คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คืนเงิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 304 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสัญญาซื้อขายข้าวเปลือก: สิทธิเรียกร้องให้ส่งมอบหรือคืนเงินมีอายุความ 10 ปี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบเงินให้จำเลยไปซื้อข้าวเปลือกแล้วให้จำเลยเก็บข้าวเปลือกไว้ เมื่อโจทก์ต้องการเมื่อใดจำเลยต้องมอบข้าวเปลือกให้ตามข้อตกลง ครั้นโจทก์ไปขอรับข้าวเปลือก จำเลยไม่อาจมอบให้ได้ ขอให้จำเลยส่งมอบข้าวเปลือก ถ้าส่งมอบไม่ได้ก็ให้จำเลยคืนหรือใช้เงินที่ได้รับมอบไว้ ไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวกับการฝากทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 โจทก์มีสิทธิฟ้องภายในกำหนดอายุความ 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะริบเงินวางได้เฉพาะกรณีผิดแบบแปลน การเลิกสัญญากลับสู่สภาพเดิมต้องคืนเงิน
สัญญาที่โจทก์จำเลยทำกันไว้ให้โจทก์ก่อสร้างอาคารในที่ดินของจำเลยมีข้อความว่า " ข้อ 6 ผู้รับสร้างรับรองจะดำเนินการก่อสร้างอาคารตามแบบแปลนท้ายสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญาฯลฯ" และ " ข้อ 9 หากการก่อสร้างได้ผิดแผกแตกต่างไปจากแบบแปลนท้ายสัญญานี้ และเมื่อผู้ให้สร้างได้บอกกล่าวให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง ผู้รับสร้างจะต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องตามสัญญาภายในกำหนดเวลาอันสมควร หากผู้รับสร้างมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญานี้ ให้ถือได้ว่าเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้ให้สร้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้วัสดุภัณฑ์บรรดาที่มีอยู่และสร้างทำลงในที่ดินให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ให้สร้าง และผู้รับสร้างจะเรียกร้องขอคืนเงินส่วนใด ๆ บรรดาที่ได้วางชำระไว้แล้วตามสัญญานี้ไม่ ได้" ความในสัญญาดังนี้ จำเลยผู้ให้สร้างจะริบเงินของโจทก์ที่วางไว้ได้ก็เฉพาะแต่กรณีที่การก่อสร้างได้ผิดแผกแตกต่างไปจากแบบแปลนท้ายสัญญา เมื่อผู้ให้สร้างบอกให้แก้ไขแล้ว ผู้รับสร้างไม่ปฏิบัติเท่านั้น ส่วนกรณีที่ผู้รับสร้างก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญาข้อ 6 ผู้ให้สร้างจะรับเงินที่วางไว้หาได้ไม่ เพราะนอกเหนือข้อตกลงในสัญญาข้อ 9ทั้งสัญญาข้อ 6 ก็มิได้ตกลงให้ริบได้
จำเลยเป็นฝ่ายใช้สิทธิเลิกสัญญาต่อโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็ไม่ขัดข้องสัญญาที่โจทก์จำเลยทำไว้ย่อมเป็นอันเลิกกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายย่อมกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมเสมือนดังว่ามิได้มีสัญญาต่อกันเลยและสิ่งใดที่ส่งมอบให้แก่กันไปแล้วก็ต้องคืนให้แก่กัน แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิที่จะเรียกร้องเอาค่าเสียหาย ในเรื่องผิดสัญญาไม่ชำระหนี้ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
เมื่อสัญญาเลิกกันแล้ว จำเลยก็ต้องคืนเงินที่รับไว้จากโจทก์ให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตั้งแต่วันที่จำเลยได้รับเงินไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563-1564/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคืนเงินที่เบิกเกินสิทธิไม่ใช่การฟ้องละเมิด ไม่ต้องใช้อายุความ 1 ปี
จังหวัดฟ้องข้าราชการสังกัดจังหวัดนั้น ขอให้คืนหรือใช้เงินที่เบิกไปโดยไม่มีสิทธิเบิกกับเงินที่เบิกเกินสมควร เป็นเรื่องเจ้าของทรัพย์สินที่จำเลยผู้กระทำการอันมิชอบ ยึดถือครอบครองไว้โดยไม่มีสิทธิซึ่งเจ้าของมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดจะนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448มาใช้บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาโอนสิทธิการเช่าไม่สมบูรณ์หากผู้รับโอนเข้าทำสัญญาเช่ากับเจ้าของตึกไม่ได้ เงินค่าเช่าช่วงที่เก็บไปต้องคืน
ผู้เช่าทำสัญญากับผู้รับโอน ยอมโอนสิทธิการเช่าตึกให้แก่ผู้รับโอนตั้งแต่วันที่ผู้เช่ามีมติเลิกกิจการบริษัทเป็นต้นไป โดยผู้รับโอนยอมจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เช่าจำนวนหนึ่ง เมื่อผู้รับโอนได้ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของตึกแล้ว เห็นเจตนาได้ว่าเป็นสัญญาซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ผู้เช่าโอนสิทธิการเช่าตึกให้ผู้รับโอนในเมื่อผู้รับโอนทำสัญญาเช่ากับเจ้าของตึกแล้ว ความสำเร็จผลเป็นสัญญาผูกพันกันขึ้นอยู่กับการที่ผู้รับโอนได้ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของตึกเป็นสำคัญ มิใช่เพียงโอนการเช่าหรือให้เช่าช่วงที่มิได้เกี่ยวข้องถึงผู้ให้เช่า
แม้ผู้เช่าจะมอบหมายให้ผู้รับโอนเก็บค่าเช่าช่วงจากผู้เช่าตึกได้ก่อนที่ผู้รับโอนจะทำสัญญาเช่ากับเจ้าของตึก แต่เมื่อผู้รับโอนไม่อาจเข้าเป็นผู้เช่าตึกได้ เพราะเจ้าของตึกไม่ยอมทำสัญญาเช่ากับผู้รับโอน ทำให้สัญญาโอนสิทธิการเช่าไม่บังเกิดผล ดังนั้นการที่ผู้รับโอนเข้าเก็บค่าเช่าช่วงจากผู้เช่าช่วง ย่อมมีผลเป็นเพียงกระทำแทนผู้เช่าเท่านั้น ผู้รับโอนจึงต้องมอบค่าเช่าช่วงที่เก็บไปคืนให้ผู้เช่า โดยหักค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นภาระในการเช่าออกเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนเงินของกลางจากคดีรับของโจร: เงินได้จากการขายทรัพย์สินที่ถูกลักไปไม่ใช่ของเจ้าของเดิม
ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานรับของโจรอาวุธปืนถูกจับได้พร้อมทั้งเงินที่ขายปืนได้ 17,895 บาท จำเลยให้การว่าเงินขายปืนได้มีเพียง 5,800 บาท เงินที่เหลือเป็นเงินส่วนตัวของจำเลย เฉพาะเงิน 5,800 บาท นี้จำเลยไม่ติดใจโต้แย้ง ดังนี้ แม้จะฟังได้ว่าเงินของกลางเป็นเงินที่จำเลยได้จากการขายปืนก็ตามจะถือว่าผู้เสียหายเป็นเจ้าของเงินของกลางทั้งหมดไม่ได้ เพราะมิใช่ทรัพย์สิน ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป และจำเลยรับไว้โดยรู้ว่าเป็นเงินที่ได้จากการกระทำผิด แต่เป็นเงินของผู้ที่ซื้อปืนไปจากจำเลย ให้จำเลยเป็นการชำระราคาปืน ฉะนั้น จึงต้องคืนเงินของกลางให้แก่ผู้เสียหาย 5,800 บาท เท่าจำนวนที่จำเลยพอใจคืนให้แก่ผู้เสียหาย ส่วนที่เหลือต้องคืนให้แก่จำเลย ต่อจากนั้นโจทก์ต้องดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลที่จะให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาปืนที่ยังไม่ได้คืน แก่ผู้เสียหายต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848-850/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงทุนร่วมทุนกับจำเลย ไม่ถือเป็นการยักยอกทรัพย์ แม้จะไม่ได้คืนเงิน
จำเลยชักชวนผู้เสียหายให้นำเงินมาให้จำเลยนำไปเป็นทุนซื้อข้าวสารมากักตุนไว้ขายให้ตำรวจ และให้ตำรวจกู้และจะแบ่งผลกำไรและดอกเบี้ยให้ผู้เสียหายตกลงด้วย จึงมอบเงินให้ไปดังนี้ เป็นเรื่องการเข้ารวมทุนกันให้จำเลยจัดการหาผลประโยชน์เสมือนหนึ่งเป็นเงินของจำเลยเองกรณีไม่เรียกว่าจำเลยรับมอบครอบครองทรัพย์ผู้เสียหายไว้อันจะเข้าเกณฑ์เป็นความผิดฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848-850/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าร่วมทุนเพื่อแบ่งผลกำไร ไม่ถือเป็นการยักยอกทรัพย์ แม้จะไม่ได้คืนเงิน
จำเลยชักชวนผู้เสียหายให้นำเงินมาให้จำเลยนำไปเป็นทุนซื้อข้าวสารมากักตุนไว้ขายให้ตำรวจ. และให้ตำรวจกู้และจะแบ่งผลกำไรและดอกเบี้ยให้. ผู้เสียหายตกลงด้วย จึงมอบเงินให้ไป. ดังนี้ เป็นเรื่องการเข้ารวมทุนกันให้จำเลยจัดการหาผลประโยชน์เสมือนหนึ่งเป็นเงินของจำเลยเอง.กรณีไม่เรียกว่าจำเลยรับมอบครอบครองทรัพย์ผู้เสียหายไว้อันจะเข้าเกณฑ์เป็นความผิดฐานยักยอก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746-747/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขยายกำหนดไถ่ขายฝากต้องห้ามตามกฎหมาย แม้รับเงินผ่อนชำระแล้ว จำเลยต้องคืนเงินหากไถ่ไม่ได้
โจทก์ขายฝากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินไว้กับจำเลย. ฟ้องโจทก์รับอยู่ในตัวว่าโจทก์มิได้ไถ่ทรัพย์พิพาทภายในกำหนด. แต่อ้างว่าจำเลยยอมให้โจทก์ผ่อนชำระราคาตามสัญญาขายฝากจนครบ. และเมื่อครบแล้วจำเลยจะคืนทรัพย์พิพาทที่ขายฝากให้. การตกลงดังนี้เป็นการขยายกำหนดเวลาไถ่ จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา496.
เมื่อโจทก์ไม่สามารถไถ่ที่ดินคืนภายในกำหนดเวลา.จำเลยก็จำต้องคืนเงินค่าผ่อนชำระที่ดินให้แก่โจทก์. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเหมาเจาะบ่อน้ำบาดาล: การผิดสัญญาและสิทธิในการบอกเลิกสัญญา รวมถึงการคืนเงินและค่าเสื่อมสภาพ
ข้อสัญญาที่มีวัตถุประสงค์เป็นการพ้นวิสัยนั้น จะต้องเป็นข้อสัญญาที่ผู้ให้สัญญาไม่มีทางปฏิบัติได้เลย
จำเลยทำสัญญารับจ้างเหมาโจทก์เจาะบ่อน้ำบาดาล เงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อสัญญาที่ให้รับประกันปริมาณและคุณภาพน้ำให้ใช้บริโภคได้มีกำหนดเวลา 4 ปีนั้น เป็นเงื่อนไขที่สามารถปฏิบัติได้ หาเป็นการพ้นวิสัยไม่ การที่จำเลยไม่สามารถเจาะบ่อน้ำบาดาลให้โจทก์ใช้ได้ถึง 4 ปีตามสัญญา จึงไม่ใช่กรณีการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย
ตามสัญญาจ้างเหมา ข้อ 13 ถือว่ารายการแนบท้ายหมายจ.5, จ.6 เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาด้วย และในรายการแนบท้ายดังกล่าว ข้อ 6(14)(15) ผู้รับจ้างคือจำเลย ก็ได้สัญญาให้โจทก์ได้ใช้น้ำในประมาณตามที่กำหนด และรับรองให้โจทก์ได้ใช้น้ำบริโภคได้เป็นกำหนดเวลา 4 ปีนับแต่วันที่คณะกรรมการของโจทก์รับมอบงานงวดสุดท้าย และในรายการแนบท้าย ข้อ 6(16) ก็ได้ระบุว่า ถ้าหากการดำเนินการของผู้รับจ้างได้ผลเป็นที่พอใจของผู้ว่าจ้างตามข้อ (14)และ (15) ผู้ว่าจ้างจะถือว่าผู้รับจ้างได้กระทำการให้ผู้ว่าจ้างถูกต้องเรียบร้อยเสร็จบริบูรณ์แล้ว ฉะนั้น เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่สามารถจะให้โจทก์ได้ใช้น้ำจนครบกำหนด 4 ปี โจทก์จึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาตามสัญญาข้อ 5 ได้ เพราะในสัญญาข้อนี้ได้ระบุไว้ว่า "ฯลฯหรือผู้รับจ้างทำผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใดก็ดี ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญานี้ได้ ฯลฯ" ซึ่งข้อความนี้หาได้จำกัดเฉพาะสัญญาข้อ 5 ก. ข. ค. ไม่
โจทก์จ้างจำเลยขุดบ่อน้ำบาดาล จำเลยรับประกันปริมาณและคุณภาพน้ำให้ใช้บริโภคได้มีกำหนด 4 ปี เมื่อโจทก์ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 การให้คู่สัญญากลับคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยจะต้องคืนเงินค่าจ้างเหมาที่ได้รับไปแล้วแก่โจทก์ ส่วนโจทก์ก็จะต้องคืนสิ่งของต่างๆ ที่จำเลยนำมาติดตั้งให้โจทก์แก่จำเลย แต่ได้ปรากฏว่าสิ่งของต่างๆ ที่จะต้องคืนให้แก่จำเลยนั้น โจทก์ได้นำไปใช้แล้วเป็นเวลาถึง 18 เดือน ทั้งจำเลยก็ได้ลงทุนลงแรงขุดเจาะน้ำบาดาลจนให้โจทก์มีน้ำใช้บริโภคได้ การคืนเงินของจำเลยแก่โจทก์ จึงต้องหักจำนวนเงินค่าเสื่อมราคาสิ่งของเพื่อชดเชยให้กลับคืนสู่สภาพเดิม กับค่าการงานในการติดตั้งให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ตามคำพิพากษา: ส่งมอบห้องหรือคืนเงิน, การบังคับตามลำดับ และเหตุพ้นวิสัย
คำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งถึงที่สุดไปแล้วบังคับว่า ให้จำเลยส่งมอบห้องพิพาทให้โจทก์ ถ้าไม่สามารถส่งมอบห้องได้ ก็ให้จำเลยคืนเงินแก่โจทก์ 12,500 บาท ดังนี้เป็นการกำหนดให้จำเลยกระทำการชำระหนี้ทีละอย่างก่อนหลังตามลำดับ กล่าวคือ ไม่สามารถจะกระทำอย่างแรกแล้วจึงให้กระทำอย่างหลัง ไม่ใช่เป็นการกระทำหลายอย่างอันลูกหนี้จะพึงเลือกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 198 การที่จำเลยอ้างว่าจำเลยต้องใช้ห้องพิพาทเพื่อประกอบอาชีพนั้น เหตุเพียงเท่านี้ยังไม่เป็นอันพ้นวิสัยอันจะเป็นมูลให้จำเลยยกขึ้นอ้างว่าไม่สามารถส่งมอบห้องพิพาทได้ ฉะนั้น โอกาสที่จำเลยจะขอคืนเงินให้โจทก์ จึงยังไม่อาจเกิดขึ้น
of 31