คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่มาศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2228/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยเมื่อจำเลยทราบวันนัดแต่ไม่มาศาลโดยไม่มีเหตุสมควร มิชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยได้ทราบวันนัดฟังคำพิพากษา แต่จำเลยไม่มาศาลเพียงแต่ทนายความของจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายความนำคำร้องมาขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาโดยอ้างว่าจำเลยไปต่างประเทศ เป็นกรณีที่จำเลยไม่มาศาลโดยไม่มีเหตุสมควร และสงสัยได้ว่าจำเลยหลบหนีหรือจงใจไม่มาฟังคำพิพากษา การที่ศาลชั้นต้นให้ออกหมายจับจำเลยมาเพื่อฟังคำพิพากษา และให้นัดฟังคำพิพากษาใหม่ และเมื่อถึงวันนัดซึ่งพ้นหนึ่งเดือนนับแต่วันออกหมายจับและไม่ได้ตัวจำเลยมาศาล ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยไป จึงเป็นการอ่านคำพิพากษาโดยชอบด้วยกฎหมายและถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษาในวันดังกล่าวแล้ว ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 182 วรรคสาม กรณีจึงไม่มีเหตุให้ไต่สวนเพื่อเพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นและอ่านคำพิพากษาให้จำเลยฟังใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งคำสั่งศาลและการปฏิบัติตามคำสั่ง กรณีไม่อนุญาตดำเนินคดีอย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาแล้วมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสอง หากจำเลยทั้งสองประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้จำเลยทั้งสองนำค่าธรรมเนียมศาลและเงินที่จะต้องชำระ มาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ภายใน 15 วัน มิฉะนั้น ถือว่าไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป แต่คู่ความไม่ไปศาลในวันที่ศาลชั้นต้นนัดฟังคำสั่ง ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้งดการอ่านและให้ถือว่าได้อ่านคำสั่งให้คู่ความฟังโดยชอบแล้วตาม ป.วิ.พ. มาตรา 140 (3) วรรคสอง เช่นนี้ถือว่าจำเลยทั้งสองได้ทราบคำสั่งศาลที่ให้นำค่าธรรมเนียมและเงินที่จะต้องชำระมาวางศาล ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองดำเนินคดีอย่างคนอนาถาซึ่งสั่งในคราวเดียวกันนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะต้องแจ้งให้จำเลยทั้งสองนำค่าธรรมเนียมและเงินที่จะต้องชำระมาวางศาลทราบอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5476/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทนายจำเลยไม่มาศาลตามนัดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ไม่อาจอ้างเหตุติดว่าความอื่นเพื่อขอเลื่อนคดีได้
การที่ทนายจำเลยได้ลงลายมือชื่อรับทราบวันนัดพร้อมของศาลซึ่งเป็นการนัดพร้อมเพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินคดีตามข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2540 แต่เมื่อถึงกำหนดนัดดังกล่าว ทนายจำเลยไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่มาศาลไม่ได้ให้ศาลทราบก่อนวันนัด อีกทั้งไม่ได้มอบฉันทะให้ผู้ใดมาแจ้งในวันนัด คงมีแต่ทนายโจทก์มาศาล ย่อมเห็นได้ว่าเป็นความผิดของทนายจำเลยเอง ดังนั้นจำเลยจะยกเอาเหตุที่ตนติดว่าความที่ศาลอื่นซึ่งได้นัดไว้ก่อนแล้วว่าเป็นเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ตาม มาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ และวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาเพื่อขอเลื่อนคดีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4528/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเนื่องจากโจทก์ไม่มาศาล
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะโจทก์ไม่มาศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ ย่อมต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5541/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดชอบของผู้รับมอบอำนาจในการตรวจสอบข้อมูลนัดพิจารณาคดี การไม่แจ้งเหตุจำเป็นในการไม่มาศาล
เมื่อคู่ความนำคดีมาสู่ศาลจึงมีหน้าที่ต้องนำข้อเท็จจริงมาแสดงต่อศาล หากมีความจำเป็นจนมิอาจมาศาลได้ก็จำต้องแจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุแห่งความจำเป็นดังกล่าว คดีนี้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์มาศาลและได้กลับไปเพราะตรวจบัญชีนัดความของศาลในช่วงเช้าแล้วไม่พบรายชื่อคู่ความ โดยมิได้ตรวจดูบัญชีนัดความในช่วงบ่าย ทั้ง ๆ ที่คดีของโจทก์ได้นัดไว้ในช่วงบ่าย และมิได้ติดต่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่ศาลแต่อย่างใดจึงเป็นความผิดพลาดของผู้รับมอบอำนาจโจทก์เอง ดังนี้จึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5019/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลตามนัดโดยไม่มีเหตุสมควร ศาลไม่ยกเลิกคำสั่งให้ยกฟ้อง
การที่จะให้ศาลชั้นต้นยกคดีโจทก์ขึ้นพิจารณาใหม่ได้นั้น โจทก์จะต้องแสดงให้เห็นว่า มีเหตุสมควรที่มาศาลในวันนัดไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181 คดีนี้ศาลชั้นต้นนัดสอบถามคำให้การจำเลยและนัดสืบพยานโจทก์ โดย ได้ส่งหมายนัดให้โจทก์ตามที่อยู่ที่อยู่ที่ปรากฏในคำฟ้อง และพ.ทนายความโจทก์ตามที่อยู่ที่ปรากฏในใบแต่งทนายความของพ.ตั้งแต่วันที่9โดยมีช.ซึ่งอยู่ในสถานที่เดียวกับโจทก์และทนายความโจทก์เป็นผู้รับหมายไว้แทนการส่งหมายนัดของศาลจึงเป็นไปโดยชอบและต้องถือว่าโจทก์และทนายความโจทก์ได้ทราบวันนัดของศาลก่อนถึงวันนัดแล้ว การที่โจทก์อ้างว่า พ.ทนายความโจทก์ทราบนัดล่าช้าเพราะเหตุสำนักงานใหญ่และสำนักงานฝ่ายกฎหมายของโจทก์อยู่คนละที่กันก็ดี และ พ.เดินทางไปภูมิลำเนาเดิมเพื่อพิธีไหว้สารทจีนตั้งแต่ก่อนวันที่รับหมายไว้แทนนั้นก็ดี ล้วนแต่เป็นวิธีปฏิบัติภายในของโจทก์และทนายความโจทก์มิใช่กรณีที่โจทก์มีเหตุสมควรที่มาศาลในวันนัดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6114/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลตามนัดสืบพยานและการอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ การดำเนินการทางกระบวนพิจารณาต้องเป็นไปตามขั้นตอน
ผู้ร้องไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานผู้ร้องชั้นร้องขัดทรัพย์ศาลชั้นต้นถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาสืบ ให้ยกคำร้อง การที่ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นโดยอ้างว่ามิได้มีเจตนาที่จะไม่ไปศาลตามกำหนดนัดและได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายขอเลื่อนคดี อุทธรณ์ของผู้ร้องเท่ากับเป็นการขอให้ศาลพิจารณาคดีของผู้ร้องใหม่ซึ่งเป็นกรณีต้องบังคับตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 153 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207,208 และ 209การที่ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์โดยมิได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบแม้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6114/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลตามนัดสืบพยานและการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบตามกฎหมายล้มละลาย
ผู้ร้องไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานผู้ร้องชั้นร้องขัดทรัพย์ศาลชั้นต้นถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาสืบให้ยกคำร้องการที่ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นโดยอ้างว่ามิได้มีเจตนาที่จะไม่ไปศาลตามกำหนดนัดและได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายขอเลื่อนคดีอุทธรณ์ของผู้ร้องเท่ากับเป็นการขอให้ศาลพิจารณาคดีของผู้ร้องใหม่ซึ่งเป็นกรณีต้องบังคับตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯมาตรา153และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา207,208และ209การที่ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์โดยมิได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบแม้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2389/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่ต้องเป็นการพิจารณาโดยขาดนัด ศาลไม่ถือว่าผู้ไม่มาศาลเป็นขาดนัดหากทราบและไม่ติดใจสืบพยาน
กรณีที่ผู้ร้องจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้จะต้องเป็นเรื่องการพิจารณาโดยขาดนัดแต่คดีนี้เมื่อผู้ร้องไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ร้องทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาจึงให้ถือว่าผู้ร้องไม่ติดใจจะสืบพยานและนัดสืบพยานผู้คัดค้านต่อมามีคำสั่งให้ผู้ร้องแพ้คดีเห็นได้ว่าศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งแสดงให้ว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณาจึงไม่ใช่การพิจารณาโดยขาดนัดผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลตามนัดไต่สวนมูลฟ้องส่งผลให้ศาลยกฟ้อง แม้จะมีการไต่สวนพยานไปแล้ว
การที่จะพิจารณาว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบไปแล้วในการไต่สวนมูลฟ้องจะพอฟังว่าคดีมีมูลหรือไม่ ต้องเป็นกรณีที่โจทก์มาศาลตามกำหนดนัดแล้วไม่ติดใจนำพยานเข้าไต่สวน ต่อไป แต่เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งที่สองแม้จะไม่ใช่วันนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรก ศาลก็ต้องยกฟ้องโจทก์เสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 วรรคแรก โดยไม่ต้องวินิจฉัยพยานโจทก์ที่สืบไปแล้วในนัดก่อนว่าคดีมีมูลหรือไม่
of 7