คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เหตุสมควร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 241 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน กรณีบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ การอ้างว่าเป็นที่ทำกินเดิมไม่เป็นเหตุสมควร
ที่สาธารณประโยชน์นั้นไม่จำเป็นที่ทางราชการต้องสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ก็เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่ตามสภาพ
นายอำเภอสั่งให้จำเลยออกจากที่จำเลยรู้อยู่แล้ว++ สาธารณประโยชน์ จำเลยไม่ยอมออกโดยอ้างว่าเป็นที่ของจำเลยนั้น ไม่ใช่เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายก่อน ศาลยกฟ้องเนื่องจากเหตุป้องกันตัวพอสมควร
ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุก่อนโดยเอาปืนจี้และชกจำเลย จำเลยจึงเตะผู้เสียหาย 1 ทีผู้เสียหายล้มลงไม่มีบาดเจ็บการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานล่าช้า: ศาลอนุญาตได้หากมีเหตุสมควรและไม่ทำให้คู่ความเสียเปรียบ
โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนได้หลงลืมมิได้ระบุพยานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ครั้นล่วงเลยมา 2 วันโจทก์นึกได้รีบยื่นคำร้องขอระบุพยานโดยมีเหตุผลแสดงความสมควรเพราะความเข้าใจผิดเช่นนี้ เมื่อคำนึงว่าหากถ้าศาลอนุญาต คู่ความก็ไม่มีทางเสียรัดเสียเปรียบกัน ศาลก็อนุญาตให้ระบุพยานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: เหตุสมควร & ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนเพราะพยานโจทก์ทุกปากในชั้นสอบสวนว่าเกิดเหตุเวลา 19.00 น. แต่ชั้นศาลพิจารณาพยานโจทก์ทุกปากให้การว่าเกิดเหตุเวลา 17.00 น.เศษโจทก์จึงขอแก้เวลาเกิดเหตุอันเป็นรายละเอียดซึ่งต่อสู้แถลงในฟ้องก่อนศาลพิพากษาดังนี้เมื่อไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหลงข้อต่อสู้ย่อมแก้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 754/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอตรวจสอบสถานที่หลังสืบพยานหลักฐานเสร็จสิ้น ศาลมีสิทธิงดเว้นได้หากไม่เกี่ยวข้องและล่าช้า
คดีแพ่ง เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วจะเริ่มสืบพยานจำเลย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลไปตรวจสอบสถานที่โดยไม่มีเหตุสมควรไม่สามารถทราบในการขอให้ตรวจสถานที่แต่อย่างใดที่ขอให้ไปตรวจก็ล่วงเลยเวลาเกิดเหตุมากว่าปีการตรวจสถานที่ไม่แสดงความจริงที่แน่นอนได้ดังนี้ ศาลสั่งงดไม่ไปตรวจสอบสถานที่จึงเป็นการชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายต่อเนื่อง แม้จมน้ำแล้ว ศาลยกฟ้อง
จำเลยไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อน แต่ผู้ตายเข้าใจว่าจำเลยตีภริยาตน จึงเกิดโทษะชักมีดวิ่งมาทำร้ายจำเลย ถึงกับ
กระโดดจากสพานน้ำไปหาจำเลยในเรือแล้วตกลงไปในน้ำด้วยกัน ผู้ตายโผกอดปล้ำเอามีดทำร้ายจำเลยมีบาดเจ็บ
ถึง 4 แห่ง จนจมน้ำไปด้วยกัน เมื่อต่างโผล่ขึ้นมาแล้วจำเลยจะต้องนึกรู้ว่าตนจะถูกทำร้ายอีก และจำเลยกำลังอ่อน
เพลียเพราะต้องจมน้ำ และน้ำตรงนั้นก็ลึกหยั่งไม่ถึง จะหลีกเลี่ยงด้วยวิธีอื่นไม่ได้ จำเลยจึงยิงผู้ตาย ตาย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวที่ไม่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานแม้มีการยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจตามเหตุสมควรเพื่อความยุติธรรม
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพะยาน โดยเห็นว่าไม่ได้ยื่นก่อนกำหนดวันสืบพยาน 3 วัน ฝ่ายนั้นจึงยื่นคำร้องแสดงเหตุผลต่าง ๆ ขอให้ศาลสั่งรับบัญชีพยานเพื่อสืบพยานของคนต่อไปนั้น ถือได้ว่าเป็นการ
โต้แย้งคำสั่งตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 226 (2) แล้ว.
จำเลยยื่นบัญชีระบบพยานช้าไปเพียววันเดียว โดยมิได้จงใจฝ่าฝืน แต่เป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการ เพียงเท่านี้จะปรับ
ลงโทษถึงกับยอมให้จำเลยมีโอกาสสืบพยานทีเดียว เป็นการรุนแรงไป เมื่อโจทก์ไม่เสียเปรียบ ก็พอถือได้ว่ากรณีมี
เหตุสมควรเพื่อความยุติธรรมที่จะรับฟังพยานหลักฐานจำเลยได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 87(2).
แม้จำเลยจะอุทธรณ์คัดค้านในข้อกฎหมายเพียงว่า การยื่นบัญชีระบุพยานของจำเลย ไม่ผิดต่อกฎหมายเท่านั้น
แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยว่าการยื่นบัญชีระพยานของจำเลยยังไม่ถูกต้องตาม ก.ม.ก็ดี เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นกรณี
มีเหตุสมควรเพื่อความยุติธรรมแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจยกเหตุสมควรเพื่อความยุติธรรมที่จะรับฟังพยาน
หลักฐานของจำเลยได้ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 87 (2) ไม่ถือว่าเป็นการเกินคำขอ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับบัญชีระบุพยานล่าช้า: เหตุสมควรเพื่อความยุติธรรม ศาลมีอำนาจรับฟังพยานได้
โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้ากว่ากำหนดตามกฎหมายไป 2 วัน แต่หาใช่เป็นโดยโจทก์จงใจฝ่าฝืนประการใดไม่ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาต และยื่นคำขอให้ศาลออกหมายเรียกพยาน ศาลก็ออกหมายเรียกพยานให้ตามคำขอแล้ว ทั้งจำเลยก็ยังมิได้สืบพยาน ดังนี้ มีเหตุผลสมควรเพื่อความยุติธรรมที่จะสั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ไว้ได้ (อ้างฎีกาที่ 1830/2492,148/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมฎีกา: ศาลมีอำนาจอนุญาตได้หากมีเหตุสมควรและก่อนหมดอายุความ
ทนายจำเลยยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันสุดท้ายของอายุความฎีกา และได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายที่จำเลยจะใช้แทนโจทก์ไป 15 วัน อ้างเหตุว่าจำเลยอาจเจ็บป่วยหรือมาไม่ทันรถ ศาลชั้นต้นอนุญาต ต่อมาครบ 15 วันจำเลยก็เอาเงินค่าธรรมเนียมค่าทนายมาวางศาลศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกา ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยร้องขอ และศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตขยายระยะเวลาให้ดังกล่าว ได้กระทำก่อนสิ้นอายุความฎีกา และได้พิจารณาเห็นมีพฤติการณ์สมควร จึงสั่งอนุญาต จึงเท่ากับเป็นการขยายเวลาที่จะยื่นฎีกา ย่อมอยู่ในอำนาจที่จะสั่งได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 23 ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาการยื่นฎีกาเมื่อยื่นคำร้องขอเลื่อนวางเงินค่าธรรมเนียมและการพิจารณาเหตุสมควร
ทนายจำเลยยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันสุดท้ายของอายุความฎีกา และได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายที่จำเลยจะใช้แทนโจทก์ไป15 วัน อ้างเหตุว่าจำเลยอาจเจ็บป่วยหรือมาไม่ทันรถศาลชั้นต้นอนุญาต ต่อมาครบ 15 วันจำเลยก็เอาเงินค่าธรรมเนียมค่าทนายมาวางศาลศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยร้องขอ และศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตขยายระยะเวลาให้ดังกล่าว ได้กระทำก่อนสิ้นอายุความฎีกา และได้พิจารณาเห็นมีพฤติการณ์สมควร จึงสั่งอนุญาต จึงเท่ากับเป็นการขยายเวลาที่จะยื่นฎีกาย่อมอยู่ในอำนาจที่จะสั่งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมาย
of 25