พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3159/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามลักลอบส่งออกแร่ดีบุก การพิจารณาโทษบทที่หนักกว่าระหว่าง พ.ร.บ.แร่ และ พ.ร.บ.ศุลกากร
จำเลยขนแร่ดีบุกซึ่งแต่งและย่าง แห้งแล้วบรรจุไว้ในกระสอบที่มีน้ำหนักเท่ากันจำนวนถึง 853 กระสอบ จากบนบก ลง เรือหางยาวนำไปเก็บไว้บนแพซึ่งจอดอยู่กลางทะเลลึกห่างจากฝั่งถึง 2 กิโลเมตรเพื่อรอเรือใหญ่มาขนต่อไปอีกทอดหนึ่ง โดยแพก็มีเครื่องยนต์ถึง 2เครื่อง ซึ่งสามารถนำแร่ดีบุกต่อไปยังเรือใหญ่เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักรได้โดยง่าย แสดงว่าจำเลยมีเจตนาลักลอบส่งแร่ดีบุกออกนอกราชอาณาจักร และถือได้ว่าเป็นการกระทำที่เลยขั้นตระเตรียมการแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามลักลอบนำแร่ออกนอกราชอาณาจักร ความผิดฐานพยายามลักลอบนำแร่ออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 129152 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 มาตรา 23 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27102 ตรี เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท และการพิจารณาว่าบทกฎหมายใดเป็นบทหนักหรือเบากว่ากันนั้นจะต้องพิเคราะห์จากอัตราโทษจำคุก ปรากฏว่าโทษจำคุกตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 152 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 มาตรา 23 กับโทษจำคุกตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 102 ตรี นั้น มีอัตราโทษสูงสุดเท่ากันคือจำคุกไม่เกิน 10 ปี แต่ความผิดฐานพยายามลักลอบนำแร่ออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ มาตรา 27มีอัตราโทษเท่ากับการทำความผิดสำเร็จ ดังนั้น โทษจำคุกตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ ดังกล่าวจึงหนักกว่าโทษจำคุกตามพระราชบัญญัติแร่ฯ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนแร่ดีบุกของกลางแก่เจ้าของที่ไม่รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.แร่
แม้จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบแร่ของผู้ร้องแล้วก็ตาม แต่เมื่อผู้ร้องได้ร้องขอแร่ของกลางเฉพาะส่วนของผู้ร้องคืน โดยอ้างว่ามิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดซึ่งศาลฎีกาก็ได้พิพากษาชี้ขาดแล้วว่าคำพิพากษาที่ให้ริบแร่ของกลางเฉพาะส่วนของผู้ร้องไม่ผูกพันผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดี ดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด และตามพระราชบัญญัติแร่ฯ ก็มีข้อบัญญัติมิให้ริบทรัพย์สินของผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด จึงต้องคืนแร่ของกลางเฉพาะส่วนของผู้ร้องแก่ผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1338/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีแร่ดีบุก: วันกระทำผิดคือวันครอบครองเกินโควต้า แม้ต่อมาจะขอเพิ่มโควต้า
จำเลยขุดแร่ดีบุกไว้ในครอบครองเกินโควต้าที่ได้รับอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมแร่ดีบุก พ.ศ.2514 มาตรา 20,31 ซึ่งมีโทษปรับอย่างเดียวนั้นอายุความ 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 เจ้าพนักงานเข้าตรวจระหว่างวันที่ 17-20 กันยายน 2518 พบว่าจำเลยมีแร่ดีบุกไว้ในครอบครองเกินโควต้า ต้องถือว่าวันที่17 กันยายน 2518 เป็นวันที่จำเลยกระทำความผิดโจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2519 เกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยกระทำความผิด คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
แม้จำเลยจะได้รับอนุมัติให้เพิ่มโควต้าในภายหลังก็ไม่ทำให้ความผิดที่จำเลยได้กระทำไปแล้วกลายเป็นไม่เป็นความผิด
แม้จำเลยจะได้รับอนุมัติให้เพิ่มโควต้าในภายหลังก็ไม่ทำให้ความผิดที่จำเลยได้กระทำไปแล้วกลายเป็นไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1102/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนแร่ดีบุกเกินปริมาณที่ได้รับอนุญาต ถือว่าครอบครองและขนแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม พ.ร.บ.แร่
ขนแร่ดีบุกเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวนเกินกว่าร้อยละห้า ถือว่าขนแร่ของกลางทั้งหมดโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 110 และถือได้ว่าเป็นการครอบครองแร่ดีบุกของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาต ถึงแม้ว่าจำเลยไม่ใช่ผู้รับใบอนุญาตขนแร่ แต่เมื่อจำเลยเป็นผู้ชนก็เท่ากับว่าจำเลยครอบครองแร่ดีบุกของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาต และขนแร่ดีบุกดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตนั่นเอง จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 388/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีแร่ดีบุกเกินกว่าใบสุทธิแร่ แม้เป็นตัวแทนบริษัท ก็มีความผิดร่วมด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องและว่าจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทเท่านั้น ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานมีแร่ดีบุกไว้ในครอบครองเกินกว่าใบสุทธิแร่ แม้จะมีไว้ในครอบครองในฐานะตัวแทนบริษัท จำเลยก็มีความผิดร่วมกับบริษัทด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำเกี่ยวกับแร่ดีบุกที่เคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำที่กฎหมายห้าม
โจทฟ้องหาว่าจำเลยบังอาดขุดแร่ไม่ได้รับไบสุทธิหรือไบอนุญาตซึ่งแร่ของกลางไนคดีนี้เปนจำนวนเดียวกับแร่ของกลางไนคดีที่โจทฟ้องจำเลยเรื่องก่อนและคดีนั้นสาลพิพากสาถึงที่สุดเด็ดขาดไปแล้ว เช่นนี้ต้องด้วยข้อห้ามตาม ป.ม. วิธีพิจารนาความอาญา ม. 39(4) ซึ่งจะฟ้องไหม่ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บแร่ดีบุกที่ร่อนได้ในบ้าน ไม่ถือเป็นการตั้งสถานที่เก็บแร่ตามกฎหมาย
เก็บแร่ดีบุกที่ร่อนได้ไว้ในบ้าน ไม่มีผิดฐานตั้งสถานที่เก็บแร่ดีบุกตาม ม.20 ข้างต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายแร่ดีบุกยังไม่สำเร็จ ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เหมืองแร่
ทำแร่ดีบุกมาเพื่อจะขายเท่านั้น แต่ยังไม่ทันซื้อขายกันสำเร็จยังไม่มีความผิด
ศาลชั้นต้นปรับจำเลย 180 +ศาลอุทธรณ์แก้ให้ปรับ + บาทดังนี้แม้เป็นการแก้ไขมากก็ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นปรับจำเลย 180 +ศาลอุทธรณ์แก้ให้ปรับ + บาทดังนี้แม้เป็นการแก้ไขมากก็ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบแร่ดีบุก: ศาลฎีกายกข้ออุทธรณ์เรื่องการริบแร่ เนื่องจากเป็นดุลยพินิจของศาลชั้นต้นที่ชอบแล้ว
ศาลชั้นต้นปรับจำเลย161 บาท และริบแร่ของกลาง ศาลอุทธรณ์แก้ว่าให้คืนแร่ของกลางให้จำเลยไป นอกนั้นพิพากษายืนดังนี้เป็นแก้น้อยโจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ ควรริบแร่ของกลางหรือไม่เป็นข้อดุลยพินิจซึ่งนับเนื่องเข้าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แก้น้อย