พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2384/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและการมีอาวุธปืน ศาลฎีกายกประโยชน์แห่งความสงสัยและพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้ตายกระทงหนึ่ง มีอาวุธปืนมิได้รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่ง จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาเฉพาะในความผิดฐานฆ่าผู้ตาย ข้อหาฐานมีอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตจำเลยมิได้ฎีกา และแม้ข้อหานี้ต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงก็ดี เมื่อได้ความจากพยานโจทก์เองว่าปืนของกลางเป็นของผู้ตายมีไว้ และข้อเท็จจริงยังเป็นที่สงสัยอยู่ว่าผู้ตายอาจใช้ปืนของกลางยิงตัวตายก็ได้ ดังนี้ศาลฎีกาก็มีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ยกขึ้นวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ในข้อหาฐานมีอาวุธปืนมิได้รับอนุญาตด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2384/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและมีอาวุธปืนเถื่อน ศาลฎีกายกฟ้องเมื่อพยานหลักฐานไม่ชัดเจน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้ตายกระทงหนึ่ง มีอาวุธปืนมิได้รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่ง จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาเฉพาะในความผิดฐานฆ่าผู้ตาย ข้อหาฐานมีอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตจำเลยมิได้ฎีกา และแม้ข้อหานี้ต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงก็ดี เมื่อได้ความจากพยานโจทก์เองว่าปืนของกลางเป็นของผู้ตายมีไว้ และข้อเท็จจริงยังเป็นที่สงสัยอยู่ว่าผู้ตายอาจใช้ปืนของกลางยิงตัวตายก็ได้ ดังนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ยกขึ้นวินิจฉัย ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาฐานมีอาวุธปืนมิได้รับอนุญาตด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 955/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกทำร้าย: การพิจารณาเหตุแห่งการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
ขณะที่ผู้ตายนั่งรับประทานกาแฟอยู่กับ ช.ในร้านของ ท. จำเลยเข้าไปในร้าน ชวนผู้ตายไปนั่งคุยด้วย จำเลยสั่งสุรา ท. ไม่ขายให้เพราะเห็นว่าจำเลยเมาสุราแล้ว จำเลยส่งเสียงเอะอะ ผู้ตายห้ามจำเลยและบอกให้กลับบ้าน จำเลยไม่เชื่อฟัง ผู้ตายจึงถีบจำเลยกระเด็นไปนอกร้านล้มลง ผู้ตายตามออกไปจับจำเลยลุกขึ้นและชกจำเลย ช. ออกไปห้าม ผู้ตายกลับเข้าไปในร้านจำเลยตามผู้ตายไป ผู้ตายชกจำเลยออกไปนอกร้านอีก ช. ออกไปห้ามอีก ผู้ตายกลับเข้าไปนั่งในร้าน ทันใดจำเลยซึ่งยืนอยู่นอกร้านได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย 2 นัด ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะที่ถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2661/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา: การแทงด้วยอาวุธอันตรายโดยเล็งเห็นผลถึงชีวิต ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว
กรณีเกิดจากเป็นปากเสียงแล้วบันดาลโทสะสมัครใจวิวาทจะเข้าทำร้ายกัน และจำเลยเป็นฝ่ายลงมือแทงผู้ตายแล้ววิ่งหนีไป ถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัว
การที่จำเลยใช้มีดพับสปริงปลายแหลมยาว 1 คืบ เป็นอาวุธแทงตรง ๆ ไปที่หน้าอกของผู้ตาย บาดแผลรอยแทงยาว 2.51 เซนติเมตร ลึก 8 เซนติเมตร ทะลุปอดและเส้นเลือดแดงใหญ่ที่หัวใจ แสดงว่าจำเลยแทงไปโดยแรงตรงส่วนสำคัญของร่างกายโดยสำนึกและย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
การที่จำเลยใช้มีดพับสปริงปลายแหลมยาว 1 คืบ เป็นอาวุธแทงตรง ๆ ไปที่หน้าอกของผู้ตาย บาดแผลรอยแทงยาว 2.51 เซนติเมตร ลึก 8 เซนติเมตร ทะลุปอดและเส้นเลือดแดงใหญ่ที่หัวใจ แสดงว่าจำเลยแทงไปโดยแรงตรงส่วนสำคัญของร่างกายโดยสำนึกและย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2661/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้เกิดจากบันดาลโทสะ แต่การลงมือโดยเจตนาและใช้อาวุธอันตราย ถือเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
กรณีเกิดจากเป็นปากเสียงแล้วบันดาลโทสะสมัครใจวิวาทจะเข้าทำร้ายกันและจำเลยเป็นฝ่ายลงมือแทงผู้ตายแล้ววิ่งหนีถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัว
การที่จำเลยใช้มีดพับสปริงปลายแหลมยาว 1 คืบ เป็นอาวุธแทงตรงๆ ไปที่หน้าอกของผู้ตาย บาดแผลรอยแทงยาว 2.51 เซนติเมตร ลึก 8 เซนติเมตร ทะลุปอดและเส้นเลือดแดงใหญ่ที่หัวใจ แสดงว่าจำเลยแทงไปโดยแรงตรงส่วนสำคัญของร่างกายโดยสำนึกและย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
การที่จำเลยใช้มีดพับสปริงปลายแหลมยาว 1 คืบ เป็นอาวุธแทงตรงๆ ไปที่หน้าอกของผู้ตาย บาดแผลรอยแทงยาว 2.51 เซนติเมตร ลึก 8 เซนติเมตร ทะลุปอดและเส้นเลือดแดงใหญ่ที่หัวใจ แสดงว่าจำเลยแทงไปโดยแรงตรงส่วนสำคัญของร่างกายโดยสำนึกและย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงของผู้ตาย แม้ไม่ใช่การป้องกันตัว
ผู้ตายซึ่งไม่เคยรู้จักกับจำเลยมาก่อน ได้มาซื้อสุราจากร้านจำเลยดื่ม ดื่มสุราแล้วเข้าไปแย่งตะไกรจากภรรยาจำเลยซึ่งกำลังตัดผมให้จำเลยอยู่หน้าร้ายจะตัดผมให้จำเลยเอง ทั้งผู้ตายขอเงินจากจำเลยโดยไม่ปรากฏเหตุที่จำเลยจะต้องให้เงินแก่ผู้ตายกับผู้ตายยังอ้างว่าผู้ตายซื้อสลากกินรวบจากจำเลยแล้วถูกรางวัด แต่จำเลยไม่จ่ายเงินให้ จึงเกิดโต้เถียงกัน และผ้าขาวม้าที่จำเลยนุ่งหลุด จำเลยวิ่งเข้าห้อง ขณะนั้นเองผู้ตายจับแขนและล้วงกระเป๋าเสื้อภรรยาจำเลยและขอเงินอีก จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย เช่นนี้ ไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ: การกระทำของผู้ตายที่รุนแรงเป็นเหตุให้จำเลยป้องกันตนเองได้ตามกฎหมาย
ผู้ตายซึ่งไม่เคยรู้จักกับจำเลยมาก่อน ได้มาซื้อสุราจากร้านจำเลยดื่ม ดื่มสุราแล้วเข้าไปแย่งตะไกรจากภรรยาจำเลยซึ่งกำลังตัดผมให้จำเลยอยู่หน้าร้านจะตัดผมให้จำเลยเอง ทั้งผู้ตายขอเงินจากจำเลยโดยไม่ปรากฏเหตุที่จำเลยจะต้องให้เงินแก่ผู้ตาย ซื้อสลากกินรวมจากจำเลยแล้วถูกรางวัล แต่จำเลยไม่จ่ายเงิน ให้จึงเกิดโต้เถียงกัน และผ้าขาวม้าที่จำเลยนุ่งหลุด จำเลยวิ่งเข้าห้อง ขณะนั้นเองผู้ตายจับแขนและล้วงกระเป๋าเสื้อภรรยาจำเลยและขอเงินอีก จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย เช่นนี้ ไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความพยายามกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น เมื่อการกระทำไม่บรรลุผลเนื่องจากอวัยวะที่ถูกยิงไม่สำคัญ
ตามปกติอาวุธปืนเป็นอาวุธร้ายแรง หากกระสุนปืนที่จำเลยยิงถูกอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก็เห็นได้ชัดว่าปืนกระบอกนั้นไม่อาจใช้ยิงให้ผู้เสียหายตายได้ แต่เมื่อกระสุนปืนที่จำเลยยิงเฉียดถูกผู้เสียหายที่ต้นแขนซ้ายมีบาดแผลเล็กน้อย จึงเป็นเรื่องการกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล เพราะกระสุนปืนที่จำเลยยิงนั้นถูกอวัยวะส่วนไม่สำคัญของร่างกาย หาใช่เพราะการกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในฟ้อง ส่งผลต่อความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
ฟ้องว่าจำเลยร่วมกันใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายเป็นอันตรายสาหัสโดยเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 มิได้บรรยายว่าวิวาทกัน ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกับพวกฝ่ายหนึ่ง และผู้เสียหายกับพวกอีกฝ่ายหนึ่งได้ชุลมุนต่อสู้กัน ไม่ทราบว่าใครแทงผู้เสียหายข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสารสำคัญ ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 299 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แม้ตีเพียงครั้งเดียว หากเป็นการทำร้ายร่างกายส่วนสำคัญจนถึงแก่ความตาย และไม่อาจอ้างป้องกันตัวหรือบันดาลโทสะได้
เมื่อผู้ตายล้มลงและจอบหลุดจากมือ ผู้ตายไม่อาจจะทำร้ายจำเลยได้ การที่จำเลยได้ใช้จอบของผู้ตายตีผู้ตายขณะล้มนอนอยู่ จนกะโหลกศีรษะแตก แสดงว่าตีโดยแรง แม้ตีเพียง 1 ที ก็ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า จะอ้างว่ากระทำเพื่อเป็นการป้องกันตัวไม่ได้
จำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยเปิดน้ำในนาของผู้ตายจนแห้งเพื่อนำเข้าไปใช้ในนาของจำเลย เมื่อผู้ตายมาด่าและท้าจำเลย จำเลยทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จะอ้างว่ากระทำไปโดยบันดาลโทสะไม่ได้
จำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยเปิดน้ำในนาของผู้ตายจนแห้งเพื่อนำเข้าไปใช้ในนาของจำเลย เมื่อผู้ตายมาด่าและท้าจำเลย จำเลยทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จะอ้างว่ากระทำไปโดยบันดาลโทสะไม่ได้