พบผลลัพธ์ทั้งหมด 21 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1879/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำในระหว่างกักกันหลังพ้นโทษจำคุก
จำเลยต้องโทษจำคุกจนพ้นโทษจำคุกแล้ว แต่ยังอยู่ในระหว่างกักกัน จำเลยกลับมากระทำความผิดอีก ดังนี้ ต้องเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1879/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบสำหรับผู้กระทำผิดซ้ำระหว่างกักกันหลังพ้นโทษจำคุก
จำเลยต้องโทษจำคุกจนพ้นโทษจำคุกแล้ว แต่ยังอยู่ในระหว่างกักกัน จำเลยกลับมากระทำความผิดอีก ดังนี้ต้องเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบและการบังคับตามสัญญาทัณฑ์บล: ศาลไม่เพิ่มโทษหากประกันทัณฑ์บลไม่ใช่การลงโทษ และการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสัญญาทัณฑ์บลต้องทำในคดีก่อน
จำเลยได้กระทำผิด และศาลได้เรียกประกันทัณฑ์บลจากผู้ปกครองจำเลย ต่อมาจำเลยได้กระทำความผิดขึ้นอีกภายในกำหนดทัณฑ์บลนั้น ศาลจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบแก่จำเลยในคดีครั้งหลังไม่ได้ เพราะการที่ศาลเรียกประกันทัณฑ์บลจากผู้ปกครองของจำเลยในคดีก่อน หาใช่เป็นการลงโทษจำเลยไม่ ส่วนการที่ขอให้ปรับผู้ปกครองฐานผิดสัญญาทัณฑ์บลนั้นก็เป็นเรื่องที่โจทก์ควรขอในคดีก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทัณฑ์บนไม่ใช่การลงโทษ เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้ และการผิดสัญญาทัณฑ์บนต้องฟ้องในคดีก่อน
จำเลยได้กระทำผิดและศาลได้เรียกประกันทัณฑ์บนจากผู้ปกครองจำเลย ต่อมาจำเลยได้กระทำความผิดขึ้นอีกภายในกำหนดทัณฑ์บนนั้น ศาลจะเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบแก่จำเลยในคดีครั้งหลังไม่ได้ เพราะการที่ศาลเรียกประกันทัณฑ์บนจากผู้ปกครองของจำเลยในคดีก่อน หาใช่เป็นการลงโทษจำเลยไม่ ส่วนการที่ขอให้ปรับผู้ปกครองฐานผิดสัญญาทัณฑ์บนนั้นก็เป็นเรื่องที่โจทก์ควรขอในคคีก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ แม้ไม่ขอตามมาตรา 74 ก็เพิ่มตามมาตรา 72 ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายหลายบทหลายกระทงตามคำบรรยายฟ้องเกี่ยวกับขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบนั้น กล่าวว่าจำเลยเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษมาแล้วตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง พ้นโทษครั้งหลังมายังไม่เกิน 5 ปี ก็กลับมากระทำผิดในคดีนี้อีก ย่อมหมายความถึงความผิดทุกกระทง แม้โจทก์จะอ้างมาตรา 74 เมื่อศาลเห็นว่าความผิดกระทงใดเพิ่มโทษตามมาตรา 74 ไม่ได้ ก็ชอบที่จะเพิ่มตามมาตรา 72 ซึ่งเป็นบทเบากว่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเพิ่มโทษจำเลยฐานไม่เข็ดหลาบ จำเป็นต้องระบุมาตราในฟ้องหรือไม่
โจทก์กล่าวในฟ้องเรื่องจำเลยเคยต้องโทษและพ้นโทษและขอให้เพิ่มโทษแล้ว แม้มิได้อ้างบทที่ขอให้เพิ่มโทษ ก็ย่อมเพิ่มโทษจำเลยได้ อ้างฎีกาที่ 840/86
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบกับจำเลยที่รับสารภาพ ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่สามารถเพิ่มโทษได้
เมื่อปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำผิดมาก่อนและโจทก์ขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบมาในฟ้องด้วย ดังนี้ ศาลจะไม่เพิ่มโทษจำเลยเพราะจำเลยรับสารภาพมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ ต้องขอในฟ้อง หรือเพิ่มเติมฟ้องก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา
ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยฐานไม่เข็ดหลาบ โดยโจทก์มิกล่าวมาในฟ้อง หรือขอเพิ่มเติมฟ้องก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษามิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การภาคทัณฑ์เด็กในคดีลักทรัพย์ ไม่ถือเป็นโทษ ทำให้ไม่สามารถใช้เหตุไม่เข็ดหลาบเพิ่มโทษได้
การที่ศาลฎีกาพิพากษาให้ภาคภัณฑ์จำเลยซึ่งเป็นเด็กตามมาตรา 57 นั้นหาใช่เป็นโทษตามมาตรา 12 ไม่ หากว่าจำเลยผู้นั้นมากระทำผิดอีกภายในกำหนด 5 ปี จะเสียโทษฐานไม่เข็ดหลาบไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2610/2566
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษใหม่ตามกฎหมายยาเสพติดที่แก้ไข และการเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ
คำว่า "กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิด หรือกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด" ตาม ป.อ. มาตรา 3 นั้น หมายถึงกฎหมายที่บัญญัติถึงการกระทำอันเป็นความผิดหรือบัญญัติถึงโทษ หรือโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิด ซึ่งในคดีนี้ได้แก่บทความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่เสพเมทแอมเฟตามีนกับฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และบทกฎหมายให้เพิ่มโทษแก่ผู้กระทำความผิด หากมีการแก้ไขบทกฎหมายดังกล่าวในทางที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด และมีผลให้จำเลยได้รับโทษน้อยลง ศาลก็มีอำนาจแก้ไขโทษที่จะลงแก่จำเลยได้ภายในเงื่อนไขของมาตรา 3 (1) ในความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่เสพเมทแอมเฟตามีน กับฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ศาลชั้นต้นวางโทษจำคุก 8 เดือน กับจำคุก 10 ปี และปรับ 700,000 บาท ตามลำดับ เมื่อโทษที่กำหนดในภายหลังสำหรับความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่เสพเมทแอมเฟตามีน ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง, 157/1 วรรคสอง ประกอบ ป.ยาเสพติด มาตรา 162 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี 4 เดือน หรือปรับไม่เกิน 26,666.66 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นความผิดตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังตาม ป.ยาเสพติด มาตรา 90, 145 วรรคหนึ่ง มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี และปรับไม่เกิน 1,500,000 บาท ดังนั้น โทษที่กำหนดตามคำพิพากษาจึงไม่หนักกว่าโทษที่กำหนดตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง ความผิดทั้งสองฐานจึงไม่อยู่ในบังคับตาม ป.อ. มาตรา 3 (1) ที่ศาลจะกำหนดโทษจำเลยใหม่ได้
สำหรับประเด็นเรื่องการเพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 97 ถูกยกเลิกไปโดย พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 มาตรา 4 ส่วน ป. ยาเสพติด ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ก็ไม่มีบทบัญญัติให้เพิ่มโทษได้ แม้กฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะมิได้บัญญัติเรื่องการเพิ่มโทษไว้ แต่ก็มิได้หมายความว่าศาลไม่อาจเพิ่มโทษตามบทบัญญัติที่ใช้แก่ความผิดทั่วไปตาม ป.อ. เมื่อจำเลยกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษอีกโดยไม่เข็ดหลาบ และโจทก์มีคำขอให้เพิ่มโทษตามกฎหมายเดิมไว้แล้ว ย่อมถือได้ว่าโจทก์มีความประสงค์จะขอเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบและได้กล่าวในฟ้องแล้ว ศาลย่อมมีอำนาจเพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสาม ตาม ป.อ. มาตรา 92 ที่เป็นบททั่วไปได้ และถือว่าการเพิ่มโทษเป็นส่วนหนึ่งของโทษตามคำพิพากษา ที่ศาลชั้นต้นกำหนดโทษให้แก่จำเลยใหม่จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว หาใช่เป็นการแก้ไขคำพิพากษาอันถึงที่สุดอันเป็นการต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 190 ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 มาตรา 3 ไม่
สำหรับประเด็นเรื่องการเพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 97 ถูกยกเลิกไปโดย พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 มาตรา 4 ส่วน ป. ยาเสพติด ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ก็ไม่มีบทบัญญัติให้เพิ่มโทษได้ แม้กฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะมิได้บัญญัติเรื่องการเพิ่มโทษไว้ แต่ก็มิได้หมายความว่าศาลไม่อาจเพิ่มโทษตามบทบัญญัติที่ใช้แก่ความผิดทั่วไปตาม ป.อ. เมื่อจำเลยกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษอีกโดยไม่เข็ดหลาบ และโจทก์มีคำขอให้เพิ่มโทษตามกฎหมายเดิมไว้แล้ว ย่อมถือได้ว่าโจทก์มีความประสงค์จะขอเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบและได้กล่าวในฟ้องแล้ว ศาลย่อมมีอำนาจเพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสาม ตาม ป.อ. มาตรา 92 ที่เป็นบททั่วไปได้ และถือว่าการเพิ่มโทษเป็นส่วนหนึ่งของโทษตามคำพิพากษา ที่ศาลชั้นต้นกำหนดโทษให้แก่จำเลยใหม่จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว หาใช่เป็นการแก้ไขคำพิพากษาอันถึงที่สุดอันเป็นการต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 190 ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 มาตรา 3 ไม่