พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยพยาบาทและไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้น ศาลฎีกายกเหตุทำร้ายภริยา-มารดาเป็นเหตุ
เมื่อจำเลยทราบว่าผู้ตายทำร้ายภริยาและมารดาตน จำเลยก็ตามไปใช้มีดฟันผู้ตายในเวลาต่อเนื่องกับการกระทำของผู้ตายที่ได้ฟันหน้าภริยาและมารดาของจำเลย ซึ่งห่างจากบ้านจำเลย 3 วา เศษ แต่จากนั้นระหว่างทางจำเลยทั้งสองกับพวกควบคุมผู้ตายไป เพื่อส่งตำรวจกลับร่วมกันทำร้ายผู้ตายอีก โดยลากขาไปประมาณ 10 วา ตามทุ่งนา แล้วจำเลยคนหนึ่งเอาด้ามมีดกระทุ้งหน้าอกอีก 2 ที ฟันศรีษะผู้ตายอีกหนึ่งที จนผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ถือได้ว่าเป็นการฆ่าโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมาย เป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนในระหว่างทางนั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาจากการโกรธแค้นและทำลายทรัพย์สิน ลดโทษจากเหตุผลปราณีและการรับสารภาพ
พฤตติการณ์ที่เป็นการฆ่าคนโดยบรรดาลโทษะ +เลยยิงผู้ตายโดยโกรธว่า+อาจกอดคอแลจับนมบุตรีจำเลย ทั้งผู้ตายยังได้ทำลายทรัพย์ของจำเลยด้วยเรียกว่าเป็นการกระทำโดยบรรดาลโทษะเหตุปราณี + เขาแล้วก็ไปรับสารภาพความผิดต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุอันควรปราณีลดโทษให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจากคำรับสารภาพในคดีอาญาที่มีเหตุโกรธแค้นส่วนตัว
คำรับ จำเลยฆ่าเพื่อนนักโทษตายในที่คุมขัง แต่รับว่าได้ฆ่าเพราะมีเหตุโกรธแค้นมาดังนี้ คำรับเช่นนี้ควรได้รับความปราณีการลดโทษหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจของศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาประมาทจากความโกรธแค้น การลอบยิงทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ฆ่าคนตายโดยพลั้งพลาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาจากความโกรธแค้น
เหตุพยาบาด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11840/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความโกรธแค้นส่วนตัว ศาลยืนตามอุทธรณ์ให้จำคุกตลอดชีวิต
ว. เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลย อยู่กินด้วยกันที่อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพรต่อมาเลิกกันโดยมิได้จดทะเบียนหย่า ว. ย้ายไปอยู่จังหวัดภูเก็ต ได้รู้จักกับผู้เสียหายและได้อยู่กินฉันสามีภริยากับผู้เสียหาย จำเลยตามไปจังหวัดภูเก็ตและขู่ว่าหากแต่งงานใหม่จะฆ่า ว. กับผู้เสียหาย ต่อมาปี 2547 ว. กับผู้เสียหายได้มางานศพบิดา ว. ที่อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร จำเลยขู่จะฆ่า ว. และผู้เสียหายอีก จน ว. ได้แจ้งความไว้กับเจ้าพนักงานตำรวจ แสดงว่าจำเลยมีความโกรธแค้น ว. และผู้เสียหายและก็คงหาโอกาสที่จะฆ่าบุคคลทั้งสองมาตลอด จนวันเกิดเหตุเมื่อจำเลยทราบว่า ว. และผู้เสียหายมาที่อำเภอหลังสวน จำเลยก็ได้เดินทางจากบ้านจำเลยไปที่บ้านพักของ ว. และผู้เสียหาย เมื่อไปถึงจำเลยก็ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้วหลบหนีไป การที่จำเลยนำอาวุธติดตัวไปด้วยแสดงว่าจำเลยเตรียมอาวุธปืนเพื่อที่จะฆ่าผู้เสียหายไว้แล้ว ทั้งบ้านจำเลยและบ้านที่เกิดเหตุซึ่งอยู่คนละหมู่บ้านกันย่อมมีระยะทางห่างกันพอสมควร ระหว่างที่จำเลยเดินทางไปจำเลยย่อมคิดทบทวนหลายครั้งแล้วว่าจะฆ่าผู้เสียหาย เมื่อไปถึงจำเลยก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายไปเลยโดยไม่ได้พูดคุยอะไรกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 483-484/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากความโกรธแค้น การป้องกันตัวไม่สมเหตุผล
ก่อนเกิดเหตุจำเลยนั่งอยู่คนละโต๊ะกับผู้ตาย จำเลยเป็นฝ่ายเดินมาหาผู้ตายและถามผู้ตายถึงสาเหตุที่ห้ามจำเลยเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่ง จากนั้นจำเลยกับผู้ตายก็โต้เถียงกัน จนจ่าสิบตำรวจ ส. ต้องลุกขึ้นมานั่งร่วมโต๊ะกับผู้ตายและห้ามปรามไม่ให้จำเลยกับผู้ตายโต้เถียงกัน จำเลยจึงออกจากร้านเนื่องจากจ่าสิบตำรวจ ส. ร้องขอ หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที จำเลยกลับมาใหม่และใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย และเล็งอาวุธปืนมายังสิบตำรวจเอก ย. จนจ่าสิบตำรวจ ส. ต้องเข้าไปแย่งอาวุธปืนจากจำเลย พฤติการณ์ของจำเลยแสดงว่าจำเลยยิงผู้ตายเนื่องจากจำเลยกับผู้ตายโต้เถียงกันอย่างรุนแรงและจำเลยยังโกรธแค้นอยู่ แม้จะได้ความว่าเมื่อจำเลยเดินออกจากร้านไปจ่าสิบตำรวจ ส. จะต่อว่าผู้ตายว่าเป็นผู้ใหญ่ไม่น่าใช้คำหยาบ และผู้ตายพูดว่า "พี่ผิดไปแล้ว" ก็ตาม คำหยาบดังกล่าวก็เป็นเพียงคำพูดที่ไม่สมควรอาจยั่วยุให้จำเลยรู้สึกเจ็บแค้นและโมโหเท่านั้น หาได้เป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง อันจะเป็นเหตุให้จำเลยจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัวไม่