คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กระทำผิด

ความผิดฐานไม่ไปขึ้นทะเบียนทหารภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้โดยไม่มีข้อแก้ตัวตามกฎหมายนั้น เกิดขึ้นในขณะที่ละเลยไม่ไปขึ้นทะเบียนภายในกำหนดของกฎหมาย ครั้งเดียวมิได้เป็นความผิดต่อเนื่องเรื่อยๆ มา ประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงวันที่ 28 ธ.ค.2483ที่ให้ยืดกำหนดเวลาขึ้นทะเบียนทหารตามพ.ร.บ.รับราชการทหาร (ฉบับที่ 3) 2483 มาตรา 17 ไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2484 นั้น มีผลเพียงไม่ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการว่าจำเลยกระทำผิดเท่านั้น ฉะนั้นหากจำเลยกระทำผิดไว้แล้วก็ต้องถือว่า การกระทำผิดของจำเลยมีอยู่อย่างเดิม มิใช่เพิ่งกระทำผิดเมื่อพ้นกำหนดประกาศของรัฐมนตรี จำเลยไม่ขึ้นทะเบียนทหารเป็นความผิดเมื่อ วันที่ 1 ก.พ. แต่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดวันที่ 1 มี.ค. ดังนี้แม้จำเลยรับสารภาพก็ต้องยกฟ้อง

กรณีปรากฏว่าเป็นคดีวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นผู้ทำร้ายก็ลงโทษจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่696/2485)

โจทฟ้องว่าจำเลยกะทำผิดถานฉ้อโกงไนระหว่างคดีที่ต้องขึ้นสาลทหาน แม้โจทจะซาบความผิดของจำเลยพายหลัง ก็ไม่ทำไห้วันกะทำผิดของจำเลยเปลี่ยนแปลงไป

ถ้าได้กระทำความผิดอันแรกแล้วย่อมไม่มีความผิดฐานรับของโจร

สมคบกันมากระทำผิดอย่างเดียวกัน ต้องเป็นตัวการด้วยกันไม่จำเป็นต้องได้ลงมือทำผิดด้วยกันทุกคน.

สมคบกันมากระทำผิดอย่างเดียวกัน ต้องเป็นตัวการด้วยกันโดยไม่จำเป็นต้องได้ลงมือทำผิดด้วยกันทุกคน

แจ้งชื่อและนามสกุลของผู้อื่นในการฝ่ากเงินออมสินต่อเจ้าพนักงานออมสินแล้วฝากเงินและลงนามในนามที่แจ้งนั้น เป็นผิดฐานแจ้งความเท็จ

ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานรับผิดซึ่งเป็นของผู้ร้ายสวนเพ็ชร์ไม่ฟังว่าเป็นของผู้ใด จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องและให้คืนนิลกับเพ็ชร์ให้จำเลย โจทก์ฎีกาขอให้ลงดทษ เมื่อศาลฎีกาฟังว่าเพ็ชร์เป็นของผู้เสียหายซึ่งจำเป็นของร้ายก็สั่งให้คืนเพ็ชร์ให้ผู้เสียหายได้

จำเลยทำผิดครั้งที่ 3 ในขณะที่กำลังรับโทษครั้งที่ 2 และครั้งที่ 1 รวมกันโดยที่ศาลได้ยกเอาโทษที่รอการลงอาญาไว้มารวมเข้าด้วยนั้น จะเพิ่มโทษจำเลยสำหรับความผิดครั้งที่ 3 ตามมาตรา 72 ไม่ได้

+ฟ้อง โจทก์ได้กล่าว+การกระทำของจำเลย+ได้ช่วยอุปการะแก่การกระทำผิดอันหมายถึงความ+ผู้สมรู้ ทั้งได้อ้างบทกฎหมายเรื่องตัวการผู้กระทำผิดไว้ในฟ้องแล้ว แม้โจทก์จะมิได้อ้างมาตรา 65 + ศาลก็ลงโทษจำเลย+ได้