คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่สุจริต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 369 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2431/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับโอนทรัพย์สินโดยไม่สุจริตของผู้ซื้อที่ทราบข้อพิพาทเดิมของผู้ขายและสิทธิของผู้อื่น ย่อมอาจถูกเพิกถอนได้
ย. ผู้จัดการมรดกได้แบ่งมรดกซึ่งมีที่ดินและตึกแถวพิพาทเป็นส่วนหนึ่งให้แก่ จ. สามีจำเลยแล้ว จ.และครอบครัวอยู่ในตึกแถวเป็นการครอบครองอย่างเจ้าของ แม้ จ. ตายแล้วจำเลยกับบุตรก็ยังครอบครองต่อมารวมเป็นเวลา 17 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน หุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนโจทก์เคยอาศัยอยู่กับ ย. โจทก์ทราบก่อนซื้อแล้วว่า จำเลยกำลังพิพาทกับย. ที่ศาล เมื่อโจทก์ซื้อมาทั้งที่รู้อยู่ โจทก์ย่อมเป็นผู้รับโอนที่กระทำการโดยไม่สุจริต การรับโอนของโจทก์ย่อมเป็นทางเสียเปรียบแก่จำเลยผู้อยู่ในฐานะอันจะจดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อน จำเลยอาจเรียกให้โจทก์เพิกถอนทะเบียนได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1500/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์เพื่อบังคับคดีและการครอบครองทรัพย์สินที่ถูกยึดโดยไม่สุจริต สิทธิของเจ้าหนี้และผู้ครอบครอง
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินรายพิพาทไว้เพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธิยึดถือครอบครองจนกว่าจะบังคับคดีเสร็จสิ้นหรือมีการถอนการบังคับคดี ในระหว่างการยึดนั้นแม้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้เป็นเจ้าของก็ไม่อาจก่อให้เกิด โอน หรือเปลี่ยนแปลงซึ่งสิทธิในทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้แล้ว ดังนั้น แม้จำเลยเข้าครอบครองที่ดินรายพิพาทก็ไม่อาจอ้างสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดอันจะเป็นเหตุให้ที่ดินรายพิพาทหลุดพ้นไปจากการบังคับคดี
จำเลยเข้าครอบครองปลูกยางพาราในที่ดินรายพิพาทโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้เพื่อบังคับคดีย่อมมิใช่เป็นการเพาะปลูกต้นไม้ในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310 ประกอบกับมาตรา 1314 โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินมีเพียงสิทธิที่จะบังคับตามมาตรา 1311 ประกอบกับมาตรา 1314 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ต้นยางพาราที่จำเลยกรีดเป็นของที่จำเลยปลูกทำลงไว้ การที่จำเลยกรีดยางดังกล่าวหาเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยไม่สุจริต ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน แม้จะรับโอนโดยมีค่าตอบแทนและสุจริต
จ. ทำหนังสือสัญญาจะซื้อที่ดินจาก ป. แล้วร้องขอแบ่งแยกที่ดินออกเป็นแปลงย่อยในนามของ ป. หลังจากนั้นจ. นำที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรขายในนามของจำเลยที่ 1โดยจำเลยที่ 1 ได้ลงทุนปลูกบ้านลงในที่ดินแต่ละแปลงเป็นการแสดงออกให้ปรากฏแก่คนทั้งหลายทั่วไปว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านพิพาทเมื่อโจทก์ตกลงซื้อที่ดินพร้อมด้วยบ้านพิพาทจากจำเลยที่ 1 และชำระเงินครบถ้วนแล้วจำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่จะต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านพิพาทแก่โจทก์ ทั้งปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบกุญแจบ้านที่โจทก์ซื้อแก่โจทก์ ถือได้ว่าโจทก์ได้รับมอบการครอบครองที่ดินและบ้านพิพาทจากจำเลยที่ 1 แล้ว โจทก์จึงอยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อน
จำเลยที่ 2 มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านพิพาทแทนจำเลยที่ 1 มิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง แม้จำเลยที่จะรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านพิพาทมาจากจำเลยที่2 จำเลยที่ 3 ก็หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านพิพาทไม่เพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน
คดีเดิมจำเลยที่ 3 ในคดีนี้ได้ฟ้องขับไล่ ส. ซึ่งเป็นผู้อาศัยอยู่ในบ้านพิพาทซึ่งโจทก์และจำเลยที่ 3ในคดีนี้พิพาทกันอยู่ โจทก์ในคดีนี้ได้ขอเข้าเป็นจำเลยร่วมในคดีดังกล่าวและได้ร้องขอให้นำคดีดังกล่าวมาพิจารณาพิพากษารวมกับคดีนี้ ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตเพราะการร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วมต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิอย่างอื่นนอกจากสิทธิที่มีอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่ตนเข้าเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 58 ดังนั้นประเด็นที่ว่าจำเลยที่ 2 คดีนี้เป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์แทนจำเลยที่ 1 คดีนี้หรือไม่จำเลยที่ 2คดีนี้มีอำนาจโอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 3 คดีนี้หรือไม่จึงไม่ได้รับการพิจารณาในคดีดังกล่าว ประเด็นในคดีนี้จึงเป็นคนละประเด็นกับคดีดังกล่าว ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1540/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับคดี ถือเป็นการโอนโดยไม่สุจริต เจ้าหนี้มีสิทธินำยึดได้
พ. รับโอนที่พิพาทมาหลังจากที่จำเลยแพ้คดีในศาลชั้นต้นแล้วโดย พ. ทราบเรื่องที่จำเลยถูกฟ้องเป็นอย่างดีจึงเป็นการรับโอนโดยไม่สุจริต ผู้ร้องรับโอนต่อจาก พ. โดยรู้ถึงการโอนโดยไม่สุจริตระหว่างจำเลยกับ พ. ดังนี้เป็นการสมคบกันโอนและรับโอนทรัพย์พิพาทของจำเลยเพื่อให้พ้นจากการถูกบังคับคดีถือว่าผู้ร้องรับโอนโดยไม่สุจริตทำให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ โจทก์มีสิทธินำยึดที่พิพาทซึ่งมีส่วนของจำเลยรวมอยู่ด้วยเพื่อขายทอดตลาดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้เดิมหากเพิกถอนเพราะไม่สุจริต
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 92 บัญญัติถึงวิธีการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายไว้โดยเฉพาะแล้ว การที่ศาลเพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ เพราะเหตุเจ้าหนี้ได้กระทำโดยไม่สุจริตตาม มาตรา 114 นั้นเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรา 92 ดังกล่าว เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ที่ถูกเพิกถอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: เพิกถอนการชำระหนี้เพราะไม่สุจริต ไม่ได้รับสิทธิขอรับชำระหนี้เพิ่มเติม
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 92 บัญญัติถึงวิธีการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายไว้โดยเฉพาะแล้ว การที่ศาลเพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้เพราะเหตุเจ้าหนี้ได้กระทำโดยไม่สุจริตตามมาตรา 114 นั้นเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรา 92 ดังกล่าว เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ที่ถูกเพิกถอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนหย่าและแบ่งทรัพย์สินโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต
การที่จำเลยและผู้ร้องขัดทรัพย์จดทะเบียนหย่าและแบ่งทรัพย์สินกันโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงมิให้โจทก์และผู้ร้องสอด ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลยนั้นเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตการกระทำดังกล่าวจึงไม่มีผลทำให้เรือนพิพาทซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วยตกเป็นของผู้ร้องขัดทรัพย์แต่ผู้เดียวตามที่สมยอมกันผู้ร้องขัดทรัพย์จึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยเรือนพิพาทจากการยึด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าสืบพยานเป็นข้อแพ้ชนะใช้บังคับได้ การอ้างพยานเบิกความไม่สุจริตหลังเบิกความแล้วฟังไม่ได้
โจทก์จำเลยตกลงท้ากันขอให้สืบ ส.เป็นพยานหากส. เบิกความเจือสมฝ่ายใด ให้ฝ่ายนั้นชนะคดี ดังนี้ คำท้าของโจทก์จำเลยจึงเป็นคำท้าที่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาท ใช้บังคับได้ เมื่อ ส. เบิกความเจือสมฝ่ายโจทก์โจทก์ก็เป็นฝ่ายชนะคดีตามคำท้า จำเลยจะกลับมายื่นคำร้องอ้างว่า ส. เบิกความโดยไม่สุจริต ขอให้ศาลไต่สวนและเพิกถอนคำท้าภายหลังที่ ส. ได้เบิกความต่อศาลไปแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลให้รับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ว่าผู้ทรงเช็คไม่สุจริตและไม่มีมูลหนี้ ศาลต้องอนุญาตให้จำเลยสืบพยานพิสูจน์
ประเด็นสำคัญที่จำเลยที่ 1 ยกขึ้นต่อสู้ในคำให้การคือเช็คพิพาทที่จำเลยที่ 1 ออกให้แก่จำเลยที่ 2 นั้นเป็นเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกันระหว่างจำเลยทั้งสอง โจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาโดยรู้ว่าจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่จำเลยที่ 2 ผู้โอน อันเป็นการต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมายถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยที่ 1ให้การต่อสู้ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1ผู้สั่งจ่ายให้ใช้เงินตามเช็คดังนั้นจำเลยที่ 1จึงมีสิทธิที่จะนำสืบพยานตามข้อต่อสู้ดังกล่าว(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1238/2501 และ 1768/2517)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3174/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิร้องขัดทรัพย์โดยไม่สุจริตเพื่อประวิงคดี ทำให้ศาลยกคำร้องขัดทรัพย์
คดีได้มีการประกาศขายทอดตลาดแล้ว และเลื่อนการขายทอดตลาดเรื่อยมาโดยเฉพาะผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นบุตรจำเลยได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกศาลสั่งจำหน่ายคดี ครั้งที่ 2 ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา คดีถึงที่สุด ศาลกำหนดให้ผู้ร้องนำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 7 วัน มีการประกาศขายทอดตลาดอีก แต่ก่อนวันนัดซึ่งล่วงเลยเวลาที่ศาลให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาเสียเกือบ 3 เดือนผู้ร้องขัดทรัพย์กลับมายื่นฟ้องขัดทรัพย์ใหม่เป็นครั้งที่ 3 พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องมีเจตนาที่จะประวิงคดีมิให้ศาลขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ถูกยึดเท่านั้น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ต้องยกคำร้องขัดทรัพย์
of 37