คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บุกรุก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 787 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2824/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าไปทำร้ายร่างกายในเคหสถาน แม้ไม่เข้าข่ายรบกวนการครอบครอง แต่เข้าข่ายบุกรุกตามกฎหมาย
ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ขับรถจักรยานยนต์เกือบจะเฉี่ยวชนจำเลยทั้งสองและเกิดการต่อว่าต่อขานกันขึ้น และผู้เสียหายได้ท้าทายให้จำเลยทั้งสองตามไปที่บ้าน เมื่อจำเลยทั้งสองไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 1 ได้ถามหาผู้เสียหายเมื่อทราบว่าผู้เสียหายอยู่ในห้องครัว ก็ได้ตามขึ้นไปบนบ้านและเข้าไปในห้องครัวเมื่อพบกับผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ก็เข้าไปกล่าวหาว่าผู้เสียหายขับรถชนและชกต่อยผู้เสียหาย โดยมีจำเลยที่ 2 เข้าร่วมเตะและถีบการกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการหาเรื่องชวนวิวาทและทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายเท่านั้น จะถือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายยังไม่ได้จึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 362 แต่การที่จำเลยทั้งสองเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถานของผู้เสีย เป็นเหตุหนึ่งที่แสดงถึงความที่ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุกตาม ป.อ. มาตรา 364 แม้โจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตรา 364 แต่ก็บรรยายฟ้องเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยทั้งสองมีข้อความอันเป็นความผิดตามมาตรา 364เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เช่นนี้ ศาลมีอำนาจลงโทษตามมาตรา 364และบทฉกรรจ์ตามมาตรา 365(1),(2) ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192วรรคสี่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2824/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหสถานเพื่อทำร้ายร่างกาย แม้ไม่เข้าข่ายรบกวนการครอบครอง แต่ผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา
ก่อนที่จำเลยทั้งสองจะเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้ขับรถจักรยานยนต์เกือบจะเฉี่ยวชนจำเลยทั้งสองและเกิดการต่อว่าต่อขานกันขึ้น ผู้เสียหายได้ท้าทายให้จำเลยทั้งสองตามไปที่บ้านจำเลยทั้งสองจึงตามไปและเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกันขึ้นที่บ้านผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการหาเรื่องชวนวิวาทและทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายเท่านั้นจะถือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายยังไม่ได้ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 แต่การที่จำเลยทั้งสองเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถานของผู้เสียหายเป็นเหตุหนึ่งที่แสดงถึงความที่ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 364อยู่ด้วย ฉะนั้นแม้โจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตรา 364 แต่ได้บรรยายฟ้องเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยทั้งสองมีข้อความอันเป็นความผิดตามมาตรา 364 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เช่นนี้ศาลมีอำนาจลงโทษตามมาตรา 364 และบทฉกรรจ์ตามมาตรา 365(1)(2) ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2289/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังเลิกสัญญาจะซื้อจะขาย การบุกรุกทำลายทรัพย์สินและการลักทรัพย์
จำเลยทั้งสองเข้าไปขุดดิน เกรดิน ขุดบ่อ และปั้นอิฐขายในที่ดินซึ่งเป็นของโจทก์ร่วมโดยที่จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิที่จะกระทำได้ จึงเป็นการร่วมกันเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข และร่วมกันทำที่ดินของโจทก์ร่วมเสียหายกับเอาที่ดินของโจทก์ร่วมไปโดยทุจริต เป็นความผิดฐานบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดินพิพาท: การกระทำโดยได้รับอนุญาตจากผู้มีสิทธิครอบครองทำให้อาญาฐานบุกรุกไม่สำเร็จ
โจทก์ร่วมกับ ท. มารดาโจทก์ร่วมและจำเลยยังโต้เถียง ความเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทกันอยู่ จำเลยเข้าไปไถที่ดินพิพาทเพราะ ท. ให้จำเลยทำจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดินพิพาท: การกระทำโดยได้รับอนุญาตจากผู้มีส่วนได้เสียทำให้ไม่มีความผิด
โจทก์ร่วมกับ ท. มารดาโจทก์ร่วมและจำเลยยังโต้เถียงความเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทกันอยู่ จำเลยเข้าไปไถที่ดินพิพาทเพราะท. ให้จำเลยทำจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดิน: สิทธิครอบครองที่ไม่สมบูรณ์และการเป็นที่ราชพัสดุ ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุก อ้างว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท แต่โจทก์ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินมาแสดง อีกทั้งทางราชการก็ยังโต้แย้งสิทธิในที่ดินพิพาทของโจทก์อยู่พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่พอรับฟังว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตามกฎหมาย จึงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยที่ไม่ได้รับการอุทธรณ์ในข้อหาบุกรุก ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้ถูกต้อง
คดีนี้ โจทก์ร่วมอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษข้อหาบุกรุก เฉพาะจำเลยที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 และโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์แต่อย่างใด ดังนั้น คดีเฉพาะจำเลยที่ 2ในข้อหาบุกรุกตามที่โจทก์ฟ้องจึงเป็นอันยุติแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2ฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ประกอบมาตรา 365(2) อีกนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยที่ 2 จึงมิได้ฎีกา ศาลฎีกาเห็นสมควรพิพากษาแก้ไขให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสิทธิในมรดกก่อนได้รับมรดกเป็นโมฆะ การครอบครองที่พิพาทของทายาทเป็นการโต้แย้งสิทธิในทางแพ่ง ไม่ถือเป็นบุกรุก
โจทก์ร่วมและ ป. เป็นบุตร พ. จำเลยเป็นบุตร ป. ป.ตายก่อน พ. หลังจาก ป. ตายโจทก์ร่วมแบ่งที่ดินซึ่งเป็นของ พ. และ ป. ให้แก่จำเลยแล้วจำเลยนำที่พิพาทซึ่งโจทก์ร่วมแบ่งให้มาขายคืนให้แก่โจทก์ร่วมก่อนที่ พ. จะตาย เป็นเรื่องที่จำเลยจำหน่ายจ่ายโอนซึ่งสิทธิอันหากจะมีในภายหน้าในการสืบมรดกผู้ที่มีชีวิตอยู่โดยการรับมรดกแทนที่ ป. ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619 สัญญาซื้อขายจึงตกเป็นโมฆะ ที่พิพาทเป็นมรดกของ พ. ที่ยังไม่ได้แบ่ง การที่จำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่งของ พ. มีสิทธิรับมรดกแทนที่ ป. เข้ายึดถือครอบครองที่พิพาท จึงเป็นเพียงโต้แย้งสิทธิของโจทก์ร่วมซึ่งเป็นทายาทด้วยกันในทางแพ่ง จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายสิทธิในมรดกที่ยังไม่เกิดขึ้น และการครอบครองที่พิพาทของทายาท การกระทำไม่ถือเป็นบุกรุก
การที่โจทก์ร่วมแบ่งที่พิพาทให้แก่จำเลย แล้วจำเลยนำที่พิพาทมาขายคืนให้แก่โจทก์ร่วม ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจำหน่ายจ่ายโอนซึ่งสิทธิอันหากจะมีภายหน้าในการสืบมรดกผู้ที่มีชีวิตอยู่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619 หนังสือสัญญาการซื้อขายจึงตกเป็นโมฆะ เมื่อพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่อาจรับฟังได้โดยแน่ชัดว่าโจทก์ร่วมมีสิทธิครอบครองที่พิพาทแต่ผู้เดียว ที่พิพาทยังคงเป็นมรดกของ พ.การที่จำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่งของพ. มีสิทธิรับมรดกแทนที่ ป. ผู้เป็นมารดา เข้ายึดถือครอบครองในที่พิพาทจึงเป็นเพียงโต้แย้งสิทธิโจทก์ร่วมในทางแพ่ง ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานบุกรุกเคหสถานควบคู่กับการลักทรัพย์ ศาลลงโทษฐานบุกรุกได้ แม้ฟ้องฐานลักทรัพย์
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์ของผู้เสียหายในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางซึ่งทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1)(4)(8) การเข้าไปในเคหสถานโดยไม่ได้รับอนุญาตถือได้ว่าเป็นการเข้าไปในเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันสมควรนั่นเองความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานจึงเป็นความผิดที่รวมการกระทำผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 อยู่ด้วยในตัว แม้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน แต่เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกในเวลากลางคืน จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกในเวลากลางคืน ดังนั้น ศาลลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(3) ประกอบมาตรา 364 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย.
of 79