คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ซื้อ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 310 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยสุจริต ผู้ซื้อมีสิทธิจดทะเบียนได้ แม้หลักฐานทางทะเบียนไม่ตรง
เมื่อโจทก์นำยึดทรัพย์ซึ่งเป็นที่ดินสองแปลง มิได้มีผู้ร้องขัดทรัพย์หรือโต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใด จนเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศและขายทอดตลาดไปตามคำสั่งศาล โจทก์เป็นผู้ให้ราคาสูงสุด และศาลสั่งขายให้โจทก์แล้ว เช่นนี้ ถือได้ว่าโจทก์ซื้อทรัพย์รายนี้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยสุจริต โจทก์ย่อมอยู่ในฐานะจดทะเบียนสิทธิเป็นของตนได้ แม้หลักฐานทางทะเบียนจะปรากฏว่ามิใช่เป็นของจำเลยก็ตาม โจทก์ก็ไม่จำเป็นต้องฟ้องร้อง หรือดำเนินคดีเรียกบุคคลภายนอกที่มีชื่อทางทะเบียนมาเป็นคู่ความก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญา CIF และการเสียภาษี: การชำระค่าระวางบรรทุกโดยผู้ซื้อถือเป็นรายรับของผู้ขาย
สัญญาแบบ ซี.ไอ.เอฟ เป็นสัญญาซื้อขายที่ระบุราคาสินค้าโดยคิดรวมค่าระวางบรรทุกและค่าประกันภัยไว้ด้วย เมื่อโจทก์ผู้ขายว่ามีข้อสัญญากันเป็นพิเศษให้ผู้ซื้อเป็นผู้เสียค่าระวางบรรทุก แต่จำเลยปฏิเสธ เช่นนี้ ถือว่าโจทก์เป็นผู้กล่าวอ้าง จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบ
การที่โจทก์ผู้ขายได้รับเงินค่าขายไม้จากผู้ซื้อค่าระวางบรรทุกเป็นค่าใช้จ่ายอยู่ในการลงทุนของโจทก์และผู้ซื้อได้ชำระค่าระวางแทนโจทก์จากเงินราคาค่าไม้ที่โจทก์ได้รับชำระจากผู้ซื้อ จึงต้องถือว่าเงินค่าขายไม้เป็นเงินที่โจทก์ได้รับชำระหรือรายรับของโจทก์ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78 ฉะนั้น ที่เจ้าพนักงานประเมินเรียกเก็บภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลจากโจทก์สำหรับค่าระวางด้วย จึงเป็นการถูกต้องชอบด้วยกฎหมายแล้ว (อ้างฎีกาที่ 785/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1349/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในสลากกินแบ่ง: ผู้ซื้อมีสิทธิตามสัญญา แม้สลากหาย ผู้เก็บได้ไม่มีสิทธิในสลาก
โจทก์ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไทย โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงสิทธิตามสัญญาสลากกินแบ่งและเหนือใบสลากนั้น ฉะนั้น แม้โจทก์จะทำสลากพิพาทหล่นหาย โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิติดตามและเอาคืนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ได้ ส่วนผู้เก็บสลากพิพาทเป็นเพียงบุคคลผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายไม่ใช่เจ้าของ จึงไม่มีสิทธิที่จะเอาไปโอนขายให้แก่ใครได้ แม้ผู้รับโอนจะซื้อสลากพิพาทจากผู้ซึ่งเก็บได้โดยสุจริตและเปิดเผย ผู้รับโอนนั้นก็หามีสิทธิดีกว่าผู้โอนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายฝากเรือนบนที่ดินเช่า: สิทธิของผู้ซื้อและนิติสัมพันธ์กับผู้ให้เช่า
เช่าที่ดินปลูกเรือน ต่อมาผู้เช่าได้ขายฝากเรือนแม้ผู้ให้เช่าทำหนังสือยินยอมในการขายฝาก เรือนหลุดเป็นสิทธิแก่ผู้ซื้อ ผู้เช่าออกจากเรือนไปผู้ซื้อเข้าอยู่แทนและได้ชำระค่าเช่าให้ผู้ให้เช่าแต่ผู้ให้เช่ายังคงออกใบเสร็จรับเงินค่าเช่าให้ในนามของผู้เช่าคนเดิมเช่นนี้ ถือว่าผู้ซื้อยังไม่มีนิติสัมพันธ์กับผู้ให้เช่าที่ดิน ผู้ซื้อจะอ้างความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1038/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบตามกฎหมายศุลกากร: ผู้ซื้อสินค้าเปิดเผยไม่ต้องรับผิดชอบการลักลอบหนีภาษี
หน้าที่ของจำเลยที่จะนำสืบตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ลอบลักหนีอากรขาเข้าขาออกหรือเป็นผู้สมรู้ ในการนั้นหรือหลีกเลี่ยงโดยเจตนาฉ้อด่านภาษี ถ้าหากว่าจำเลยซื้อของไว้จากพ่อค้าในตลาดโดยเปิดเผย แม้ของนั้นจะยังมิได้เสียภาษี จำเลยหาตกอยู่ในบังคับแห่งมาตรา 100 ไม่ จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องสืบให้สมฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินที่ถูกเวนคืน: สิทธิของผู้ซื้อเมื่อผู้ขายได้กรรมสิทธิ์คืน
(1)ในคดีเรื่องเดิม เมื่อศาลฎีกาฟังว่าคู่ความตกลงซื้อขายที่ดินเต็มทั้งโฉนด ต่อมาฝ่ายใดจะฟ้องร้องหรือต่อสู้กันเป็นคดีใหม่ว่าซื้อขายเฉพาะบางส่วน เช่นนี้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความแพ่งมาตรา 148 ทั้งนี้ ถ้าหากเป็นคดีที่ไม่เกี่ยวกับที่ดินซึ่งถูกเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกา
(2) ในสัญญาซื้อขายนั้นอาจระบุถึงที่ดินในเขตเวนคืนได้ แต่ไม่ทำให้ผู้ซื้อมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ถูกเวนคืน
(3) ในคดีเดิม ศาลฎีกาได้พิพากษาให้รัฐบาลคืนที่ดินที่เวนคืนแต่เหลือใช้แก่จำเลย ต่อมาโจทก์ฟ้องเป็นคดีใหม่ว่าจำเลยได้ทำสัญญาขายที่ดินในเขตเวนคืนดังกล่าว จึงมีประเด็นว่า โจทก์จะเรียกร้องให้ส่งมอบได้หรือไม่ ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับคดีเรื่องก่อนๆ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวบกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148
(4) ในเวลาทำสัญญาซื้อขายที่ดิน แม้ผู้ขายจะไม่มีกรรมสิทธิ์ เพราะที่นี้ถูกเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกา แต่ต่อมาผู้ขายได้กรรมสิทธิ์มา เพราะรัฐบาลคืนให้ ผู้ซื้อย่อมเรียกร้องเอาจากผู้ขายได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดิน แม้ผู้ขายไม่มีกรรมสิทธิ์ขณะทำสัญญา แต่หากได้กรรมสิทธิ์ภายหลัง ผู้ซื้อก็มีสิทธิเรียกร้องได้
(1) ในคดีเรื่องเดิม เมื่อศาลฎีกาฟังว่าคู่ความตกลงซื้อขายที่ดินเต็มทั้งโฉนด ต่อมาฝ่ายใดจะฟ้องร้องหรือต่อสู้กันเป็นคดีใหม่ว่าซื้อขายเฉพาะบางส่วนเช่นนี้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 ทั้งนี้ถ้าหากเป็นคดีที่ไม่เกี่ยวกับที่ดินซึ่งถูกเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกา
(2) ในสัญญาซื้อขายอาจระบุถึงที่ดินในเขตเวนคืนฯได้ แต่ไม่ทำให้ผู้ซื้อมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ถูกเวนคืน
(3) ในคดีเดิม ศาลฎีกาได้พิพากษาให้รัฐบาลคืนที่ดินที่เวนคืนแต่เหลือใช้แก่จำเลย ต่อมาโจทก์ฟ้องเป็นคดีใหม่ว่าจำเลยได้ทำสัญญาขายที่ดินในเขตเวนคืนดังกล่าวจึงมีประเด็นว่า โจทก์จะเรียกร้องให้ส่งมอบได้หรือไม่ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับคดีเรื่องก่อนๆ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148
(4) ในเวลาทำสัญญาซื้อขายที่ดิน แม้ผู้ขายจะไม่มีกรรมสิทธิ์เพราะที่นี้ถูกเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาแต่ต่อมาผู้ขายได้กรรมสิทธิ์มา เพราะรัฐบาลคืนให้ผู้ซื้อย่อมเรียกร้องเอาจากผู้ขายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในรถของกลางที่ถูกยึดและการซื้อขายโดยสุจริต ผู้ซื้อย่อมได้กรรมสิทธิ์
รถยนต์ของกลางของจำเลยในคดีความผิดฐานรับของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร และใช้รถยนต์วิ่งบนทางหลวงที่ยังมิได้เปิดเป็นถนนสาธารณโดยไม่รับอนุญาต ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยึดไว้และได้มอบให้บุคคลอื่นรักษาไว้ในระหว่างคดี หากจำเลยได้เอารถคันนั้นไปโอนขายให้บุคคลภายนอก และบุคคลภายนอกได้รับซื้อไว้โดยสุจริต โดยไม่รู้ว่าเป็นรถที่ถูกยึดไว้เป็นของกลางในคดี บุคคลภายนอกผู้นั้นย่อมได้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้น ต่อมาภายหลังเมื่อคดีถึงศาลและศาลได้พิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลาง บุคคลภายนอกผู้นั้นย่อมร้องขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์ของกลางที่ศาลพิพากษาให้ริบนั้นได้ รูปคดีเช่นนี้จะปรับด้วยบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 24 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2497 มาตรา 3 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองห้องเช่าบนที่ดินของผู้อื่นหลังการซื้อขายทอดตลาด: อำนาจของผู้ซื้อ vs. ผู้เช่าเดิม
จำเลยซื้อห้องแถวพิพาทของผู้อื่นซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของโจทก์ได้จากการขายทอดตลาด ตามคำสั่งศาล หากมีสัญญาเช่าระหว่างผู้ร้องกับเจ้าของห้องแถวนี้ก่อนจำเลยซื้อ ก็ไม่มีผลผูกพันโจทก์แต่อย่างใด และก่อนที่จำเลยจะรื้อห้องแถวไป ผู้ร้องยังอยู่ในห้องแถวได้ ก็ต้องถือว่าอยู่โดยอาศัยอำนาจของจำเลยผู้ซื้อห้องแถวนั้นมาได้ เมื่อผู้ร้องไม่สามารถแสดงอำนาจพิเศษ ที่ดีกว่า อำนาจของจำเลยให้ศาลเห็นได้ ก็ต้องออกจากห้องเช่าไปตามสัญญาประนีประนอมที่จำเลยตกลงไว้กับโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าหลังการซื้อขายทอดตลาด: สัญญาเช่าเดิมไม่ผูกพันผู้ซื้อใหม่ ผู้เช่าต้องออกจากห้องเช่าเมื่อสัญญาประนีประนอมสิ้นสุด
จำเลยซื้อห้องแถวพิพาทของผู้อื่น ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของโจทก์ได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลหากมีสัญญาเช่าระหว่างผู้ร้องกับเจ้าของห้องแถวนี้ก่อนจำเลยซื้อก็ไม่มีผลผูกพันโจทก์แต่อย่างใด และก่อนที่จำเลยจะรื่อห้องแถวไปผู้ร้องยังอยู่ในห้องแถวได้ก็ต้องถือว่าอยู่โดยอาศัยอำนาจของจำเลยผู้ซื้อห้องแถวนั้นมาได้ เมื่อผู้ร้องไม่สามารถแสดงอำนาจพิเศษที่ดีกว่าอำนาจของจำเลยให้ศาลเห็นได้ ก็ต้องออกจากห้องเช่าไปตามสัญญาประนีประนอมที่จำเลยตกลงไว้กับโจทก์
of 31