผิดมีเจตนาหลายอย่างแต่ละอย่างเป็นความผิดที่สมบูรณ์แยกจากกันได้
จำเลยฉีกธงชาติไทยอันมีความหมายถึงรัฐเพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ และยังใช้ไม้ตีทุบเกศเศียร พระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของพุทธศาสนิกชนอันเป็นการเหยียดหยามศาสนา อันเป็นคนละเจตนา แต่ละเจตนาเป็นความผิดในตัวเองแยกจากกันเป็นความผิดคนละกระทง แม้กระทำต่อเนื่องกัน และแต่ละกระทงดังกล่าวคือเจตนาในการทำให้เสียทรัพย์เช่นเดียวกัน จึงเป็นความผิดหลายบทในแต่ละกระทงกล่าวคือ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118, 360, 90กระทงหนึ่ง และมาตรา 206, 360 ทวิ, 90 อีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเรา: การกระทำแยกจากกัน และไม่เข้าข่ายโทรมหญิง
จำเลยที่ 1 แกล้งทำเป็นถูกผีเข้าสิงเดินเข้าไปหาผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายตกใจวิ่งหนี จำเลยที่ 1 วิ่งไล่ตามบีบคอกดตัวผู้เสียหายลงกับพื้น จำเลยที่ 2 มิได้เข้าร่วมกับจำเลยที่ 1ในเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งขณะจำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจำเลยที่ 2 ก็นั่งอยู่ห่างผู้เสียหายประมาณ 10 วา เมื่อจำเลยที่ 1ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเสร็จแล้ว จำเลยที่ 2 จึงเข้ามาลากผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเราที่ข้างกอไผ่ห่างจากจุดที่จำเลยที่ 1ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายพอสมควร โดยจำเลยที่ 1 มิได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยทั้งสองยังไม่เข้าลักษณะเป็นการโทรมหญิง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บังคับคดีแพ่งแยกจากคดีอาญา: คำพิพากษาอาญาไม่อาจลบล้างผลบังคับคดีแพ่งได้
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ และดำเนินการเพื่อจะขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองในคดีแพ่งที่ถึงที่สุดแล้วนั้นเป็นกรณีปฏิบัติไปตาม บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในเรื่องการบังคับคดีตาม คำพิพากษาโดยชอบ ซึ่ง เป็นการบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลยทั้งสอง ส่วนคดีอาญาที่จำเลยทั้งสองฟ้องโจทก์นั้นเป็นเรื่องที่จะบังคับเกี่ยวกับตัว โจทก์ เป็นกรณีคนละเรื่องกันผลของคำพิพากษาในคดีอาญา ไม่อาจลบล้างคำพิพากษาในคดีแพ่งได้จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเท็จจริงในคดีแพ่งไม่ผูกพันคดีอาญา
ในคดีอาญาไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายให้ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองแยกจากหนี้ได้ เจ้าหนี้ใช้สิทธิเรียกร้องได้ทั้งทางหนี้สามัญและบังคับจำนอง ไม่ถือเป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมาย
การจำนองเป็นสัญญาเอาทรัพย์สินตราไว้เป็นการประกันหนี้ โดยหนี้ที่จะพึงต้องชำระแก่กันอันเป็นหนี้ประธาน และจำนองอันเป็นหนี้อุปกรณ์ของหนี้นั้น ซึ่งอาจแยกหนี้ที่จะต้องชำระแก่กัน และการจำนองออกเป็นคนละส่วนต่างหากจากกันได้ เจ้าหนี้จึงชอบที่จะใช้สิทธิเรียกร้องอย่างหนี้สามัญ หรือจะบังคับจำนองอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนย่อมทำได้ ไม่เป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมายเรื่องจำนองหรือเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีหมิ่นประมาท: ผู้เสียหายโดยตรง แม้ผู้ฟ้องเคยกระทำก่อน
จำเลยทำการโฆษณาอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายโดยตรงเนื่องจากการกระทำผิดของจำเลย และมีอำนาจฟ้องส่วนที่โจทก์เขียนบทความไปโฆษณาหนังสือพิมพ์ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการหมิ่นประมาทจำเลยหรือไม่ก็เป็นการกระทำซึ่งแยกได้เป็นคนละตอนกับการกระทำของจำเลยไม่มีผลให้โจทก์มิใช่ผู้เสียหายและไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ส่วนควบของเรือน: การพิจารณาความเป็นสาระสำคัญและการแยกจากกันได้โดยไม่ทำให้เสียหาย
จำเลยสร้างเรือนพิพาทขึ้นเพื่ออยู่กับครอบครัว โดยแยกจากผู้ร้อง ผู้ร้องมีเรือน 2 หลังแฝดอยู่แล้ว เรือนพิพาทปลูกติดกับนอกชานเรือนผู้ร้อง เอาเสาต้นสั้นเกาะจากนอกชาน ถ้าไม่อาศัยเสานอกชานบ้านเก่าด้วยจะปลูกไม่ได้ เช่นนี้เรือนรายพิพาทมิได้เป็นสาระสำคัญในความเป็นอยู่ของเรือนผู้ร้อง และอาจแยกจากกันได้โดยไม่ทำให้เรือนผู้ร้องเสียหายหรือเปลี่ยนรูปทรงอย่างใด เรือนพิพาทจึงมิใช่ส่วนควบของเรือนผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางแพ่งแยกจากความผิดทางอาญา แม้ไม่มีความผิดอาญา ก็ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษทางอาญา และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ด้วยนั้นแม้ศาลจะฟังว่า จำเลยเอาทรัพย์ไปจริงแต่มิได้เจตนาลักยังไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ก็ดี ศาลก็พิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่จำเลยเอาไปให้แก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2050/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิในทรัพย์สินยังไม่โอน จนกว่าจะมีการส่งมอบทรัพย์ที่แยกออกจากของผู้อื่นได้ชัดเจน
การซื้อขายทรัพย์ ซึ่งจะต้องมีการชั่งและส่งมอบกัน หากทรัพย์นั้นยังเก็บรวมไว้กับของผู้อื่น ยังไม่ได้แยกเอาออกมาชั่งและส่งมอบแก่ผู้ซื้อ แม้ผู้ซื้อจะชำระราคาแล้วกรรมสิทธิยังคงอยู่แก่ผู้ขาย ยังไม่โอนไปยังผู้ซื้อ เจ้าหนี้ของผู้ขายยึดทรัพย์นั้นได้
คดีที่มีผู้ร้องขัดทรัพย์ และโจทก์ผู้นำยึด โต้เถียงว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นกรรมสิทธิของลูกหนี้ ดังนี้ ที่ศาลวินิจฉัยเรื่องกรรมสิทธิเป็นการวินิจฉัยประเด็นแห่งคดีโดยตรง.
of 3