พบผลลัพธ์ทั้งหมด 439 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1963/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจากคำรับสารภาพร่วมกัน และขอบเขตอำนาจศาลในการพิจารณาโทษของจำเลยที่ไม่ได้ฎีกา
ในกรณีที่ศาลฎีกาเห็นว่ามีเหตุบรรเทาโทษเพราะจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวน สมควรลดโทษให้แก่จำเลยที่ฎีกาขึ้นมาเมื่อจำเลยที่มิได้ฎีกาซึ่งกระทำความผิดร่วมกันก็ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนเช่นเดียวกันเหตุบรรเทาโทษดังกล่าวจึงเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 213 ประกอบด้วยมาตรา 225.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำสุราและมีสุราไว้ในครอบครองเป็นคนละกรรม, การริบทรัพย์สินจากคำรับสารภาพ
พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5,30,32 บัญญัติความผิดและบทลงโทษฐานทำสุรากับฐานมีสุราไว้ในครอบครองไว้คนละมาตรา จึงเป็นความผิดต่างกรรมกัน ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
ข้อหาทำสุราและข้อหามีสุราไว้ในครอบครองในคราวเดียวกันแม้จำเลยจะทำทั้งสุรากลั่นและสุราแช่และมีทั้งสุรากลั่นและสุราแช่ ในแต่ละข้อหาก็เป็นความผิดกรรมเดียวกัน ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาก็ยกขึ้นแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่ารถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง จึงต้องฟังว่ารถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งศาลมีอำนาจริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 การที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่ารถยนต์ของกลางไม่อาจเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามลักษณะของความผิดที่โจทก์ฟ้องได้นั้น เป็นการฟังข้อเท็จจริงที่ผิดไปจากคำรับสารภาพของจำเลยเป็นการไม่ชอบ.
ข้อหาทำสุราและข้อหามีสุราไว้ในครอบครองในคราวเดียวกันแม้จำเลยจะทำทั้งสุรากลั่นและสุราแช่และมีทั้งสุรากลั่นและสุราแช่ ในแต่ละข้อหาก็เป็นความผิดกรรมเดียวกัน ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาก็ยกขึ้นแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่ารถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง จึงต้องฟังว่ารถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งศาลมีอำนาจริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 การที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่ารถยนต์ของกลางไม่อาจเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามลักษณะของความผิดที่โจทก์ฟ้องได้นั้น เป็นการฟังข้อเท็จจริงที่ผิดไปจากคำรับสารภาพของจำเลยเป็นการไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่เพียงพอฟังลงโทษคดีข่มขืน การรับฟังพยานบอกเล่าและการขาดรายละเอียดคำรับสารภาพ
โจทก์ไม่ได้ตัวผู้เสียหายมาเป็นพยาน คงมีแต่คำให้การในชั้นสอบสวนของผู้เสียหายว่าจำเลยข่มขืนผู้เสียหายหลายครั้งพยานของโจทก์ปากอื่นก็ล้วนแต่ได้รับฟังการบอกเล่ามาจากผู้เสียหาย ส่วนคำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมของจำเลยก็ไม่มีรายละเอียดว่าผู้เสียหายถูกข่มขืนกระทำชำเราที่ไหนอย่างไรจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนและชั้นศาลตลอดมา พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่พอฟังลงโทษจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยรับจ้าง & ลดโทษจากคำรับสารภาพ: ศาลลดโทษจำเลยฐานยอมมอบตัวและให้ข้อมูลช่วยเหลือการสอบสวน
จำเลยได้รับค่าจ้าง 100,000 บาท จากผู้อื่นให้ฆ่าผู้ตายการกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยกระทำความผิดแล้วหลบหนีไปประมาณปีเศษจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ คดีมีประจักษ์พยานโจทก์ปากเดียวการที่จำเลยได้รับต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับและต่อพนักงานสอบสวน กับได้ชี้ที่เกิดเหตุและแสดงแผนประทุษกรรมให้ถ่ายภาพประกอบคดีไว้ ถือว่าคำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 825/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยรับจ้างและหลบหนี: ลดโทษจากคำรับสารภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา
จำเลยได้รับค่าจ้าง 100,000 บาท จากผู้อื่นให้ฆ่าผู้ตายการกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยกระทำความผิดแล้วหลบหนีไปประมาณปีเศษจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ คดีมีประจักษ์พยานโจทก์ปากเดียวการที่จำเลยได้รับต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับและต่อพนักงานสอบสวน กับได้ชี้ที่เกิดเหตุและแสดงแผนประทุษกรรมให้ถ่ายภาพประกอบคดีไว้ ถือว่าคำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีอนาจารและฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากพยานหลักฐานแวดล้อมและคำรับสารภาพ
แม้โจทก์จะไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นคนทำร้ายผู้ตายโดยตรงแต่โจทก์มีพยานแวดล้อมที่ใกล้ชิดกับเหตุที่เกิดขึ้นอย่างมาก และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจับจำเลยมาได้ จำเลยก็ให้การรับสารภาพทั้งในชั้นจับกุมและในชั้นสอบสวนโดยละเอียดว่าได้ทำร้ายและกระทำอนาจารผู้ตายจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำอนาจารแก่ผู้ตายโดยใช้กำลังประทุษร้ายและจับผู้ตายคว่ำหน้ากดศีรษะลงไปในโคลน แล้วกระทำชำเราผู้ตายทางทวารหนักเป็นเหตุให้ดินโคลนเข้าไปในปาก ท่อทางเดินหายใจ และหลอดลมทำให้ผู้ตายขาดอากาศถึงแก่ความตาย จำเลยย่อมเล็งเห็นอยู่แล้วว่าจะเป็นผลให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายและกระทำอนาจารเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี แม้จำเลยปฏิเสธในชั้นศาล หากมีพยานหลักฐานยืนยันความผิด
คดีฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 66 วรรคสอง ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตนั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพศาลยังต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 กรณีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องหาพยานหลักฐานมาแสดงต่อศาลจนเป็นที่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิด เมื่อศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานต่างๆของโจทก์ประกอบกับคำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยจนเป็นที่แน่ใจว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริง คำรับสารภาพของจำเลยจึงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลซึ่งถือเป็นเหตุบรรเทาโทษตามกฎหมาย และแม้จะเป็นคดีเกี่ยวกับเฮโรอีนซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษร้ายแรง จำเลยก็ยังสมควรได้รับประโยชน์จากเหตุบรรเทาโทษดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพและพยานหลักฐาน: การบรรเทาโทษในคดียาเสพติด
คดีมีข้อหาจำหน่ายเฮโรอีนซึ่งกฎหมายกำหนดโทษตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต นั้น แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ยังต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 176ดังนั้นเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธจึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่ต้องหาพยานหลักฐานมาแสดงต่อศาลจนเป็นที่เชื่อ ว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงการที่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์ประกอบคำรับสารภาพชั้นสอบสวนจนแน่ใจว่าจำเลยกระทำผิดจริงเช่นนี้ คำรับสารภาพของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล เป็นเหตุบรรเทาโทษ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3261/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่สมัครใจและพยานร่วมกระทำผิดเป็นหลักฐานประกอบคดีปล้นทรัพย์จนผู้อื่นถึงแก่ความตาย
คำเบิกความของ ณ. พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยแต่โจทก์กันไว้เป็นพยานนั้นรับฟังได้ แต่มีน้ำหนักน้อยเมื่อปรากฏว่าคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งห้าได้กล่าวถึงพฤติการณ์ในการปล้นทรัพย์และทำร้ายผู้ตายแล้วนำทรัพย์ไปแบ่งกันโดยละเอียด ตรงกับคำเบิกความของ ณ. ทั้งจำเลยที่ 1 ยังนำถุง ผ้าขนหนูสำหรับใส่สตางค์ของผู้ตายไปมอบให้พนักงานสอบสวนเป็นของกลางการนำชี้ ที่เกิดเหตุ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้งห้ากระทำต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก และยอมให้ถ่าย ภาพ วี.ดี.โอ. ประกอบคดีแสดงว่าจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ จึงเป็นพยานหลักฐานประกอบคำเบิกความของ ณ. และพยานแวดล้อมของโจทก์ให้ฟังได้ว่า จำเลยทั้งห้ากับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นตาย ขณะกระทำผิดจำเลยที่ 2 มีอายุ 17 ปีเศษ สมควรลดมาตราส่วนโทษประหารชีวิตให้หนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา 76 ประกอบด้วย มาตรา52(1) เหลือจำคุกตลอดชีวิต คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิต เป็นโทษจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3261/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ได้มาโดยสมัครใจเป็นหลักฐานสำคัญประกอบพยานหลักฐานอื่นได้ แม้พยานจะเป็นผู้ร่วมกระทำผิด
คำเบิกความของ ณ. พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยแต่โจทก์กันไว้เป็นพยานนั้นรับฟังได้ แต่มีน้ำหนักน้อยเมื่อปรากฏว่าคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งห้าได้กล่าวถึงพฤติการณ์ในการปล้นทรัพย์และทำร้ายผู้ตายแล้วนำทรัพย์ไปแบ่งกันโดยละเอียด ตรงกับคำเบิกความของ ณ. ทั้งจำเลยที่ 1ยังนำถุงผ้าขนหนูสำหรับใส่สตางค์ของผู้ตายไปมอบให้พนักงานสอบสวนเป็นของกลาง การนำชี้ที่เกิดเหตุ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยทั้งห้ากระทำต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก และยอมให้ถ่ายภาพ วี.ดี.โอ. ประกอบคดี แสดงว่าจำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ จึงเป็นพยาหนหลักฐานประกอบคำเบิกความของ ณ. และพยานแวดล้อมของโจทก์ให้ฟังได้ว่า จำเลยทั้งห้ากับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นตาย
ขณะกระทำผิดจำเลยที่ 2 มีอายุ 17 ปีเศษ สมควรลดมาตราส่วนโทษประหารชีวิตให้หนึ่งในสามตามป.อ. มาตรา 76 ประกอบด้วยมาตรา 52(1) เหลือจำคุกตลอดชีวิต คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา78 เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 53คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน.
ขณะกระทำผิดจำเลยที่ 2 มีอายุ 17 ปีเศษ สมควรลดมาตราส่วนโทษประหารชีวิตให้หนึ่งในสามตามป.อ. มาตรา 76 ประกอบด้วยมาตรา 52(1) เหลือจำคุกตลอดชีวิต คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา78 เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 53คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน.