คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อนาจาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 355 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3503/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร: การบรรยายฟ้องและองค์ประกอบความผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันพรากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์อายุกว่าสิบสามปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี และมีข้อความในวงเล็บระบุถึงอายุของผู้เสียหายไว้ชัดเจนว่า ผู้เสียหายอายุ 14 ปีเศษ ไปเสียจากว. ซึ่งเป็นบิดาและผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร โดยผู้เสียหายเต็มใจไปด้วย ดังนี้ครบองค์ประกอบความผิดฐานพรากผู้เยาว์แล้ว ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) หาเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่ ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่1 ได้กระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่หลายครั้งเป็นเพียงข้อประกอบเจตนาแสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันพรากผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารตามบทกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษโดยตรง โจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 จึงไม่จำต้องบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลา สถานที่และจำนวนครั้งที่จำเลยที่ 1 ได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย และที่จำเลยทั้งสองเป็นสามีภริยากันหรือไม่ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา มิใช่ข้อสำคัญที่จะต้องกล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3363/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการแทงหลายครั้ง และความผิดหลายกรรมต่างกัน กรณีบุกรุก ทำร้ายร่างกาย และอนาจาร
จำเลยแทงผู้เสียหายหลายครั้งติดๆ กัน ครั้งแรกแทงถูกที่ด้านหลังบริเวณหัวไหล่ ผู้เสียหายล้มลง พอลุกขึ้นจำเลยก็แทงที่ใต้รักแร้ข้างซ้ายซึ่งเป็นบริเวณใกล้หัวใจ เมื่อมีดหักจำเลยยังใช้ส่วนที่เหลือแทงบริเวณหลังผู้เสียหายอีก 3 ครั้ง มีดมีความยาวทั้งด้ามและตัวมีดถึง 9 นิ้ว เป็นมีดสำหรับปอกผลไม้มีปลายแหลมสามารถใช้เป็นอาวุธทำร้ายร่างกายถึงตายได้เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
รายงานผลการชันสูตรบาดแผลแม้จะเป็นภาษาอังกฤษก็เป็นเพียงส่วนประกอบของคำฟ้องที่บอกลักษณะของบาดแผล ซึ่งโจทก์จะนำสืบว่าผู้เสียหายได้รับบาดแผลอย่างใด และภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายเช่นไรในชั้นพิจารณาได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมจี้ขู่บังคับเอามือจับแขนผู้เสียหายลากลงบันไดเมื่อผู้เสียหายขัดขืนและร้องให้คนช่วย จำเลยจึงใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายโดยจำเลยมีเจตนาขึ้นใหม่เพื่อจะฆ่าผู้เสียหายอันเป็นการปกปิดการกระทำของจำเลยหรือให้การกระทำของจำเลยบรรลุผลตามที่จำเลยมีเจตนามาแต่แรกว่าจะเอาตัวผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารการกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาคนละตอน จึงเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1759/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ครูอนาจารนักเรียนในสถานศึกษา: ความผิดตามมาตรา 285 ป.อาญา
จำเลยเป็นครูสอนวิชาพลศึกษาในโรงเรียนซึ่งผู้เสียหายเป็นนักเรียนอยู่ จำเลยกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายขณะจำเลยทำหน้าที่สอบความรู้วิชาพลศึกษาของผู้เสียหายถือได้ว่าผู้เสียหายเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำเลยตามความหมายของมาตรา 285 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1759/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ครูทำอนาจารนักเรียนในขณะสอบ ถือเป็นผู้ดูแลตามกฎหมาย
จำเลยเป็นครูสอนวิชาพลศึกษาในโรงเรียนซึ่งผู้เสียหายเป็นนักเรียนอยู่ จำเลยกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายขณะจำเลยทำหน้าที่สอบความรู้วิชาพลศึกษาของผู้เสียหายถือได้ว่าผู้เสียหายเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำเลยตามความหมายของมาตรา 285 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3347/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร ข่มขืน และหน่วงเหนี่ยวกักขัง จำเลยที่ 3 สนับสนุนความผิด
พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราแล้วหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้เป็นความผิด 3 กระทง
จำเลยที่ 1 นัดหมายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้จำเลยที่ 3 ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ 2 ตามหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งกลับจากปัสสาวะ และจำเลยที่ 3 ก็ตรงไปเอารถจักรยานอันเป็นพาหนะของจำเลยที่ 1 และผู้เสียหายไป แล้วจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไป เช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำความผิด จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 318

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3347/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร ข่มขืน กระทำชำเรา และหน่วงเหนี่ยวกักขัง จำเลยที่ 3 สนับสนุนความผิด
พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราแล้วหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้เป็นความผิด 3 กระทง
จำเลยที่ 1 นัดหมายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้จำเลยที่ 3 ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ 2 ตามหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งกลับจากปัสสาวะ และจำเลยที่ 3 ก็ตรงไปเอารถจักรยานอันเป็นพาหนะของจำเลยที่ 1 และผู้เสียหายไป แล้วจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไป เช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2กระทำความผิด จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86,318

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร แม้ผู้เสียหายสมัครใจไปด้วยก็เป็นความผิด
จำเลยกับพวกพาผู้เสียหายอายุ 14 ปี ไปจากบิดาและพักค้างคืนตามโรงแรมในสถานที่ต่าง ๆ หลายคืนติดต่อกัน บางคืนจำเลยที่ 1 ก็พักห้องเดียวกับผู้เสียหายและได้กระทำชำเราผู้เสียหายด้วยนั้น ถือได้ว่าจำเลยร่วมกับพวกพรากผู้เสียหายไปเสียจากบิดาเพื่อการอนาจาร แม้ผู้เสียหายจะเต็มใจไปด้วยก็ไม่พ้นผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร แม้ผู้เสียหายสมัครใจไปด้วย ก็ไม่พ้นผิดตามกฎหมาย
จำเลยกับพวกพาผู้เสียหายอายุ 14 ปี ไปจากบิดาและพัก ค้างคืนตามโรงแรมและในสถานที่ต่าง ๆ หลายคืนติดต่อกัน บางคืนจำเลยที่ 1 ก็พักห้องเดียวกับผู้เสียหายและได้กระทำชำเราผู้เสียหายด้วยนั้นถือได้ว่าจำเลยร่วมกับพวกพรากผู้เสียหายไปเสียจากบิดาเพื่อการอนาจาร แม้ผู้เสียหายจะเต็มใจไปด้วยก็ไม่พ้นผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2740/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเราโดยไม่มีอนาจารอื่นเพิ่มเติม: ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง
การที่จำเลยกับพวกเอามืออุดปากแล้วเอาผ้าขาวม้ามัดมือผู้เสียหายลากเข้าริมถนนแล้วข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเพียงประการเดียว มิได้ทำอนาจารประการอื่นใดอีก จำเลยกับพวกจึงมีความผิดฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง ไม่มีความผิดในข้อหาอนาจารผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจารโดยไม่เต็มใจ การกระทำไม่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย
ผู้เสียหายมิได้รักใคร่กับจำเลยมาก่อน เป็นเพียงคนผู้จักกันเท่านั้น จำเลยได้ชวนผู้เสียหายไปเที่ยวบ้านจำเลย และรับว่าจะพากลับมาส่ง ผู้เสียหายจึงไปกับจำเลยแต่จำเลยกลับพาผู้เสียหายไปพักอาศัยที่บ้านคนอื่น แล้วจำเลยได้ขอจูบแก้มผู้เสียหาย ผู้เสียหายปิดป้องขัดขืน กรณีดังนี้จะถือว่าผู้เสียหายเต็มใจไปกับจำเลยหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318
of 36