พบผลลัพธ์ทั้งหมด 238 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399-1400/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกของผู้ที่อยู่กินฉันท์สามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน และการโอนสิทธิให้บุคคลภายนอกโดยสุจริต
เป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อยู่กินฉันท์สามีภริยากันกว่า 10 กว่าปี และมีบุตรด้วยกันหลายคน เมื่อชายตายหญิงเชื่อโดยสุจริตว่าตนมีสิทธิรับมรดกของชาย จึงได้ขอรับมรดกที่ดินมีโฉนดของผู้ตาย เมื่อไม่มีทายาทคนใดมาคัดค้านจนหญิงได้รับโฉนดมาและโอนขายให้แก่บุคคลภายนอก ๆ ได้เสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโดยสุจริตแล้ว บุคคลภายนอกย่อมได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่ง ฯมาตรา 1299 วรรคท้าย ทายาทจะขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเสียไม่ได้
ส่วนที่ดินที่ยังมิได้รับโอนมาทายาทย่อมขอให้เพิกถอนประกาศขอรับมรดกของหญิงนั้นได้
ส่วนที่ดินที่ยังมิได้รับโอนมาทายาทย่อมขอให้เพิกถอนประกาศขอรับมรดกของหญิงนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินเมื่อไม่ได้จดทะเบียนสมรส แม้ช่วยบำรุงทรัพย์สินก็ไม่มีสิทธิแบ่ง
ที่ดินมีโฉนดเป็นของหญิงมาก่อนแต่งงานกับขาย และเมื่อแต่งงานกันแล้ว ก็มิได้จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้อง ดังนี้ แม้ชายจะได้ช่วยบำรุงที่ดินนั้นให้มีราคาสูงขึ้นในระหว่างที่อยู่กินกับหญิง ชายก็หามีสิทธิที่จะฟ้องขอแบ่งที่ดินนั้น ได้ไม่ กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 1310 - 1314 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิร่วมในสินสมรส แม้ไม่มีชื่อในโฉนด
แม้เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว ก็ดี ฝ่ายที่ไม่มีชื่อในโฉนดที่ดินอันเป็นสินสมรส ก็ย่อมมีสิทธิขอให้ลงชื่อร่วมกันในโฉนดที่ดินได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1467
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293-294/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินจากการซื้อด้วยเงินของฝ่ายเดียว แม้คบกันฉันสามีภริยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ถือเป็นทรัพย์สินส่วนตัว
ชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา แต่มิได้จดทะเบียนสมรส จึงนับว่าเป็นผัวเมียกันไม่ได้ ฉะนั้นเมื่อมารดาของหญิงได้ออกเงินจำนวนหนึ่งให้หญิงไปซื้อนาไว้แปลงหนึ่งใส่ชื่อหญิงนั้นในโฉนดแต่ผู้เดียว ส่วนชายมิได้ออกเงินทองลงทุนเข้าหุ้นด้วย ดังนี้ต้องถือว่าที่นานั้นเป็นทรัพย์ส่วนตัวของหญิง เมื่อหญิงตายลง จึงตกเป็นมรดกตกทอดไปยังทายาทของหญิงนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสามีภริยาแม้แยกกันอยู่ - การมีบุตรกับผู้อื่นไม่ทำให้สถานะเปลี่ยนแปลง
สามีภริยาแยกกันอยู่ระหว่างใช้ ป.พ.พ.บรรพ 5 แล้วภริยาไปอยู่กับชู้จนเกิดบุตรด้วยกัน ดังนี้สามีภริยายังเป็นสามีภริยากันอยู่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกกันอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ไม่ทำให้สิ้นสุดสถานะสามีภริยา
สามีภริยาแยกกันอยู่ระหว่างใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 แล้วภริยาไปอยู่กับชู้จนเกิดบุตรด้วยกัน ดังนี้สามีภริยายังเป็นสามีภริยากันอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งงานไม่จดทะเบียนและการแบ่งสินสมรส ศาลยกฟ้องเมื่อไม่ได้เป็นสามีภริยาตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอหย่าจากการเป็นสามีภริยากับจำเลย และขอแบ่งสินสมรส ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยไม่เป็นสามีภริยากัน ศาลก็ไม่จำต้องวินิจฉัยในเรื่องเหตุหย่า และในเรื่องแบ่งทรัพย์ต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมสามีภริยาและการบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์
ที่จะถือว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยาได้นั้น โจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่า เป็นหนี้ที่ต้องด้วยลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ตาม ม.1482
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตาม ม.1483 ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตาม ม.1483 ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมสามีภริยาและการบังคับชำระหนี้จากสินบริคณห์ กรณีสามีไม่ได้ยินยอมและบอกล้าง
ที่จะถือว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างสามีภริยาได้นั้นโจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่า เป็นหนี้ที่ต้องด้วยลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ตาม มาตรา 1482
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตามมาตรา 1483ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้
หากเป็นหนี้ที่ภริยาไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมอนุญาต และสามีได้บอกล้างแล้ว เจ้าหนี้จะยึดสินบริคณห์ทั้งหมดมาชำระหนี้มิได้ เจ้าหนี้ต้องขอแบ่งแยกสินบริคณห์ส่วนของภริยาออกชำระหนี้ทางศาล ตามมาตรา 1483ถ้าเจ้าหนี้มิได้ขอแบ่งสินบริคณห์ ศาลจะสั่งแยกไปทีเดียวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายสินบริคณห์ต้องกระทำโดยสามีภริยาร่วมกัน การจำหน่ายโดยฝ่ายเดียวเป็นโมฆะ
ที่ดินซึ่งเป็นสินบริคณห์ โฉนดมีชื่อสามีภริยา ภริยาเอาไปโอนขายแต่ผู้เดียว สามีมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนได้.