พบผลลัพธ์ทั้งหมด 325 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3363/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าในการทำร้ายร่างกาย, ความผิดหลายกรรมต่างกัน, และความสมบูรณ์ของคำฟ้อง
จำเลยแทงผู้เสียหายหลายครั้งติด ๆ กัน ครั้งแรกแทงถูกที่ด้านหลังบริเวณหัวไหล่ ผู้เสียหายล้มลง พอลุกขึ้นจำเลยก็แทงที่ใต้รักแร้ข้างซ้ายซึ่งเป็นบริเวณใกล้หัวใจ เมื่อมีดหักจำเลยยังใช้ส่วนที่เหลือแทงบริเวณหลังผู้เสียหายอีก 3 ครั้ง มีดมีความยาวทั้งด้ามและตัวมีดถึง 9 นิ้ว เป็นมีดสำหรับปอกผลไม้มีปลายแหลมสามารถใช้เป็นอาวุธทำร้ายร่างกายถึงตายได้เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
รายงานผลการชันสูตรบาดแผลแม้จะเป็นภาษาอังกฤษก็เป็นเพียงส่วนประกอบของคำฟ้องที่บอกลักษณะของบาดแผล ซึ่งโจทก์จะนำสืบว่าผู้เสียหายได้รับบาดแผลอย่างใด และภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายเช่นไรในชั้นพิจารณาได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมจี้ขู่บังคับเอามือจับแขนผู้เสียหายลากลงบันได เมื่อผู้เสียหายขัดขืนและร้องให้คนช่วย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายโดยจำเลยมีเจตนาขึ้นใหม่ เพื่อจะฆ่าผู้เสียหายอันเป็นการปกปิดการกระทำของจำเลยหรือให้การกระทำของจำเลยบรรลุผลตามที่จำเลยมีเจตนามาแต่แรกว่าจะเอาตัวผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร การกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาคนละตอน จึงเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน
รายงานผลการชันสูตรบาดแผลแม้จะเป็นภาษาอังกฤษก็เป็นเพียงส่วนประกอบของคำฟ้องที่บอกลักษณะของบาดแผล ซึ่งโจทก์จะนำสืบว่าผู้เสียหายได้รับบาดแผลอย่างใด และภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายเช่นไรในชั้นพิจารณาได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมจี้ขู่บังคับเอามือจับแขนผู้เสียหายลากลงบันได เมื่อผู้เสียหายขัดขืนและร้องให้คนช่วย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายโดยจำเลยมีเจตนาขึ้นใหม่ เพื่อจะฆ่าผู้เสียหายอันเป็นการปกปิดการกระทำของจำเลยหรือให้การกระทำของจำเลยบรรลุผลตามที่จำเลยมีเจตนามาแต่แรกว่าจะเอาตัวผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร การกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาคนละตอน จึงเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3363/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงหลายครั้ง และความผิดหลายกรรมต่างกัน กรณีบุกรุก ทำร้ายร่างกาย และอนาจาร
จำเลยแทงผู้เสียหายหลายครั้งติดๆ กัน ครั้งแรกแทงถูกที่ด้านหลังบริเวณหัวไหล่ ผู้เสียหายล้มลง พอลุกขึ้นจำเลยก็แทงที่ใต้รักแร้ข้างซ้ายซึ่งเป็นบริเวณใกล้หัวใจ เมื่อมีดหักจำเลยยังใช้ส่วนที่เหลือแทงบริเวณหลังผู้เสียหายอีก 3 ครั้ง มีดมีความยาวทั้งด้ามและตัวมีดถึง 9 นิ้ว เป็นมีดสำหรับปอกผลไม้มีปลายแหลมสามารถใช้เป็นอาวุธทำร้ายร่างกายถึงตายได้เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
รายงานผลการชันสูตรบาดแผลแม้จะเป็นภาษาอังกฤษก็เป็นเพียงส่วนประกอบของคำฟ้องที่บอกลักษณะของบาดแผล ซึ่งโจทก์จะนำสืบว่าผู้เสียหายได้รับบาดแผลอย่างใด และภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายเช่นไรในชั้นพิจารณาได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมจี้ขู่บังคับเอามือจับแขนผู้เสียหายลากลงบันไดเมื่อผู้เสียหายขัดขืนและร้องให้คนช่วย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายโดยจำเลยมีเจตนาขึ้นใหม่เพื่อจะฆ่าผู้เสียหายอันเป็นการปกปิดการกระทำของจำเลยหรือให้การกระทำของจำเลยบรรลุผลตามที่จำเลยมีเจตนามาแต่แรกว่าจะเอาตัวผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารการกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาคนละตอน จึงเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน
รายงานผลการชันสูตรบาดแผลแม้จะเป็นภาษาอังกฤษก็เป็นเพียงส่วนประกอบของคำฟ้องที่บอกลักษณะของบาดแผล ซึ่งโจทก์จะนำสืบว่าผู้เสียหายได้รับบาดแผลอย่างใด และภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายเช่นไรในชั้นพิจารณาได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมจี้ขู่บังคับเอามือจับแขนผู้เสียหายลากลงบันไดเมื่อผู้เสียหายขัดขืนและร้องให้คนช่วย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายโดยจำเลยมีเจตนาขึ้นใหม่เพื่อจะฆ่าผู้เสียหายอันเป็นการปกปิดการกระทำของจำเลยหรือให้การกระทำของจำเลยบรรลุผลตามที่จำเลยมีเจตนามาแต่แรกว่าจะเอาตัวผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารการกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาคนละตอน จึงเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3095/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดหลายกรรมต่อเนื่อง: บุกรุก-ฉุดคร่า-ข่มขืน ศาลพิจารณาเป็นกรรมเดียวหรือไม่
การบุกรุกเข้าไปในบ้านในเวลากลางคืนแล้วฉุดคร่าผู้เยาว์พาหนีไปเพื่อการอนาจารในลักษณะเป็นการพรากผู้เยาว์ด้วยนั้น มิใช่การกระทำ 3 กรรม เพราะการบุกรุกเข้าไปโดยมีเจตนาประสงค์ต่อผลคือการฉุดคร่าผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารได้กระทำขึ้นในคราวเดียวกัน พร้อมกัน จึงเป็นกรรมเดียวกัน ซึ่งเป็นความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365, 284 กรรมหนึ่ง และเป็นการพรากผู้เยาว์ตาม มาตรา 318 อีกกรรมหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2684/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: แจ้งความเท็จ, ฟ้องเท็จ, เบิกความเท็จ ต้องลงโทษทุกกรรม
จำเลยกระทำความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ แม้ความที่เป็นเท็จนั้นจะเป็นเรื่องเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2452/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงกฎหมายระหว่างการพิจารณาคดี และผลกระทบต่อการลงโทษจำคุกสำหรับความผิดหลายกรรม
จำเลยกระทำความผิดหลายกรรม คือฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ กับมีโทษจำคุก 10 วันที่ศาลรอการลงโทษไว้ในคดีก่อน เมื่อลดโทษแล้วศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกสองกระทงแรก 50 ปี และ 1 ปี 6 เดือน ตามลำดับกับบวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้รวมเป็นโทษจำคุก 50 ปี 6 เดือน 10 วัน แต่ในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 ออกใช้บังคับเกี่ยวกับการลงโทษผู้กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งแตกต่างกับกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิด และเป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด จึงต้องใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 คดีนี้เมื่อเรียงกระทงลงโทษแล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ที่ได้แก้ไขใหม่ จะลงโทษจำคุกเกินกว่า 50 ปีไม่ได้ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นให้จำคุก 50 ปีและบวกโทษจำคุก 10 วันที่รอการลงโทษไว้ รวมเป็นโทษจำคุก 50 ปี 10 วัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลงลายมือชื่อรับรองการสอบบัญชีโดยไม่มีใบอนุญาต ผู้สอบบัญชีมีความผิดหลายกรรมตามรายงานแต่ละฉบับ
จำเลยลงลายมือชื่อรับรองการสอบบัญชีในระหว่างใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีขาดต่ออายุ โดยฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติผู้สอบบัญชีฯ มาตรา 13 ย่อมเป็นความผิดหลายกรรมตามรายงานการสอบบัญชีแต่ละฉบับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดหลายกรรมต่างวาระ ฐานฆ่าและพยายามฆ่า จำเลยต้องรับโทษทุกกรรมตามกฎหมาย
ขณะที่ ส. กับน้องชายจำเลยกำลังทะเลาะวิวาทและต่างคนต่างใช้เท้าเตะถีบกันอยู่นั้น จำเลยได้ใช้ปืนยิง ส. หนึ่งนัด กระสุนปืนถูก ส. ล้มลง จากนั้นจำเลยถือปืนวิ่งไปหา พ. ซึ่งยืนดูอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 วาเศษ แล้วใช้อาวุธปืนตบตีศีรษะ พ. หนึ่งครั้งและยิงที่บริเวณศีรษะอีกหนึ่งนัด พ. ล้มลง จำเลยวิ่งกลับไปยิง ส. อีก 2-3 นัด โจทก์ร่วมซึ่งเป็นมารดาของ พ. และเป็นแม่ยายของ ส. เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้วิ่งหนีไปจากที่เกิดเหตุ จำเลยวิ่งตามและใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมหนึ่งนัด แต่กระสุนไม่ถูก เมื่อโจทก์ร่วมล้มลงจำเลยวิ่งไล่ไปทันและได้ใช้อาวุธปืนตีทำร้ายที่ศีรษะโจทก์ร่วมจนเป็นอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บ ส่วน ส. และพ. ได้ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาเพราะบาดแผลที่จำเลยยิง การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกัน กรณีต้องด้วยมาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดหลายกรรมต่างวาระ ฆ่าและทำร้ายร่างกาย ต้องลงโทษทุกกรรม
ขณะที่ ส. กับน้องชายจำเลยกำลังทะเลาะวิวาทและต่างคนต่างใช้เท้าเตะถีบกันอยู่นั้น จำเลยได้ใช้ปืนยิงส. หนึ่งนัด กระสุนปืนถูก ส.ล้มลงจากนั้นจำเลยถือปืนวิ่งไปหาพ. ซึ่งยืนดูอยู่ห่างออกไปประมาณ 1วาเศษ แล้วใช้อาวุธปืนตบตีศีรษะ พ. หนึ่งครั้งและยิงที่บริเวณศีรษะอีกหนึ่งนัด พ. ล้มลง จำเลยวิ่งกลับไปยิง ส.อีก2-3นัดโจทก์ร่วมซึ่งเป็นมารดาของพ.และเป็นแม่ยายของส. เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้วิ่งหนีไปจากที่เกิดเหตุ จำเลยวิ่งตามและใช้ปืนยิงโจทก์ร่วมหนึ่งนัด แต่กระสุนไม่ถูก เมื่อโจทก์ร่วมล้มลงจำเลยวิ่งไล่ไปทันและได้ใช้อาวุธปืนตีทำร้ายที่ศีรษะโจทก์ร่วมจนเป็นอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บ ส่วน ส.และพ. ได้ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาเพราะบาดแผลที่จำเลยยิง การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกัน กรณีต้องด้วยมาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมการบริษัทร่วมรับผิดในความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แม้ไม่ได้รู้เห็นยินยอมโดยตรง และความผิดฐานก่อสร้างโดยไม่ขออนุญาตกับฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเป็นคนละกรรม
จำเลยเป็นกรรมการของบริษัท ช. และให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับบริษัท ช. กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จำเลยจึงต้องร่วมรับผิดกับบริษัท ช. ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522. มาตรา 72
โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันถึงวันเวลาที่จำเลยกับพวกร่วมกันก่อสร้างอาคารพาณิชย์โดยไม่รับอนุญาต กับวันเวลาที่จำเลยกับพวกฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นคนละวันและเวลากัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันถึงวันเวลาที่จำเลยกับพวกร่วมกันก่อสร้างอาคารพาณิชย์โดยไม่รับอนุญาต กับวันเวลาที่จำเลยกับพวกฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นคนละวันและเวลากัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน และการนำโทษรอการลงโทษมาบวกกับโทษในคดีใหม่ ศาลฎีกาตัดสินให้ลงโทษแยกกระทงและไม่บวกโทษ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงต่างกรรมกัน โดยแยกออกเป็น 2 ข้อ ข้อแรกกล่าวถึงความผิดฐานบุกรุกส่วนข้อที่ 2 กล่าวว่าในวาระต่อจากข้อแรก จำเลยกระทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องดังนี้ ก็หมายความว่าจำเลยรับว่าเจตนากระทำผิดตามฟ้องทั้ง 2 ข้อ 2 ฐานความผิดจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องนั้นมิได้หมายความว่าจำเลยรับว่าเคยถูกศาลพิพากษาให้รอการลงโทษมาตามที่กล่าวในฟ้องด้วย เมื่อโจทก์ไม่ สืบพยาน การที่ศาลชั้นต้นนำโทษที่รอมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย จึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
การที่จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องนั้นมิได้หมายความว่าจำเลยรับว่าเคยถูกศาลพิพากษาให้รอการลงโทษมาตามที่กล่าวในฟ้องด้วย เมื่อโจทก์ไม่ สืบพยาน การที่ศาลชั้นต้นนำโทษที่รอมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย จึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้