พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2104/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงปืนโดยไม่เจตนาทำร้ายหรือฆ่า: พฤติการณ์ที่แสดงถึงการไม่มีเจตนา
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปยังบ้านที่ผู้เสียหายพักซึ่งอยู่ห่างประมาณ 20 เมตร และอยู่ฝั่งคลองตรงกันข้าม กระสุนปืนถูกหลังคาบ้าน กระจกหน้าต่างชั้นบนซึ่งอยู่สูงจากพื้นชั้นบนประมาณ 2 เมตร จำนวนหลายนัด ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันจำเลยยิงเป็นเวลานาน 30 นาที ไม่ปรากฏว่าจำเลยทราบว่ามีผู้เสียหายหรือบุคคลอื่นอยู่ในบ้าน และจำเลยกับผู้เสียหายตลอดจนบุคคลเหล่านั้นไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน หลังจากยิงแล้วจำเลยมิได้หลบหนีไปไหน พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่ายิงโดยไม่ประสงค์ให้ถูกใคร ไม่มีทั้งเจตนาฆ่าหรือเจตนาทำร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า - การยิงปืนไปที่กองมะพร้าว - ไม่ถึงแก่ความตาย - ยกฟ้อง
จำเลยยิงปืนลูกซองยาว 1 นัดไปที่กองมะพร้าว 400 ลูกซึ่งบรรทุกอยู่ในกระบะรถยนต์สูงถึงหลังคารถเมื่อรถแล่นเลยตำแหน่งที่จำเลยยืนไม่ต่ำกว่า 3 - 4 วา จำเลยย่อมเล็งเห็นแล้วว่าไม่มีทางที่กระสุนปืนจะทะลุกองมะพร้าวซึ่งสูงถึงหลังคารถไปถูกผู้เสียหายที่นั่งในเก๋งหน้ารถได้ ฟังได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาในกรณีเมาสุราและยิงปืนโดยไม่มีเจตนาทำร้ายผู้อื่น ศาลยกฟ้อง
จำเลยเสพสุราจนเมามากครองสติไม่ได้ ไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหายหรือผู้ใดในบริเวณที่เกิดเหตุเมื่อเดินออกมาที่ลานบ้านผู้เสียหายจำเลยกดไกปืน ทำให้ปืนลั่นโดยมิได้เจตนาจะยิงทำร้ายผู้ใดแต่เนื่องจากปืนของกลางเป็นปืนยิงเร็วและยิงกระสุนเป็นชุด จำเลยไม่สามารถบังคับทิศทางของกระสุนปืนได้ กระสุนปืนบางนัดจึงถูกบ้านผู้เสียหายหาใช่เจตนายิงใส่บ้านผู้เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายกับพวกที่อยู่ในบ้าน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3699-3700/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดครองที่ดินในเขตป่าสงวนโดยไม่มีเจตนา กฎหมายกำหนดให้ต้องมีเจตนาในการกระทำผิด จึงไม่มีความผิด
การที่จำเลยยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยจำเลยไม่ทราบว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ การกระทำ ของจำเลยจึงขาดเจตนาอันเป็นองค์ประกอบความผิด จำเลยไม่มีความผิด ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14
คำขอของโจทก์ที่ขอให้ศาลสั่งจำเลยกับบริวารออกไปจากที่ดินที่จำเลยยึดถือครอบครองนั้น เป็นคำขอในวิธีการอุปกรณ์ของโทษตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 31 วรรคท้าย เมื่อศาลมิได้พิพากษาชี้ขาดว่าจำเลยกระทำความผิดตามมาตรานี้แล้วศาลย่อมไม่มีอำนาจสั่งให้ตามที่โจทก์ขอได้
คำขอของโจทก์ที่ขอให้ศาลสั่งจำเลยกับบริวารออกไปจากที่ดินที่จำเลยยึดถือครอบครองนั้น เป็นคำขอในวิธีการอุปกรณ์ของโทษตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 31 วรรคท้าย เมื่อศาลมิได้พิพากษาชี้ขาดว่าจำเลยกระทำความผิดตามมาตรานี้แล้วศาลย่อมไม่มีอำนาจสั่งให้ตามที่โจทก์ขอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายในขณะชกต่อย เมาสุรา ไม่มีเจตนาฆ่า ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
จำเลยกับผู้ตายไม่เคยมีสาเหตุกันมาก่อน เหตุเกิดเพราะต่างคนต่างเมาสุราแล้วชกต่อยทำร้ายกัน จำเลยแทงผู้ตายในที่มืดเพียงทีเดียวขณะชกต่อย ติดพันกันอยู่โดยไม่มีโอกาสเลือกแทง แต่บังเอิญถูกที่สำคัญผู้ตายจึงถึงแก่ความตายจำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม มาตรา 290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2206/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความข่มขืนโดยไม่มีเจตนาดำเนินคดี ถือไม่ใช่คำร้องทุกข์ พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวน
ผู้เสียหายไปแจ้งเรื่องถูกจำเลยข่มขืนกระทำชำเราต่อผู้ใหญ่บ้านโดยเล่าเรื่องให้ฟัง แล้วผู้เสียหายบอกผู้ใหญ่บ้านว่ารอดูไปก่อนหากย้อนมาอีกก็จะเอาเรื่อง แต่ถ้าไม่มาอีกก็แล้วไป แสดงว่าผู้เสียหายเพียงแจ้งไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ จึงไม่ใช่คำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 (7) พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวยตามที่พนักงานอัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121 วรรคสอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2206/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความข่มขืนโดยไม่มีเจตนาให้ดำเนินคดี ไม่เป็นคำร้องทุกข์ พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวน
ผู้เสียหายไปแจ้งเรื่องถูกจำเลยข่มขืนกระทำชำเราต่อผู้ใหญ่บ้านโดยเล่าเรื่องให้ฟัง แล้วผู้เสียหายบอกผู้ใหญ่บ้านว่ารอดูไปก่อนหากย้อนมาอีกก็จะเอาเรื่องแต่ถ้าไม่มาอีกก็แล้วไปแสดงว่าผู้เสียหายเพียงแจ้งไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษจึงไม่ใช่คำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2(7) พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนตามที่พนักงานอัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1295/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตออกเช็ค – การฟ้องคดีอาญาฐานออกเช็คโดยไม่มีเจตนาจะให้ใช้ได้ แม้ผู้รับเช็คไม่ขอให้ประทับตรา
การที่จำเลยออกเช็คลงวันที่ล่วงหน้าไปแล้ว ต่อมาจำเลยไปตกลงกับธนาคารว่า เช็คของจำเลยต้องประทับตราด้วยจึงจะจ่ายเงินได้ เมื่อเช็คที่จำเลยออกไปก่อนที่จะมีการตกลงกับธนาคารดังกล่าวถึงกำหนด โจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยให้ประทับตราผู้สั่งจ่าย ทั้งจำเลยก็สั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คประกอบกับจำเลยมีหนี้ตามเช็คเป็นยอดเงินอีกจำนวนมาก ซึ่งธนาคารไม่ยอมผ่านเช็คให้พฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต ข้อที่โจทก์มิได้ให้จำเลยประทับตราก่อน จึงไม่เป็นข้ออ้างตามกฎหมายที่จะให้จำเลยพ้นความรับผิด
โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค ครั้นเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คเข้าบัญชี เพื่อเรียกเก็บเงิน เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คไม่ว่าด้วยเหตุใด โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายได้
จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสองฉบับ เป็นความผิดสองกระทง
ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษรวมกันมาเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลฎีกาเรียงกระทงลงโทษ แต่กำหนดโทษให้เป็นไปตามเดิมได้แม้โจทก์จะมิได้ฎีกา
โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค ครั้นเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คเข้าบัญชี เพื่อเรียกเก็บเงิน เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คไม่ว่าด้วยเหตุใด โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายได้
จำเลยออกเช็คสองฉบับชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสองฉบับ เป็นความผิดสองกระทง
ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษรวมกันมาเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลฎีกาเรียงกระทงลงโทษ แต่กำหนดโทษให้เป็นไปตามเดิมได้แม้โจทก์จะมิได้ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า: การทำร้ายร่างกายต่อเนื่องจนผู้เสียหายเกือบเสียชีวิต ไม่ถือเป็นเจตนาฆ่าหากไม่มีพฤติการณ์บ่งชี้
จำเลยเตะผู้เสียหาย 2 ที แล้วตบ 2 ที ผู้เสียหายล้มลงในนาซึ่งมีน้ำลึกประมาณ 1 ศอก จำเลยเอามือกดศีรษะผู้เสียหายลงในน้ำประมาณ 1 อึดใจ มีคนอื่นมาช่วยแยกคนทั้งสองออกจากกัน และดึงผู้เสียหายขึ้นจากน้ำ ผู้เสียหายไม่รู้สึกตัว ต่อมาประมาณ 1 นาทีจึงรู้สึกตัวถ้าไม่ดึงผู้เสียหายขึ้นจากน้ำ ผู้เสียหายก็คงตาย แต่ได้ความว่า จำเลยไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้เสียหายมาก่อน เหตุเกิดขึ้นเนื่องจากได้มีการโต้เถียงกันเกี่ยวกับจ้างทำนา การตบเตะและกดศีรษะลงในน้ำเกิดขึ้นโดยปัจจุบัน การกดน้ำเป็นการกระทำต่อเนื่องจากการตบเตะ และจำเลยมีมีดอยู่ก็มิได้ใช้มีดทำร้าย ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าในคดีทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาตัดสินว่าการทำร้ายโดยไม่มีเหตุโกรธเคืองรุนแรง ไม่ถือเป็นเจตนาฆ่า แม้ใช้มีด
จำเลยกับผู้เสียหายมีปากเสียงกันก่อนด้วยเรื่องผู้เสียหายเลี้ยงสุกร มูลสุกรส่งกลิ่นเหม็นไปถึงห้องที่จำเลยเช่าแล้วจำเลยได้ไปเอามีดปังตอปลายแหลมจากห้องที่จำเลยเช่ามาฟันและแทงผู้เสียหายเป็นบาดแผลที่ขมับ ข้อศอก รักแร้ และคาง ถึงสาหัส ดังนี้เป็นการทำร้ายในปัจจุบันทันทีนั้น เมื่อไม่มีเรื่องอื่นถึงขนาดจะเอาชีวิตกันมาก่อน แม้มีดที่จำเลยใช้ทำร้ายอาจทำให้ถึงตายได้ แต่บาดแผลแต่ละแผลที่ผู้เสียหายได้รับไม่ร้ายแรงแสดงว่าจำเลยฟันและแทงไปตามธรรมดาตามโอกาสอำนวยไม่ได้เลือกหรือตั้งใจทำร้ายที่อวัยวะส่วนสำคัญ เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่า