พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบการสถานการค้าประเวณีและประเด็นการแสวงหาผลประโยชน์จากอาชีพอื่นที่ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
แม้จำเลยอายุเกิน 16 ปีซึ่งเป็นผู้ดูแลจัดการสถานการค้าประเวณีได้รับส่วนแบ่งจากการค้าประเวณีของหญิงที่ค้าประเวณี แต่จำเลยก็ประกอบอาชีพอื่นอยู่ด้วยคือขายผ้าและน้ำปลามีรายได้เดือนละ5-6 พันบาท แสดงว่าจำเลยมีรายได้จากการค้าขาย และไม่ปรากฏว่ารายได้ดังกล่าวไม่เพียงพอสำหรับดำรงชีพ ถึงจำเลยจะได้รับส่วนแบ่งจากหญิงซึ่งค้าประเวณีก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 286
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพาเด็กอายุ 13 ปีไปโดยไม่เต็มใจ แม้จะยินยอมตั้งแต่ต้น แต่หากมีเจตนาแสวงหาผลประโยชน์ ถือเป็นความผิด
พาเด็กอายุ 13 ปีเสสไปจากมารดาเด็ก โดยเด็กเต็มไจไปกับจำเลยแม้จะเปนโดยถูกหลอกลวงก็เปนผิดตามมาตรา 275 แต่ไม่เปนผิดตามมาตรา 274.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศโดยการจัดหาหญิงบำเรอเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันสัญจรโรค แม้ไม่ได้กระทำในสถานที่ของจำเลย
จ้างหยิงไว้บำเรอชาย และไห้พาไปหลับนอนโดยจำเลยแบ่งเอาส่วนค่าจ้างที่หลับนอนนั้นแม้ ที่หลับนอนนั้นจะไม่ใช่ที่ร้านหรือห้องของจำเลยก็ย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันสัญจนโรค
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 347/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงผู้ปกครองเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กโดยอ้างบุตรบุญธรรม ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก
เกลี้ยกล่อมหลอกลวงผู้ปกครองเอาเด็กไปเพื่อหากำไรเด็กเต็มใจไปและผู้ปกครองก็ยินยอมให้เด็กไปเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงดังนี้ เป็นผิดตาม ม. 275 ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามมาตรา 274 จำเลยฝ่ายเดียวฎีกาว่าไม่ผิด ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นผิด ม. 275 และ โจทก์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 285 ด้วย ดังนี้ ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา 275 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9839/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้เด็กเล่นเกมช่วงกลางคืนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้าเข้าข่ายขัดขวางพัฒนาการเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26 (7) บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดบังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กเล่นกีฬา หรือให้กระทำการใดเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางการค้าอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางต่อการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็กหรือมีลักษณะเป็นการทารุณกรรมต่อเด็ก การที่จำเลยซึ่งทำงานเป็นผู้ดูแลและเก็บค่าบริการของร้านเกมชื่อ ร้านท้อปเกม ยินยอมให้ ว. อายุ 15 ปี และ ณ. อายุ 16 ปี ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส เข้าเล่นเกมคอมพิวเตอร์ในร้านที่จำเลยดูแลในเวลา 2 นาฬิกาโดยเก็บเงิน 20 บาท ต่อการเล่นเกม 3 ชั่วโมง แม้การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ถือเป็นการนันทนาการ ไม่ใช่กีฬาตามที่จำเลยฎีกา แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำใดๆ อันมีลักษณะใกล้เคียงกันจึงต้องได้รับความคุ้มครองเช่นกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการแสวงหาประโยชน์ทางการค้าซึ่งในเวลาเช่นนั้นบุคคลทั้งสองต้องพักผ่อนหลับนอนเพื่อให้ได้รับการพัฒนาตามวัยอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางต่อการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของ ว. และ ณ. ตามมาตรา 26 (7)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5620/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพรากเด็กเพื่อแสวงหาผลประโยชน์และการกระทำความผิดหลายกรรม การกระทำความผิดฐานพรากผู้เยาว์
บิดามารดาของเด็กทั้งสามมีฐานะยากจนต้องออกทำงานหาเลี้ยงชีพในแต่ละวัน จึงต้องปล่อยให้เด็กทั้งสามเที่ยวเล่นอยู่ตามลำพังตามประสาเด็กเท่านั้น แต่เมื่อเด็กทั้งสามไม่กลับบ้านตามปกติ บิดามารดาของเด็กทั้งสามก็ตามหาและแจ้งแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ยังใช้อำนาจปกครองเด็กทั้งสามอยู่ การที่จำเลยทั้งสองชักชวนเด็กทั้งสามคนไปทำงานบ้านอยู่กับจำเลยทั้งสองที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่กลับพาไปบวชเป็นสามเณรแล้วพาออกแจกซองผ้าป่าตามจังหวัดต่าง ๆ เรี่ยไรเงินจากชาวบ้านแล้วแบ่งผลประโยชน์กันโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบิดามารดาของเด็กทั้งสามคน จึงเป็นการพรากเด็กทั้งสามคนไปจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดฐานพรากเด็กชายทั้งสามซึ่งอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควรเพื่อหากำไรตาม ป.อ.มาตรา 317 วรรคสาม
ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตาม ป.อ. มาตรา 317 มีความมุ่งหมายที่จะคุ้มครองอำนาจการปกครองของบิดามารดาหรือผู้ปกครองดูแลของผู้เยาว์ ไม่ให้ถูกผู้ใดพาไปหรือแยกออกจากความปกครองดูแล แม้จำเลยทั้งสองจะพูดชักชวนและพาเด็กทั้งสามไปในครั้งเดียวคราวเดียวกันก็ตาม แต่ก็เป็นการกระทำที่มีเจตนากระทำต่อผู้เสียหายและบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลของผู้เสียหายแต่ละคนโดยเฉพาะ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ตาม ป.อ.มาตรา 91 หาใช่เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว
ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตาม ป.อ. มาตรา 317 มีความมุ่งหมายที่จะคุ้มครองอำนาจการปกครองของบิดามารดาหรือผู้ปกครองดูแลของผู้เยาว์ ไม่ให้ถูกผู้ใดพาไปหรือแยกออกจากความปกครองดูแล แม้จำเลยทั้งสองจะพูดชักชวนและพาเด็กทั้งสามไปในครั้งเดียวคราวเดียวกันก็ตาม แต่ก็เป็นการกระทำที่มีเจตนากระทำต่อผู้เสียหายและบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลของผู้เสียหายแต่ละคนโดยเฉพาะ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ตาม ป.อ.มาตรา 91 หาใช่เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว