คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่ต้องสืบพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังความเสียหายสาหัสจากรายงานแพทย์: ไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติมหากรายงานระบุชัดเจนถึงระยะเวลาพักฟื้น
ตามรายงานชันสูตรบาดแผลของแพทย์ประกอบบันทึกคำฟ้องด้วยวาจาที่อ้างว่า บาดแผลของผู้เสียหายซึ่งได้รับเป็นอันตรายสาหัสนี้ปรากฏว่า ผู้เสียหายได้รับอันตรายถึงกระดูกเชิงกรานขวาหัก กระดูกไหปลาร้าเคลื่อน กระดูกซี่โครงแถวขวาหัก นายแพทย์ผู้ตรวจลงความเห็นว่า จะต้องรักษาประมาณ 35 วัน ดังนี้แม้โจทก์จะนำคดีมาฟ้องหลังเกิดเหตุเพียง 6 วันแต่ตามรายงานชันสูตรบาดแผลของแพทย์ดังกล่าวนี้เป็นที่เห็นได้ว่า ในระหว่างการรักษาตัวประมาณ 35 วันนั้นผู้เสียหายจะต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาหรือประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน ฉะนั้นเมื่อพิจารณาบันทึกคำฟ้องประกอบรายงานชันสูตรบาดแผลของแพทย์ดังกล่าว ก็เพียงพอที่จะรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสแล้ว โจทก์หาจำเป็นต้องนำพยานสืบประกอบว่า ผู้เสียหายต้องทนทุกขเวทนาประกอบกรณียกิจไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวันจริงอีกไม่ (อ้างฎีกาที่ 195/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1262/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองสัญญาและการพิพากษาค่าจ้างโดยไม่ต้องสืบพยานเมื่อจำเลยไม่ต่อสู้
โจทก์ฟ้องเรียกค่าจ้างดำเนินงานเกี่ยวกับการชำระบัญชีจำเลยรับว่าได้ทำสัญญาจ้าง โจทก์กำหนดอัตราค่าจ้างไว้จริง ไม่ได้ยกข้อต่อสู้อื่นอีกแต่ประการใด เช่นนี้ ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างนี้ได้เลยโดยไม่ต้องสืบพยานหรือวินิจฉัยประการใดอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง หากจำเลยไม่โต้แย้ง ถือเป็นการยอมรับ ทำให้ไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติม
โจทก์บรรยายฟ้องมาชัดเจนแล้ว แต่จำเลยมิได้ปฏิเสธหรือต่อสู้เป็นอย่างอื่นก็ต้องถือว่าจำเลยรับตามนั้นคดีไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบอีกต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าเพื่อใช้เป็นสำนักงานพาณิชย์ ไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า เมื่อจำเลยให้การรับตามฟ้อง โจทก์ไม่ต้องสืบพยาน
ในคดีแพ่ง เมื่อจำเลยให้การรับตามฟ้องของโจทก์แล้วโจทก์ก็ไม่ต้องสืบพยานในข้อที่จำเลยรับ
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นสถานที่ทำการหาใช่เป็นเคหะไม่เพราะมิใช่เป็นที่อยู่อาศัย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ (อ้างฎีกาที่ 1099-1147/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จ – รับสารภาพ – พยานสำคัญ – ศาลพิจารณาได้ – ไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานเบิกความเท็จ เมื่อจำเลยรับสารภาพแล้วศาลจะยกฟ้องเพราะโจทก์ไม่ได้อ้างสำนวนเดิมเป็นพะยานนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษความผิดหลายบทและการไม่ต้องสืบพยานเมื่ออัตราโทษไม่เกิน 10 ปี
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามกฎหมายหลายบท จำเลยให้การรับสารภาพตามข้อหาโจทก์ไม่ติดใจสีบพะยานดังนี้ เมื่อความผิดบทใดมีอัตราโทษอย่างสูงเกินกว่า 10 ปีศาลก็ลงโทษจำเลยมิได้แต่-ไม่เป็นเหตุขัดขวางที่จะลงโทษจำเลยในบทที่มีอัตราโทษอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10424/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพและการพิพากษาในคดีอาญา: ศาลไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติมหากจำเลยให้การรับสารภาพ
ข้อหาความผิดตามที่โจทก์ฟ้องมิใช่เป็นข้อหาความผิดที่มีอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลชั้นต้นย่อมพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 176 วรรคหนึ่ง ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 และ พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 3 และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยย่อมรับฟังเป็นยุติได้ตามที่โจทก์ฟ้อง จำเลยจะโต้เถียงเป็นอย่างอื่นให้ขัดกับที่จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดตามฟ้องหาได้ไม่ ทั้งเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยเพิ่งจะยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ จึงเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 4 ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 และ พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 3
of 2