พบผลลัพธ์ทั้งหมด 231 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจข่มขู่เรียกทรัพย์สินจากผู้กระทำผิดทางภาษี โดยมิได้ยึดทรัพย์ตามหน้าที่
จำเลยเป็นพลศุลการักษ์มีหน้าที่ตรวจจับผู้กระทำผิดจำเลยได้ทำการจับบุหรี่ซิกาแรตซึ่งมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ มิได้เสียค่าภาษีศุลกากรจากผู้กระทำผิด จำเลยได้บังคับให้ผู้กระทำผิดให้บุหรี่และธนบัตรแก่จำเลย เมื่อเจ้าทรัพย์จะติดตามไป จำเลยยังพูดขู่ไม่ให้ตามไป ถ้าตามไปจะจับ ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยใช้อำนาจหน้าที่ไปขู่เอาทรัพย์เขามา จำเลยไม่ได้ทำการจับกุมยึดทรัพย์ตามหน้าที่ ควรลงโทษจำเลยตามมาตรา 136
การบังคับเอาทรัพย์ตามมาตรา 136 ต้องไม่ส่งคืนทรัพย์
การบังคับเอาทรัพย์ตามมาตรา 136 ต้องไม่ส่งคืนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานเรียกเก็บเงินเกินหน้าที่ และการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของผู้อื่น
เสมียนวิสามัญในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีหน้าที่เก็บเงินค่าเช่าแผงลอยหาบเร่ส่งต่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นเจ้าพนักงานท่านใช้ให้มีหน้าที่เก็บทรัพย์อันต้องส่งต่อรัฐบาล เมื่อเรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะ จึงได้ชื่อว่าเรียกเก็บเงินหรือทรัพย์ที่ไม่ควรจะเก็บตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 135 ส่วนความผิดตามมาตรา 136 นั้น พนักงานผู้กระทำผิดจะต้องใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของตนเอง และต้องบังคับให้เขาให้ หรือให้เขา +ทรัพย์หรือผลประโยชน์อย่างใด ๆ +ควรจะได้ตาม ก.ม. ให้แก่ตัวเองหรือแก่ผู้อื่น การบังคับให้เขา+ทรัพย์ โดยอ้างว่าผู้อื่นให้มาเอา โดยการอาศัยอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของผู้อื่น ไม่ใช่ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง ทั้งเงินที่ +เอานั้นก็อ้างว่าจะไปส่งต่อองค์+ รัฐบาล ไม่ใช่ตัวเอาเองหรือให้+อื่นดังนี้ ยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 136 +ฎีกาโจทก์กล่าววันในฟ้องและจำนวนเงินผิด +เพราะการพลั้งเผลอยังไม่พอจะเป็นเหตุ +ฎีกาโจทก์ ศาลต้องถือเอาฟ้องเดิม +โจทก์เป็นประมาณ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานเรียกเก็บเงินที่ไม่ควรเก็บ และการใช้อำนาจหน้าที่บังคับเรียกทรัพย์
เสมียนวิสามัญในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีหน้าที่เก็บเงินค่าเช่าแผงลอยหาบเร่ส่งต่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ย่อมเป็นเจ้าพนักงานท่านใช้ให้มีหน้าที่เก็บทรัพย์อันต้องส่งต่อรัฐบาลเมื่อไปเรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะ จึงได้ชื่อว่าเรียกเก็บเงินหรือทรัพย์ที่ไม่ควรจะเก็บตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 135
ความผิดตามมาตรา 136 นั้นเจ้าพนักงานผู้กระทำผิดจะต้องใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของตนเองและต้องบังคับให้เขาให้ หรือให้เขาหาทรัพย์หรือผลประโยชน์อย่างใดๆ อันมิควรจะได้ตามกฎหมาย ให้แก่ตัวมันเองหรือแก่ผู้อื่น การบังคับให้เขาให้ทรัพย์ โดยอ้างว่าผู้อื่นให้มาเอาเป็นการอาศัยอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของผู้อื่น ไม่ใช่ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง ทั้งเงินที่เรียกเอานั้นก็อ้างว่าจะไปส่งต่อองค์การรัฐบาล ไม่ใช่ตัวเอาเองหรือให้แก่ผู้อื่นดังนี้ยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 136 ฎีกาโจทก์กล่าววันในฟ้องและจำนวนเงินผิดเพราะการพลั้งเผลอยังไม่พอจะเป็นเหตุให้ยกฎีกาโจทก์ ศาลต้องถือเอาฟ้องเดิมของโจทก์เป็นประมาณ
ความผิดตามมาตรา 136 นั้นเจ้าพนักงานผู้กระทำผิดจะต้องใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของตนเองและต้องบังคับให้เขาให้ หรือให้เขาหาทรัพย์หรือผลประโยชน์อย่างใดๆ อันมิควรจะได้ตามกฎหมาย ให้แก่ตัวมันเองหรือแก่ผู้อื่น การบังคับให้เขาให้ทรัพย์ โดยอ้างว่าผู้อื่นให้มาเอาเป็นการอาศัยอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของผู้อื่น ไม่ใช่ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง ทั้งเงินที่เรียกเอานั้นก็อ้างว่าจะไปส่งต่อองค์การรัฐบาล ไม่ใช่ตัวเอาเองหรือให้แก่ผู้อื่นดังนี้ยังไม่เป็นผิดตามมาตรา 136 ฎีกาโจทก์กล่าววันในฟ้องและจำนวนเงินผิดเพราะการพลั้งเผลอยังไม่พอจะเป็นเหตุให้ยกฎีกาโจทก์ ศาลต้องถือเอาฟ้องเดิมของโจทก์เป็นประมาณ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนนอกเขตพื้นที่: การยึดของกลางเป็นเจ้าพนักงานทุจริต
ตำรวจจับผู้กระทำผิด แล้วยึดของกลางไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวไม่นำส่งเจ้าพนักงานสอบสวนแม้การจับนั้นอยู่นอกเขตท้องที่ที่ตนประจำการก็คงมีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่(อ้างฎีกาที่ 140/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขรก.ใช้อำนาจหน้าที่ทุจริต รับสินบนจากผู้กระทำผิดกฎหมายเหมืองแร่และการเข้าเมือง
ปลัดอำเภอกระทำความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.142 ไม่ได้แต่กระทำความผิดตาม ม.138,และ 146 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจหน้าที่เจ้าพนักงานจับกุมนอกเขต และความผิดต่อเจ้าพนักงาน/ทรัพย์สิน
พลตำหรวดไปจับของกลางไนการเล่นการพนันนอกเขตที่ตนมีอำนาดและหน้าที่นั้น ไม่ถือว่าเปนเจ้าพนักงานกะทำการตามหน้าที่ ของกลางนั้นจึงไม่เปนของต้องยึดหรืออายัดตามกดหมายและการที่ผู้ลักเล่นการพนันไช้กำลังทำร้ายและขู่เข็นเอกของกลางคืนไป จึงไม่เปนความผิดต่อเจ้าพนักงานหรือเปนความผิดต่อทรัพย์.
ความผิดถานลักเล่นการพนันนั้น ราสดรไม่มีอำนาดจับโดยลำพังตามป.ม.วิธีพิจารนาความอาญาม. 79.
อ้างดีกาที่ 1011/2484.
ความผิดถานลักเล่นการพนันนั้น ราสดรไม่มีอำนาดจับโดยลำพังตามป.ม.วิธีพิจารนาความอาญาม. 79.
อ้างดีกาที่ 1011/2484.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ: อำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานและขอบเขตความรับผิดของเสมียน
เสมียนแผนกมหาดไทยประจำอำเภอได้รับมอบหมายจากนายอำเภอผู้เป็นนายทะเบียนปืนให้เป็นผู้กรอกรายการตามแบบฟอร์มใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนเพื่อเสนอนายอำเภอลงนามเช่นนี้ นายอำเภอเป็นเจ้าพนักงานซึ่งมีหน้าที่ทำตามตำแหน่งในเรื่องอาวุธปืนนั้น หากเสมียนดังกล่าวแล้วปลอมใบอนุญาตอาวุธปืนย่อมมีผิดตามมาตรา 224 ไม่มีผิดตามมาตรา 229
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 642/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับเรียกเงินโดยอาศัยอำนาจหน้าที่ และการรับประโยชน์มิชอบ
กรนีที่เปนการบังคับไห้เขาส่งทรัพย์อันเปนผิดตามมาตรา 136.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808-809/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกเงินของเจ้าพนักงาน: ขอบเขตอำนาจหน้าที่และการสืบพยาน
ในเรื่องหาว่าเจ้าพนักงานยักยอกเงินในตำแหน่งหน้าที่.จำเลยต่อสู้และจะขอสืบพยานว่าเป็นการนอกหน้าที่. และตามคำสั่งที่ให้จำเลยไปช่วยราชการไม่กินความถึงการนำส่งเงินที่โจทก์ฟ้องดังนี้. ควรอนุญาตให้จำเลยสืบพยานได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นักโทษทำหน้าที่ยามมิใช่เจ้าพนักงาน – อำนาจหน้าที่จำกัด
นักโทษที่ได้รับแต่งตั้งให้มีตำแหน่งยามในสามัญไม่ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานตามความในมาตรา 169