คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โทษอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3854/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาโทษอาญาที่ถูกต้อง การลดโทษ และการริบของกลางตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 ประกอบด้วยมาตรา 340 ตรี จำคุก 18 ปี เพิ่มโทษตามมาตรา 93 เป็นจำคุก 27 ปี มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิฐานมีอาวุธปืนจำคุก 1 ปี 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะจำคุกคนละ 6 เดือน เป็นโทษจำคุก 29 ปี ลดโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก19 ปี 4 เดือน จำเลยอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 จำคุก 12 ปี เพิ่มโทษตามมาตรา 93 เป็นจำคุก 18 ปี รวมกับโทษฐานมีอาวุธปืนพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นจำคุก 20 ปี ไม่ได้ลดโทษให้แก่จำเลย เป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยโดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์ เป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษาแก้โดยลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกไว้ 13 ปี 4 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 โดยมิได้ระบุวรรคใด ยังไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษาแก้โดยระบุวรรคให้ถูกต้อง
แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏในทางพิจารณาว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมกับยึดอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนและกระสุนปืนจากจำเลยเป็นของกลางซึ่งเป็นทรัพย์ที่ผู้ใดมีไว้เป็นความผิดอันจะต้องริบเสียทั้งสิ้นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา32 ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มิได้กล่าวไว้ในฟ้องว่า ได้มีการยึดอาวุธปืนและกระสุนปืนเป็นของกลาง ทั้งมิได้มีคำขอให้ศาลสั่งริบ ศาลย่อมริบอาวุธปืนและกระสุนปืนดังกล่าวมิได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก.
(วรรคสุดท้ายวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2530).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3997/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทกฎหมายอาญาที่ถูกต้องโดยไม่เพิ่มโทษ: ศาลอุทธรณ์แก้ข้อหาได้ แต่ต้องไม่หนักกว่าเดิม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 มิได้บัญญัติห้ามมิให้ศาลปรับบทกฎหมายที่ถูกต้องลงโทษแก่จำเลย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคสอง การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคสาม แต่กำหนดโทษของจำเลยยังคงเดิมนั้น เป็นเพียงปรับบทกฎหมายที่ถูกต้องลงโทษแก่จำเลยเท่านั้น หาได้พิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยแต่อย่างใดไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3282/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสั่งให้จำเลยออกจากที่ดินที่บุกรุกในคดีอาญา: ศาลสั่งได้เฉพาะโทษอาญา
ในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานบุกรุกและมีคำขอให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินที่บุกรุกด้วย แม้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานบุกรุก ก็ต้องยกคำขอที่ให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินที่บุกรุก เพราะไม่มีกฎหมายให้อำนาจศาลสั่งตามคำขอเช่นนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นโทษอาญาจากคำสั่ง คปถ. กรณีครอบครองอาวุธสงคราม และการมอบอาวุธตามคำสั่ง
จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองแต่ปรากฏว่าระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 สั่งให้ผู้ที่มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 โดยผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ไม่ต้องรับโทษจึงต้องถือว่าในระหว่างระยะเวลานี้กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้แก่ผู้มีอาวุธปืน และกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองแล้วจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2261/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยจากคำรับสารภาพ: ศาลฎีกาแก้ไขการคำนวณโทษให้ถูกต้องตามสำนวน
จำเลยรับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุม สอบสวนและชั้นพิจารณาของศาล แต่ศาลล่างลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามเพราะเหตุรับสารภาพชั้นจับกุมและสอบสวนเท่านั้น ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดไปจากสำนวนจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย จำเลยฎีกาขอให้ลดโทษให้จำเลยคนละกึ่งหนึ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับลดโทษอาญาตามกฎหมายใหม่ที่ใช้บังคับระหว่างพิจารณาคดี
ในระหว่างพิจารณาคดีนี้ของศาลฎีกาได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ออกใช้บังคับข้อ 14 ของประกาศดังกล่าวแก้ไขเพิ่มเติมให้ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 มีโทษเบากว่าเดิม ศาลฎีกาต้องใช้กฎหมายใหม่นี้ลงโทษจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1830/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจโทษอาญา: ศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษเป็นปรับ โจทก์ฎีกาขอให้กลับคืนโทษเดิมไม่ได้
ดุลพินิจของศาลเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 2 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษปรับสถานเดียวคนละ 200 บาท เป็นเรื่องดุลพินิจของศาลแม้จะแก้ไขมาก ก็ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การพิจารณาความโหดร้ายทารุณเพื่อเพิ่มโทษอาญา
การที่จำเลยใช้มีดโกนทำร้ายผู้ตาย มีบาดแผล 4 แผลยังไม่พอที่จะส่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการทรมานหรือเป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้ายได้ กรณีจึงไม่เข้าลักษณะการกระทำโดยทารุณและโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5) จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายด้วยอาวุธมีด: การพิจารณาความโหดร้ายทารุณเพื่อเพิ่มโทษอาญา
การที่จำเลยใช้มีดโกนทำร้ายผู้ตาย มีบาดแผล 4 แผลยังไม่พอที่จะส่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการทรมานหรือเป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้ายได้ กรณีจึงไม่เข้าลักษณะการกระทำโดยทารุณและโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5) จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักกันไม่ใช่โทษอาญา ไม่อาจนำเวลากักกันมารวมกับโทษจำคุกเพื่อใช้สิทธิฎีกาได้
การกักกันตามประมวลกฎหมายอาญาไม่ใช่โทษอาญา แต่เป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยอันมีลักษณะเบากว่าโทษจำคุก ฉะนั้น จะอนุโลมกำหนดเวลากักกันเป็นกำหนดโทษจำคุกไม่ได้ และไม่ว่ากักกันจะมีกำหนดเวลาต่ำหรือเกินกว่า 5 ปีก็ตามย่อมเป็นอันต้องห้ามฎีกา (ประชุมใหญ่ ครั้งที่21/2511)
of 5